ฮีลใจที่ บ้านป่าเหมี้ยง หมู่บ้านสโลวไลฟ์ กลางป่าเขียว และลำธาร
บ้านป่าเหมี้ยง หมู่บ้านสุดสโลวไฟล์กลางหุบเขา และป่าไม้ที่อุดมสมบูรณ์ มีลำธารไหลผ่าน อากาศบริสุทธิ์เย็นสบายตลอดทั้งปี เป็นหมู่บ้านที่ต้องบอกว่าดีเกินความคาดหมาย ทั้งบรรยากาศความสดชื่นของป่าไม้เขียวขจี เสียงลำธารไหลผ่านช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย การดำเนินชีวิตของคนในหมู่บ้านที่ยังคงมีความเรียบง่ายอบอุ่น บ้านป้าเหมี้ยงมีที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ให้บริการหลายแห่ง แค่ได้มานอนพักเดินเล่นชมบรรยากาศในหมู่บ้าน มองดูผู้คน ช่วยฮีลใจและฮีลกายได้อย่างแท้จริง
บ้านป่าเหมี้ยง ตั้งอยู่ในตำบลแจ้ซ้อน อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เส้นทางเดียวกับทางไปอุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน โดยต้องขับรถผ่านเข้าไปในอุทยานฯ เพื่อเข้าบ้านป่าเหมี้ยงใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เส้นทางคดเคี้ยวในระดับนึงแต่เป็นถนนราดยางตลอดสาย เป็นหมู่บ้านเล็กๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ในอ้อมกอดของขุนเขาและผืนป่า มีลำธารไหลผ่าน ชาวบ้านส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเก็บใบชา เพื่อนำมาแปรรูปเป็น เหมี้ยง หรือ เมี่ยง ของทานเล่นของภาคเหนือ จนกลายเป็นชื่อหมู่บ้านป่าเหมี้ยง นอกจากเหมี้ยง กาแฟ คือ อีกหนึ่งพืชผลทางการเกษตร ที่เป็นอีกหนึ่งอาชีพของชาวบ้าน ระหว่างเดินเล่นในหมู่บ้านเห็นต้นกาแฟปลูกไว้หน้าบ้านเหมือนเป็นไม้ประดับก็ว่าได้
บ้านเรือน ภายในหมู่บ้าน เป็นบ้านเรือนไม้แบบดั้งเดิมเกือบทั้งหมด หน้าบ้านมีต้นไม้ดอกไม้ปลูกไว้ เกือบทุกหลัง มองแล้วสบายตา สบายใจมาก เดินผ่านก็จะผู้เฒ่าผู้แก่ จับกลุ่มคุยกันด้วยหน้าตายิ้มแย้ม ที่เรามองภาพแล้วก็รู้สึกอบอุ่นและมีความสุขตาม แถมบ้านป่าเหมี้ยงอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี เคยมาเที่ยวในช่วงเดือนมีนาคมในช่วงเทศกาลดอกเสี้ยวบาน อากาศยังเย็นยิ่งช่วงกลางคืนอากาศเย็นมากเหมือนฤดูหนาว ด้วยองค์ประกอบทุกอย่างทำให้คิดว่าคนที่นี่ต้องมีสุขภาพแข็งแรงมาก คงไม่ค่อยมีคนเจ็บป่วยด้วยโรคภัย เพราะดูจากบรรยากาศแล้วฮีลสุดๆ
มีหลายคนให้คำนิยามว่า บ้านป่าเหมี้ยง คือ บ้านแม่กำปองในยุคแรก แต่สำหรับเราที่เคยเห็นบ้านแม่กำปองตั้งแต่แรกจนถึงวันนี้ เราว่าไม่เหมือนกัน อาจจะเหมือนกันแค่ภาพของบ้านเรือนที่อยู่กลางหุบเขาในป่า มีลำธารผ่าน แต่บ้านป่าเหมี้ยงให้ความรู้สึกเป็นชุมชนของชาวบ้านมากกว่า บ้านเรือนตลอดทั้งสองฝั่ง คือ ที่อยู่อาศัยเกือบทั้งหมด และยังคงใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย ซึ่งจะต่างกับแม่กำปอง เพราะบ้านเรือนในแม่กำปองส่วนใหญ่ คือ โฮมสเตย์มาตั้งแต่ในยุคแรก จะเดินเล่นกลางถนนมองดูวิถีผู้คนชิลๆแบบบ้านป่าเหมี้ยงอาจต้องระวังรถของนักท่องเที่ยวที่ขับผ่านตลอด
