ห้วยกุ๊บกั๊บ สัมผัสวิถีเรียบง่ายบนดอย ชมวิวภูเขา สายหมอกยามเช้า
เปิดใจให้ธรรมชาติบำบัด หาความสงบและเติมพลังชีวิตที่ ห้วยกุ๊บกั๊บ พักบ้านกระท่อมริมผา ตื่นตาไปกับวิวภูเขา นั่งกินหมูและสายหมอกยามเช้า ได้จากระเบียงบ้าน สัมผัสเสน่ห์บนดอย ของการใช้ชีวิตเรียบง่าย ละทิ้งความวุ่นวาย พบความสงบที่ห้วยกุ๊บกั๊บ แหล่งพักใจกลางขุนเขาแห่งเชียงใหม่
รู้จักห้วยกุ๊บกั๊บ
ห้วยกุ๊บกั๊บ ตั้งอยู่ในตำบลแก่งกี๊ด อำเภอแม่แตง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหมู่บ้านของชาวไทยภูเขาชนเผ่ามูเซอที่ยังคงใช้ชีวิตแบบดั้งเดิม บรรยากาศภายในหมู่บ้านถนนเป็นดินแดง มีถนนคอนกรีตบ้างบางช่วง บ้านเรือนเป็นบ้านไม้และบ้านไม้ไผ่ยกสูง ตั้งบนเนินเขาลดหลั่นกันไป
ห้วยกุ๊บกั๊บ ไปช่วงไหนดี
ห้วยกุ๊บกั๊บ มาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี หากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนกรกฎาคม – ตุลาคม อากาศจะชุ่มชื่น มีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกได้มากว่าฤดูอื่นแต่จะเป็นลักษณะของหมอกฝนที่ลอยไปมา ส่วนในฤดูหนาวก็มีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกในฤดูหนาวที่จะนิ่งกว่า ได้เห็นแสงสวยๆในยามเช้าและยามเย็น ขึ้นอยู่กับความชอบและความสะดวก
รีวิวห้วยกุ๊บกั๊บ
เรามาเที่ยว ห้วยกุ๊บกั๊บ ในช่วงฤดูฝนกลางเดือนกันยายน เคยมาครั้งแรกเมื่อหลายปีก่อน ตั้งแต่ยังไม่ค่อยมีสัญญาโทรศัพท์ ไฟฟ้าไม่มีใช้ตลอดทั้งวัน ยังใช้ไฟโซล่าเซลล์และมีให้ใช้เฉพาะช่วงเย็นไปจนถึงดึก ห้องน้ำส่วนใหญ่เป็นห้องน้ำรวม แต่ในปัจจุบันมีความสะดวกสบายมากขึ้น สัญญาณโทรศัพท์มีแล้ว ไฟฟ้ายังใช้ไฟโซลาเซลล์ แต่มีให้ใช้ตลอดทั้งวัน แต่ห้องพักส่วนใหญ่ยังไม่มีแอร์ยังเป็นห้องพัดลม แต่อากาศเย็นค่ะ ที่พักมีให้เลือกหลายแห่ง ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากขึ้น แต่ลักษณะของบ้านยังเป็นสไตล์กระท่อมไม้ไผ่เช่นเดิม
บ้านกุ๊บกิ๊บ ณ ห้วยกุ๊บกั๊บ
มาครั้งนี้เลือกพักที่ บ้านกุ๊บกิ๊บ ณ ห้วยกุ๊บกั๊บ ด้วยเหตุผล คือ ชอบดีไซน์ของบ้านมีหน้าต่างสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ เห็นวิวภูเขา และมีบ้านแยกเป็นหลัง มีห้องน้ำส่วนตัว ไฟฟ้าถึงแม้เป็นโซล่าเซลล์ แต่ใช้ได้ทั้งคืน ทั้งชาร์จแบตกล้อง มือถือ โน้ตบุ๊ค Power bank ไดร์เป่าผม กาน้ำร้อน อุปกรณ์เครื่องครัว และสายติดโซเชี่ยลอย่างเราปลื้ม คือ มีสัญญาณ wifi ให้ใช้และสัญญาณดีมาก
ห้องพักที่นี่มีหลายแบบค่ะ ทั้งแบบพักได้ 2 คน 4 และ 5 คน ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นบ้านหลังใหญ่แบบส่วนตัว ราคาเริ่มต้น 2500 – 4500 บาท ส่วนเต้นท์มี ทั้งหมด 12 เต็นท์ ราคาคนละ 750 บาท ส่วนเราพักบ้านใหม่ เป็นบ้านหลังใหญ่พักได้ 4 คน ราคาหลังละ 4,000 บาท แต่เรามาพักคนเดียว ตอนแรกตั้งใจจองบ้านพักกระจกสำหรับ 2 คน ราคา 2500 บาท แต่ที่พักเต็ม มีหลังนี้ว่างหลังเดียว ทางน้องเจ้าของให้เราพักโดยคิดราคาพิเศษ
