กินปูห้อยขาชุมพร เที่ยวบ้านเกาะเตียบ ธนาคารปูเกาะยอ
เที่ยวชุมพร มีอะไรเด็ดอีกมากมาย นอกจากได้เที่ยวเกาะสวยชมธรรมชาติ ยังมีกิจกรรมท่องเที่ยวน่าสนใจ ที่บ้านเกาะเตียบ กินปูห้อยขา ที่ธนาคารปูเกาะยอ ใช้เดินทางแค่ 5-10 นาทีจากบ้านเกาะเตียบไปยังเกาะยอ ก็จะได้อิ่มท้องไปกับอาหารทะเล ทั้งกุ้ง หอย ปู ปลา ชมวิวทะเลสวยๆ บนเกาะ สามารถเที่ยวได้ทุกเพศ ทุกวัย ใครกลัวทะเลหวั่นว่าต้องนั่งเรือไกลๆนานเป็นชั่วโมงนั้นหายห่วง เพราะธนาคารปูเกาะยอตั้งอยู่ใกล้ฝั่งมาก ไปค่ะไปนั่งห้อยขากินปู สนุกๆ กัน
สำหรับการเดินทางไปกินปูห้อยขา เริ่มที่ชายหาดบ้านเกาะเตียบ ตั้งอยู่ในอำเภอปะทิว ชุมพร ซึ่งเป็นจุดขึ้นเรือไปยังเกาะยอ โดยสามารถไปเที่ยวได้ 2 แบบ คือ
– เหมาเรือไปเที่ยวเอง จำนวน 6 คน ขึ้นไป คิดคนละ 200 บาท (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาสอบถามอีกครั้ง) โดยโปรแกรมท่องเที่ยวคือ พาไปกินปูบนเกาะยอ ส่วนปูและอาหารนั้นให้ไปสั่งบนธนาคารปู บนเกะยอได้เลย แต่สำหรับปูแนะนำให้สั่งไว้ล่วงหน้าว่าจะทานกี่กิโล ปูที่ธนาคารปูจะตัวค่อนข้างเล็กมากแต่สดจริง ราคากิโลละประมาณ 200-250 บาท สามารถติดต่อเรือได้ที่ คุณสุ 093-6512268
-ใช้บริการของทัวร์ในพื้นที่ ซึ่งมีให้บริการหลายเจ้า หาได้จากในอินเตอร์เน็ต ส่วนใหญ่จะคิดราคาประมาณคนละ 600-700 บาท ราคานี้เท่าที่เช็คจากหลายแห่ง คือ รวมค่าเรือ ดำน้ำเกาะเวียง อาหารกลางวันแบบง่ายๆบนธนาคารปู ไม่รวมค่าปู แต่มีเจ้าหนึ่งเราไปเจอกันบนธนาคารปู ซึ่งพาลูกค้ามาเที่ยวพอดี อัธยาศัยดีมากมีให้น้ำและน้ำแข็งมาให้คณะเราทานด้วย ราคาทัวร์ คิดราคาคนละ 700 บาท ราคานี้ รวมพาไปดำน้ำเกาะเวียง อาหาร 1 มื้อ ได้แก่ ข้าวผัดปู น้ำผลไม้ น้ำดื่ม น้ำแข็ง ไม่รวมปู แต่ถ้ามา 10 คน ให้ปูฟรี 2 กิโล ซึ่งปูที่ทางทัวร์จัดจะเป็นปูที่สั่งมาจากฝั่งตัวจะใหญ่กว่าธนาคารปู ตกกิโลละ 300 -350 บาท ซึ่งเราว่าโอเคมากในราคานี้ ชื่อ พี่สาย โทร 087 276 9390 (ราคาอาจมีการเปลี่ยนแปลงกรุณาสอบถามอีกครั้ง)
สำหรับการเดินทางของคณะเรามากันประมาณ 9 คน บวกลบคูณหารแล้ว เหมาเรือไปเที่ยวเองน่าจะประหยัดกว่า อีกอย่างเราไม่เน้นดำน้ำด้วย เน้นไปกินปูอย่างเดียว เฉลี่ยค่าเรือและค่าอาหารบนเกาะแล้วตกคนละ 450 บาท แต่ถ้าไปกันแค่ 1-4 คน แนะนำว่าใช้บริการทัวร์ก็น่าประหยัดกว่า เป็นลักษณะไปจอยกลุ่มกับนักท่องเที่ยวคนอื่น