บ้านป่าเหมี้ยง มีที่พักในรูปแบบโฮมสเตย์ภายในบ้านหลายแห่ง แต่โฮมสเตย์ที่ขึ้นชื่อ ต้องยกให้ คนบนดอยโฮมสเตย์ ตั้งอยู่ใจกลางหมู่บ้าน และที่นี่ คือ ที่พักในคืนนี้ ที่พักของแบ่งเป็น 2 หลัง หลังนี้เป็นหลังเดิม เป็นบ้านไม้ 2 ชั้น อบอุ่นเรียบง่าย ชั้นล่างเป็นปูนแบบลอฟท์นิดๆ ข้างหลังบ้านติดลำธาร และมีพื้นที่ส่วนกลางให้นั่งเล่น ราคาที่พักคิดเป็นรายคนๆละ 500 บาท รวมอาหารเช้า เย็น เป็นราคาที่น่ารักมากๆ สำหรับใครอยากจองที่พักสามารถทักไปในเพจ คนบนดอยโฮมสเตย์ https://www.facebook.com/konbondoihomestay/
ภายในบ้านตกแต่งน่ารัก มีมุมนั่งเล่น มุมชงกาแฟ พี่หนุ่ม เจ้าของบ้านที่ดูแลโฮมสเตย์ ชายหนุ่มที่มีบุคลิคนิ่งๆพูดน้อย ยิ้มอ่อน พี่หนุ่มมีอาชีพทำกาแฟด้วย ทั้งปลูกและคั่ว บดเอง ด้วยมือทั้งหมดซึ่งเป็นกรรมวิธีการทำกาแฟแบบดั้งเดิม ลูกค้าที่มาพักจะได้จิบกาแฟดริป ซึ่งจะเสริฟพร้อมอาหารในตอนเช้า
ส่วนบ้านอีกหลังตั้งอยู่ถัดออกไป เป็นบ้านหลังใหม่ ตั้งอยู่ในบริเวณเดียวกับที่อยู่อาศัยของพี่หนุ่มและครอบครัว เราพักหลังนี้เป็นบ้าน 2 ชั้น สร้างด้วยไม้ผสมกับปูนในสไตล์ลอฟท์ ติดลำธารเช่นกัน มีมุมนั่งเล่นหน้าบ้าน โดยภายในบ้านแบ่งเป็นห้องเล็กๆ 2 ห้อง พักได้ห้องละ 2 คน พี่หนุ่มบอกว่ารับลูกค้าแค่เพียงกลุ่มเดียวเท่านั้น อย่างชั้นที่เราพักมีสองห้องพักได้ 4 คน หากมีลูกค้ามาพักแค่ 1 คน หรือ 2 คน จะไม่รับกลุ่มอื่นเพื่อความเป็นส่วนตัว
หน้าห้องพักมีมุมนั่งเล่นริมลำธาร หลายมุม และมีแปลกลางลำธารด้วย
ห้องพักมีแค่เพียงเตียงนอน ไม่มีแอร์ พัดลม แต่ไม่ต้องกลัวจะร้อน เพราะอากาศเย็นทั้งวัน เพราะอยู่ติดลำธาร เต็มไปด้วยต้นไม้ ยิ่งช่วงฤดูหนาวอากาศหนาวมาก บ้านป้าเหมี้ยงตั้งอยู่ในบนดอยนะคะ ขับรถขึ้นมาจะรู้เลยว่ากำลังไต่เขาขึ้นไป เพราะฉะนั้นเราจะได้สัมผัสกับอากาศแบบธรรมชาติเต็มๆ
ส่วนห้องน้ำตั้งอยู่ริมสุดแยกจากห้องนอน ห้องน้ำสะอาดกว้างขวางและมีเครื่องทำน้ำอุ่น
ช่วงสี่โมงเย็น แดดเริ่มอ่อนลง มาเดินเล่นชมบรรยากาศภายในหมู่บ้าน ออกมาจากที่พัก ก็จะเจอกับภาพวาดสตรีทอาร์ทตามผนังบ้าน เป็นภาพที่สื่อถึงวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ ถือเป็นอีกมุมน่ารักๆของบ้านป้าเหมี้ยง
เดินไปยังโรงเรียนบ้านป่าเหมี้ยง มีภาพวาดเพิ่ม ทั้งภาพแมว น้องวัวที่แขวนตระกร้าเก็บเมี่ยง ด้วงกว่างที่เราเข้าใจเองว่าน่าจะเป็นสัตว์ที่ชาวบ้านป่งนิยมเลี้ยง รวมทั้งภาพวาดบนผนังโรงเรียน ที่เป็นภาพบรรยากาศของบ้านป่าเมี่ยงทั้งหมดที่อยู่ท่ามกลางภูเขา ป่าไม้ ลำธาร มองภาพแล้วเหมือนหมู่บ้านชนบทในนิยาย