ภายในห้องพักกว้างมากค่ะ แบ่งเป็นโซนห้องนอน มีเตียงนอน 2 เตียง สำหรับ 4 คน มีห้องแต่งตัวพร้อมโต๊ะวางของ ที่มีกาน้ำ กาแฟ โอวัลติน ให้ ส่วนห้องน้ำก็ดีมากค่ะ สะอาดและมีเครื่องทำน้ำอุ่นให้
ที่ชอบที่สุด คือ มุมนี้แหละ หน้าต่างสี่เหลี่ยมที่มองเห็นวิวภูเขาข้างนอก ซึ่งหลังนี้มีทั้งหน้าต่างกระจก และหน้าสี่เหลี่ยมขนาดใหญ่ที่มีสามารถเปิดไปชมวิว และเดินข้ามไปชมวิวข้างนอกได้
ส่วนหลังนี้คือ บ้านสามเหลี่ยม มีทั้งหมด 2 ห้อง พักได้ 2 ท่าน ห้องละ 2500 บาท มีห้องน้ำส่วนตัว วิวถือว่าดีเหมือนกันค่ะ มีหน้าต่างกระจกใส สำหรับชมวิว เสริมที่นอนได้ คิดราคาเพิ่มคนละ 850 บาท
ที่พักแบบเต้นท์กระโจม ราคาถูกลงมาหน่อยคิดเป็นรายคน 750 บาท ใช้ห้องน้ำรวม
มีร้านกาแฟในที่พักด้วยค่ะ สามารถแวะมานั่งเล่น จิบกาแฟได้ ถึงแม้ไม่ได้พักก็ตาม จากร้านกาแฟ มองเห็นวิวดีสุดๆ แนะนำให้มาตอนเช้าได้เห็นสายหมอกด้วย
ช่วงเย็น ไปเดินเล่นสำรวจภายในหมู่บ้านหน่อย โซนนี้จะอยู่ในช่วงต้นหมู่บ้าน ซึ่งเป็นโซนที่เราพักค่ะ ถนนภายในหมู่บ้านยังคงเป็นดินแดงแคบๆเหมือนเดิม และมีถนนคอนกรีตสลับบ้าน ระหว่างทางมีที่พักโฮมสเตย์หลายเข้า ทั้ง บ้านซุกกิ๊ก บ้านสายหมอก รวมทั้ง บ้านเรือนของชาวบ้าน ที่ยังคงเป็นบ้านชาวเขาแบบดั้งเดิมบนดอย เป็นบ้านไม้ไผ่
ร้านขายของชำในบ้านห้วยกุ๊บกั๊บ มีประมาณ 4 ร้าน อยากได้อะไรแวะมาเซเว่นดอยได้ค่ะ มีพรอมเพย์ให้โอนด้วย บนดอยเขาเจริญแล้วนะ สัญญาณโทรศัพท์ก็มีเต็มทั่วพื้นที่ เราใช้ AIS นะคะ สัญญาณดี แต่ค่ายอื่นไม่แน่ใจ
โซนที่พักของบ้านสายฝันและอาบูดายา ซึ่งเราเคยมาพักตอนมา ห้วยกุ๊บกั๊บครั้งแรก ตอนนี้จะเงียบๆหน่อย อาจเพราะมีการสร้างที่พักใหม่เพิ่ม ชื่อว่า อันยอง โฮมสเตย์ ชื่อญี่ปุ่นมาเลยค่ะ ส่วนห้องพักก็ดูจะสะดวกสบายและเป็นส่วนตัวขึ้น
เดินกลับมายังที่พัก ชมวิวจากในห้องพักกันต่อ แสงยามเย็นสวย เสียดายที่อากาศจะครึ้มไปซักหน่อบ เพราะมาเที่ยวหน้าฝน
วิวและบรรยากาศยามเย็น จากริมระเบียงร้านกาแฟ สวยสุดๆ เงียบสงบ นั่งกินหมูกระทะ มองวิวภูเขาสุดจึ้ง หมูกะทะชุดเล็กราคา 290 บาท หมูกระทะที่นี่อร่อย เนื้อหมูนุ่ม น้ำจิ้มดี ไม่หวานจนเกินไป
ตื่นแต่เช้ามาชมทะเลหมอก เช้านี้หมอกยังน้อยค่ะ ถึงแม้ฝนจะตกมาตลอดทั้งคืน แต่ตามประสบการณ์ ทะเลหมอกที่ห้วยกุ๊บกั๊บ จะลอยมาในช่วงสายหน่อยค่ะ ระหว่างรอน้องก็มาเสิร์ฟข้าวต้มถึงห้อง ข้าวต้มอร่อย น้ำซุปกลมกล่อม
เดินออกมาชมวิวริมระเบียงต่อ มองไปทางฝั่งนู้น หมอกฝนเริ่มลอยมาแล้ว เลยมานั่งเล่นตรงร้านกาแฟ สั่งลาเต้ร้อนมากิน รสชาติดีเลยค่ะ