สำหรับระยะเวลาในการท่องเที่ยวใช้เวลาไม่นานค่ะ ประมาณ 2 -3 ชั่วโมง รวมรับรับประทานอาหารด้วย ถ้าเหมาเรือไปเองจะเที่ยวเวลาไหนเช้ากลางวัน บ่าย ได้หมด แต่ถ้าใช้บริการทัวร์ก็จะเริ่มในช่วงเช้า เราเริ่มการเดินทางประมาณ 10 โมง โดยนัดหมายกับทางน้องยอดไว้ ที่บ้านเกาะเตียบ ซึ่งเป็นจุดขึ้นเรือ ในช่วงน้ำลง จะปรากฏเป็นริ้วรายสันทรายริมหาดมองแล้วสวยมาก น้ำทะเลที่บ้านเกาะเตียบค่อนข้างใสเลยทีเดียว
จากชายหาดบ้านเกาะเตียบ จะเห็นเกาะกลางทะเล และมีกระชังอยู่ด้านข้าง นั่นคือ เกาะยอซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคารปู จุดหมายของเรา ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลกันสามารถมองเห็นได้ชัดเจน ทำให้สมาชิกร่วมทริปแซวกันแบบติดตลกว่า เดินไปก็ได้ใกล้แค่นี้เอง จริงๆ คือเดินไปไมได้ค่ะ ต้องนั่งเรือไป ถ้าเดินไปคงได้จมอยู่กลางทะเลเป็นแน่
บรรยากาศของชุมชนบ้านเกาะเตียบ ซึ่งเป็นหมู่บ้านชาวเล ดำรงชีวิตด้วยการทำอาชีพประมง ทำให้เราเห็นเรือประมงของชาวบ้านจอดเทียบอยู่ริมฝั่งเป็นจำนวนมาก
จากเกาะเตียบ มองเห็นพระพุทธรุปโดดเด่นอยู่ริมเขา คือ วัดแก้วประเสริฐ เป็นวัดที่ชาวบ้านเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า วัดเจ้าแม่กวนอิม โดยวัดนี้สร้างขึ้นบนเนินเขาที่อยู่ริมชายทะเล ภายในวัดมีสิ่งก่อสร้างทั้งแบบไทยและจีน ไว้มากมายเพื่อให้ผู้คนได้สักการะ โดยเฉพาะพระนาคปรก 9 เศียร สูง 9.99 เมตร และพระโพธิสัตว์กวนอิมแห่งทะเลใต้ สูง 9.99 เมตรนั้น ดูจะเป็นไฮไลท์ เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในเส้นทางผ่านเข้ามาบ้านเกาะเตียบ จะแวะก่อนไปเกาะยอหรือหลังจากกินปูห้อยขาแล้วก็ได้ค่ะ ข้างบนเป็นจุดชมวิวที่สวยงามมาก มองเห็นทิวทัศน์ของแผ่นดินเว้าแหว่งประดุจแหลมที่ยื่นล้ำเข้าไปในทะเลได้อย่างสวยงามราวภาพวาด คือ คณะเราไม่ได้ขึ้นไป แต่แค่นั่งรถผ่านแล้วมองลงไปยังวิวทะเลเบื้องล่างจากด้านล่างของวัดยังสวยมาก ยังแอบเสียดายที่ไม่ได้แวะ