เลยโรงเรียนไป จะเจอกับทางแยก เลี้ยวไปทางขวา คือ วัดป่าเหมี้ยง วัดเพียงหนึ่งเดียว ซึ่งเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านในหมู่บ้าน เป็นวัดเล็กๆที่มีอุโบสถสวยงาม
จากวัดเดินย้อนกลับมาทางเดิม มาถึงใจกลางหมู่บ้านเป็นศูนย์กลางท่องเที่ยว ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ร้านขายงสินค้าจากชุมชน เป็นบ้านไม้ มีกิมมิค คือ หน้าต่างที่สามารถเข้าไปนั่งถ่ายรูปได้
ที่นี่มีสินค้าขาย ทั้ง ชาใบเมี่ยง กาแฟ หมอนใบชา สินค้าขึ้นชื่อดีต่อสุขภาพ รวมทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า สไตล์ชาวดอย ขายในราคาไม่แพง
ช๊อปกระเป๋านกฮูกมาหนึ่งใบราคา 140 บาท สะพานถ่ายรูปในทันใด เดินมาชมสะพานรักดอกเสี้ยว จากสะพานจะได้เห็นวิวลำธารและต้นไม่เยอะมาก ในช่วงเทศกาลดอกเสี้ยวบานเดือนมีนาคม เราจะได้เห็นดอกเสี้ยวสีขาวบานเต็มหมู่บ้าน จึงเป็นที่มาของชื่อสะพาน เพราะเราสามารถชมได้จากสะพานนี้ด้วย
ระหว่างเดินเล่นในหมู่บ้าน เราได้เห็นภาพของวิถีชีวิตที่เรียบง่าย บางบ้านยังคงใช้ฟืนในการประกอบอาหาร คนในครอบครัวนั่งในบ้านเพื่อรอทานข้าว เป็นวิถีชีวิตแบบชนบทดั้งเดิมที่ไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก เรายืนนิ่งแอบมองภาพนั้นด้วยรอยยิ้มอยู่ห่างๆ เห็นแล้วทำให้รู้สึกอบอุ่นใจ
ช่วงเย็นกลับมาทานอาหารที่หน้าห้องพัก เป็นอาหารง่ายๆประมาณ 3 อย่าง ทั้งต้มจืด ผัดผัก ไข่ปามในใบตอง ชุดน้ำพริกผักสด ใส่มาในภาชนะน่ารัก
หลังสบายนอนฟังเสียงลำธารขับกล่อม ตื่นเช้ามาทานอาหารเช้าที่บ้านหลังแรก อาหารเช้าเป็นข้าวต้ม และมีชุดดริปกาแฟมาให้ด้วย พี่หนุ่มดริปให้เราดื่มด้วยตัวเอง
หลังจากทานข้าวแล้ว กลับมานั่งเล่นหน้าห้องพัก ช่วงเช้าอากาศหนาวมาก เสียงลำธาร เสียงธรรมชาติ ช่วยฮีลใจได้อย่างดี ความรู้สึกเหมือนเวลาเราไปเที่ยวทะเลได้ยินเสียงคลื่น มองทะเล แค่นี้ก็ทำให้เรารู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก เขาถึงบอกกันว่า ธรรมชาติช่วยเยียวยาเรื่องบางเรื่องที่ทำให้เราไม่สบายใจได้ ถึงแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆแต่ก็ยังดีนะคะ
ถึงเวลาต้องไปต่อ ก่อนกลับเราแวะไปที่ร้านกาแฟขึ้นชื่อขง “ป่าเหมี้ยงคอฟฟี่เฮ้าส์” ร้านกาแฟในบ้านไม้ ที่ซ่อนตัวอยู่ในบ้านป่าเหมี้ยง ลำปาง ชุมชนแสนสงบที่อัดแน่นด้วยความเป็นธรรมชาติ ทั้ง ป่าเขา ลำธาร อากาศที่เย็นสบายตตลอดทั้งปี นอกจากบรรยากาศสุดชิลที่มองเห็นวิวของบ้านป่าเมี้ยง ชวนให้นั่งพักผ่อน ยังมีอาหารพื้นถิ่นรสชาติดีพร้อมเสิร์ฟ ทั้งยำใบเมี่ยง ชุดน้ำพริกไส้อั่วสมุนไพรรสชาติอร่อยมากจนต้องขอซื้อไส้อั่วกลับบ้าน ยำไข่น้ำแร่ อาหารขึ้นชื่อแห่งแจ้ซ้อน อิ่มท้อง อิ่มใจกับบรรยากาศ ฮีลใจได้ไปแบบเต็มๆ