ประมาณ 9 โมง กว่า สายหมอกเริ่มลอยมาเยอะขึ้น เก็บความสวยงามของธรรมชาติและความสดชื่นในฤดูฝนไว้ในความทรงจำ ก่อนนั่งรถกลับในรอบ 10 โมง เป็นการมาเที่ยวบ้านห้วยกุ๊บกั๊บ ที่ประทับใจมากกว่าการมาเที่ยวในครั้งแรก ทั้งในส่วนของที่พัก บ้านกุ๊บกิ๊บ บ้านพักดี น้องพนักงานบริการดี และเป็นกันเองมาก ถือว่าช่วยมาลบภาพความทรงจำของการมาเที่ยวในครั้งแรกได้ดีเลยทีเดียว
บ้านกุ๊บกิ๊บ ณ ห้วยกุ๊บกั๊บ
ที่อยู่: 292 ตำบล กื้ดช้าง อำเภอแม่แตง เชียงใหม่ 50150
โทรศัพท์: 083 945 9966
Facebook : BaanKubKibNaHuayKubKab
รายละเอียดบ้านพัก
บ้านหน้าต่าง ทั้งหมด 4 ห้อง – ห้อง M ที่พักสำหรับ 2 ท่าน ห้องละ 2500 บาท
- ห้อง M ที่พักสำหรับ 2 ท่าน ห้องละ 2500 บาท
- ห้อง L ที่พักสำหรับ 4 ท่าน ห้องละ 3500 บาท
- ห้อง XL ที่พักสำหรับ 5 ท่าน ห้องละ 4500 บาท
บ้านสามเหลี่ยม ทั้งหมด 2 ห้อง
- ห้อง 3L ที่พักสำหรับ 2 ท่าน ห้องละ 2500 บาท -ห้อง 3R ที่พักสำหรับ 2 ท่าน ห้องละ 2500 บาท บ้านสี่เหลี่ยม ทั้งหมด 1 ห้อง -ที่พักสำหรับ 4 ท่าน ห้องละ 3500 บาท **กรณีเสริมที่นอนท่านละ 850 บาท**
บ้านใหม่ ทั้งหมด 1 ห้อง
- ที่พักสำหรับ 4 ท่าน ห้องละ 4000 บาท **กรณีเสริมที่นอนท่านละ 850 บาท **
เต็นท์ทรงกระโจม ทั้งหมด 12 เต็นท์
- ท่านละ 750 บาท
สิ่งอำนวยความสะดวก
- ไฟฟ้าพลังงานทดแทน สามารถใช้ได้ทั้งคืน ชาร์จแบตกล้อง/มือถือ/โน้ตบุ๊ค/Power bank ไดร์เป่าผม กาน้ำร้อน อุปกรณ์เครื่องครัว
- หมูกระทะชุดเล็ก 290 บาท /ชุดใหญ่ 390 บาท
*** ราคาที่พักอาจมีการเปลี่ยนแปลงก่อนเข้าพักสอบถามทางที่พักโดยตรงอีกครั้ง
*** จุดนัดพบ Jungle de cafe กื้ดช้าง เวลารับ : 14:00 น. 15:30 น. และ 17:00 น. เวลาส่ง : 09:00 น.และ 10:00 น.
การเดินไปห้วยกุ๊บกั๊บ
สำหรับการเดินทาง ไม่สามารถนำรถส่วนตัวขึ้นไปได้ เนื่องจากเส้นทางแคบชันมาก ให้นำรถส่วนตัวมาจอดไว้ยังจุดจอดรถที่ทางโฮมสเตย์แจ้งไว้ แล้วใช้บริการรถจากที่พักของโฮมสเตย์ให้มารับ เส้นทางขึ้นไปยังห้วยกุ๊บกั๊บจากปากทางขึ้น ระยะทาง 4 กม.ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที เป็นทางออฟโรด ขรุขระแคบชัน รถสวนไม่ได้ เพราะฉะนั้นใครไม่ใช่สายออฟโรดหรือถึงจะใช่ ก็แนะนำให้ใช้บริการรถของทางโฮมสเตย์จะดีกว่า รถของโฮมสเตย์ส่วนใหญ่มารับ 3 รอบ คือ 14:00 , 15:30 และ 17:00 เวลาส่งจากห้วยกุ๊บกั๊บ 09:00 น.-10:00 น.
การเดินทางแบบไม่มีรถส่วนตัว
เมื่อมาถึงเชียงใหม่โดย รถทัวร์/รถไฟ/เครื่องบิน ( แนะนำถึงเชียงใหม่ก่อน 11:00 น. ) เรียกรถไปยัง ขนส่งช้างเผือก นั่งรถประจำทางสีขาว สายแม่แตง มุ่งหน้าสู่ศาลานิ่มซี่เส็งสาขาปากทางเขื่อนแม่งัด เวลา 13:00 น.(รอบฟรี)
*กรณีมาถึงก่อนมีร้านอาหาร คาเฟ่ให้นั่ง รถของทางที่พักรับไปยังจุดนัดพบหลัก เพื่อนั่งรถ 4×4 ขึ้นที่พัก ตามรอบเวลาที่ตกลงกับมทางโฮมสเตย์