ระหว่างรอเรือ ก็นั่งเล่น เดินเล่น ชมวิวทะเล ถ่ายภาพกันไปเรื่อยๆ ภาพทะเลที่อยู่ตรงหน้ารู้สึกเหมือนกำลังมองวิวอยู่ในทะเลฝั่งอันดามัน สีน้ำทะเลเป็นสีฟ้าสวยมาก
เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่น้ำลง เรือเข้าไปจอดชิดฝั่งมากไม่ได้ ต้องเดินผ่านน้ำทะเลไปแต่น้ำก็ไม่ลึกมากประมาณแค่เข่า เรือไม่ใช่เรือหางยาวเป็นเรือยางที่ใช้ในการปฏิบัติงานของศูนย์ฯ ไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย มีชูชีพให้ และน้ำทะเลก็นิ่งมาก ไม่มีการกระแทกหรือน้ำกระเซ็นใดๆ อีกอย่างคือ เกาะยอตั้งอยู่ใกล้ฝั่งมาก นั่งเรือไม่ถึง 10 นาที
เรือกำลังเทียบท่าเข้าฝั่งของธนาคารปูเกาะยอ ซึ่งสร้างเป็นกระชังสำหรับเพาะพันธุ์หรืออภิบาลสัตว์ทะเล มีสะพานไม้ระหว่างธนาคารปูเชื่อมไปยังเกาะยอ ซึ่งได้จัดทำเป็นเส้นทางเดินชมวิวรอบเกาะ
พื้นที่ในส่วนของที่นั่งรับประทานอาหาร เป็นโต๊ะกระจกใสมองเห็นน้ำทะเลด้านล่าง จึ่งเป็นที่มาของคำว่า กินปูห้อยขา มองไปข้างล่างมีฝูงปลาตัวเล็กตัวน้อยแหวกว่ายจำนวนมาก
ระหว่างรออาหาร เดินเล่นชมวิวรอบกระชังซึ่งเป็นฟาร์มของศูนย์เพาะขยายพันธุ์สัตว์ทะเลของสถาบันเทคโนโลยี ฯ ลาดกระบัง วิทยาเขตชุมพร เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ศึกษาวิจัยสัตว์ทะเลนานาชนิด ซึ่งภายในกระชังนั้นส่วนใหญ่จะเป็นปลา เช่น ปลากะพงขาว ปลาช่อนทะเลยักษ์ ปลาช่อนทะเล ปลาเก๋ายักษ์ และ มีฟาร์มเลี้ยงปูและหอยแมงภู่ อยู่บ้าง
นอกจากปลาที่เพาะพันธุ์ในกระชังแล้ว ยังมีการอนุบาลสิ่งมีชีวิตในทะเล เช่น ดอกไม้ทะเล ปลิงทะเลด้วย สิ่งมีชีวิตทั้ง 2 ชนิด ถือว่าสำคัญกับระบบนิเวศในทะเล น้องยอดนำชมและอธิบายให้เราฟัง อย่างปลิงทะเลสัตว์ที่บางครั้งเรารู้สึกกลัว มีประโยชน์การรักษาระบบนิเวศของน้ำช่วย เป็นตัวย่อยสลายพวกสารอินทรีย์ในตะกอนและปล่อยสารอาหารคืนสู่ห่วงโซ่อาหาร ซึ่งสิ่งมีชีวิตทุกอย่างในทะเลนั้นเรียกว่าอยู่ในสภาวะที่ช่วยเกื้อหนุนกัน
เจ้าสิ่งที่เห็นเป็นพวงไข่ นี้คือ ไข่ปลาหมึก ไม่ใช่ไข่ปลาหมึกที่เราทานกัน หากมองเข้าไปมองใกล้ๆ จะเห็นตัวอ่อนของเจ้าปลาหมึกด้วย
จากนั้นเดินไปชมวิวบนเกาะยอ ซึ่งมีสะพานไม่เชื่อมต่อถึงกัน มองลงมายังกระชังข้างล่าง ที่รายล้อมด้วยผืนน้ำทะเลสีเขียวมรกตสวยมาก