ป่าเหมี้ยงคอฟฟี่ ตั้งอยู่ในบ้านป่าเหมี้ยง อำเภอเมืองปาน จังหวัดลำปาง เป็นร้านกาแฟและร้านอาหารรวมทั้งที่พักแบบโฮมสเตย์ ที่ชื่อว่า สายชลโฮมสเตย์ โดยทางเข้าร้านจะอยู่ก่อนถึงชุมชนบ้านป่าเหมี้ยง เมื่อมาถึงจอดรถไว้หน้าบ้านสายชล โฮมสเตย์ และเดินไปข้างหลังก็จะเจอกับร้านกาแฟ ตัวร้านเป็นบ้านไม้ผสมกับปูน แบ่งเป็น 2 ชั้น ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ไม้ทั้งหมด เข้ากับบรรยากาศของความเป็นหมู่บ้าน มีมุมให้นั่งจิบเครื่องดื่ม ทานอาหารหลายมุม
มีมุมที่นั่งริมระเบียง ที่สามารถมองเห็นวิวของหมู่บ้านป่าเหมี้ยงที่ซ่อนตัวอยู่ในภูเขาและต้นไม้ มองภายนี้ทำให้เรารู้เลยว่า ที่นี่อากาศดีขนาดไหน ภายคล้ายกับบ้านแม่กำปอง ในยุคเริ่มแรก นั่งชมวิวก็ได้ยินเสียงลมพัก เสียงลำธาร และนกร้อง ผ่อนคลายสุดๆ
มาร้านนี้พลาดไม่ได้ต้องสั่งเมนูอาหารแบบพื้นเมืองประจำถิ่นมาทาน ยำใบเมี่ยง ยำใส่ปลากระป๋องรสชาติบลงตัว ยำไข่น้ำแร่ จัดไข่มาแบบเต็มยำใส่พรอกต้นหอม ชุดน้ำพริกที่เสิร์ฟพร้อมไส้อั่ว รสชาติอร่อยทุกเมนู โดยเฉพาะไส้อั่วสมุนไพร อร่อยมาก มีความหอมสมุนไพร ไม่มันมาก ทานได้เรื่อยๆไม่รู้สึกเลี่ยน
ทานอาหารแล้ว ก็สั่งกาแฟดริปมาดื่มชมบรรยากาส ยังชั้นสองของร้าน ที่จัดเป็นที่นั่งอีก วิวจะคล้ายกับชั้นล่างแต่มองเห็นหมู่บ้านในมุมที่สูงกว่า มีมุมที่นั่งพักชวนให้นั่งเล่นอย่างมุมเก้าอี้เหยียดขามุมนี้ ชิลมาก มาเที่ยวในช่วงหนาวอากาศเย็น ช่วงเช้าแสงส่องลงมาเพิ่มไออุ่น เป็นมุมที่มองแล้วรู้สึกว่าเหมือนเรานั่งเล่นอยู่ในบ้านญาติต่างจังหวัด
ชั้นสองมีที่พักด้วยนะคะ สอบถามทางคุณป้าเจ้าจองบอกว่า คิดราคาคนละ 650 บาท รวมอาหารเช้าเย็น ซึ่งถือว่าไม่แพงเลยค่ะ กับวิวและบรรยากาศแบบนี้ เปิดประตูห้องมาปุ๊บก็มองเห็นวิวสวยกันได้เลย คุณป่าบอก่า ถ้ามีแขกมาพักจะไม่อนุญาตให้ลูกค้า ร้านกาแฟขึ้นมาค่ะ มีความเป็นส่วนตัวไปอีก
ป่าเหมี้ยงคอฟฟี่เฮ้าส์ ร้านกาแฟที่อยากนั่งชมวิวแล้วรู้สึกสบายฮีลใจ ด้วยเสียงของธรรมชาติ ด้วยอัธยาศัยไมตรีที่ดีของคุณป้าเจ้าของ ใครมาเที่ยวบ้านป่าเหมี้ยงห้ามพลาดเลยทีเดียว
ป่าเหมี้ยงคอฟฟี่เฮ้าส์
ตำบล แจ้ซ้อน อำเภอ เมืองปาน ลำปาง 52240
0857137226
เปิดให้บริการ : ทุกวัน 09.00 น. -18.00 น.
Facebook : PaaMiangCoffee/
ถ้าจะให้แนะนำสถานที่ เพื่อฮีลใจ พักร่าง อยู่กับป่าเขาลำเนาไพร หรือใครที่เป็นฟรีแลนซ์ อยากจะเปลี่ยนที่ทำงานหามุมสงบอยู่กับธรรมชาติ และความอบอุ่นใจ บ้านป่าเหมี้ยง คือ สถานที่แนะนำในอันดับต้นที่อยากให้มา ตัวเราเองยังคิดว่า จะหาเวลามานอนเล่น เอางานมาทำที่นี่สักสามสี่วัน คงจะดีมาก