ทางศูนย์ฯได้จัดทำเส้นทางเดิมชมธรรมชาติ ชมวิวรอบเกาะ ใช้ระยะเวลาเดินชมไม่ถึง 10 นาที แนะนำให้ติดหมวกไปด้วยเพราะแดดแรงและอากาศค่อนข้างร้อน
วิวระหว่างทางมองลงไปสีน้ำทะเลสวยมาก น้ำทะเลฝั่งใกล้กับเกาะน้ำค่อนข้างใส
บางช่วงยังมีร่มเงาของต้นไม้ให้ความร่มรื่น มีการพื้นที่นั่งพักเป็นเก้าอี้ระหว่างทางเป็นบางจุด
ได้เหงื่อจากจากการเดินชมวิว ถึงเวลารับประทานอาหารกลางวัน มื้อเที่ยงของเรา ที่ธนาคารปูจะมีอาหารไม่เยอะค่ะ นอกจากปูม้าสดๆ มี หอยแมลงภู่อบ กุ้งอบเกลือ ปลาจาระเม็ดสามรส และปลาหมึก ข้าวเปล่า เมนูมีแค่นี้ เพราะส่วนใหญ่เน้นมากินปูมากกว่า ส่วนน้ำดื่มมีน้ำเปล่าและน้ำอัดลม แช่เย็น น้ำแข็งไม่มีขาย หากต้องการทานอะไรพิเศษเพิ่มเติมสามารถซื้อจากฝั่งมาทานได้ สำหรับราคาอาหารจะอยู่ที่จานละ 200 บาทอัพ ปูโลละ 200-250 บาท ตัวจะไม่ใหญ่แต่รับประกันความสด สำหรับมื้อนี้เราสั่งปู 5 โล กุ้ง 2 จาน หอยแมลงภู่ 2 จาน ปลาจาระเม็ด 1 ตัว ข้าวเปล่า และน้ำอัดลม เช็คบิลมาทั้งหมดประมาณ 2200 บาท หาร 9 คน ตกคนละ 250 บาท รวมกับค่าเรือคนละ 200 บาท รวมราคาทริปนี้ค่าใช้จ่ายคนละ 450 บาท ถือว่าไม่แพงมาก
บ่ายสองโมง ได้เวลากลับ น้องยอดขับเรือพาเราชมวิวเกาะพระจากบนเรือ เกาะพระตั้งอยู่ใกล้กับเกาะยอ เกาะพระ มีวัดกลางทะเล มีหลวงพ่อปริสุทโธ จำพรรษาอยู่ 1 องค์ เป็นแหล่งปฎิบัติธรรม บวชชีพราหมณ์จึงเป็นที่มาของชื่อเกาะว่า เกาะพระ
จากนั้นก่อนขึ้นฝั่งบ้านเกาะเตียบ ก็พาเรือวนมาชมเกาะเตียบ ลักษณะเป็นเกาะเล็กๆ ที่เรียกว่าเล็กมา ตั้งอยู่ใกล้กับชายฝั่ง มองไปมองมาคล้ายกับเกาะตาปู พังงา ถ้าเข้าไปใกล้ๆ จะเห็นว่ามีพวกมาลัยอยู่บนยอดเกาะ เพราะว่าเกาะเตียบ เหมือนกับสิ่งศักดิ์สิ่งที่ชาวบ้านในชุมชนให้ความเคารพนับถือ
ถึงฝั่งบ้านเกาะเตียบ น้ำทะเลเริ่มขึ้นแล้วมาบ้างแล้ว แต่เรือก็ยังจอดเทียบชิดหาดไม่ได้ ลงเดินต่อค่ะ สัมผัสได้ถึงความใสของน้ำ
เที่ยวบ้านเกาะเตียบ กินปูห้อยขา ทานอาหารทะเลสด ได้เดินชมวิวสวยรอบเกาะยอ ถือว่าคุ้มค่า กับเงินหลักร้อยที่จ่ายไป เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสนุกๆของการเที่ยวชุมพร ที่ไม่ได้มีดีแค่เพียงเกาะสวย