ป่าสนวัดจันทร์ ชมความงามแห่งป่าสน เคล้าไอหมอก
ป่าสนวัดจันทร์ องค์การอุตสากหรรมป่าไม้ (อปป) ตั้งอยู่ในอำเภอกัลยาณิวัฒนา จังหวัดเชียงใหม่ ในช่วงฤดูหนาวดินแดนกลางหุบเขาแห่งนี้ ถูกปกคลุมด้วยม่านหมอกและสายลมอันหนาวเย็น ใครที่ได้มาเยือนต่างหลงเสน่ห์ในความงามของสายหมอกลอยพริ้วปกคลุมทิวสนและอ่างเก็บน้ำ บวกกับธรรมชาติอันงดงามและบ้านพักอันสะดวกสบาย ทำให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางยอดฮิตที่เหมาะสำหรับเดินทางมาเที่ยวพักผ่อนแบบเงียบสงบ
สำหรับการเดินทางมาที่ ป่าสนวัดจันทร์ เราเลือกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ผ่านอำเภอหางดง สะเมิง เข้าสู่อำเภอกัลยาณิวัฒนา โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เส้นทางนี้ถนนค่อนข้างดีเป็นถนนราดยางตลอดสาย อาจมีคดเคี้ยวบ้างแต่ไม่ชันมาก รถค่อนข้างน้อยขับง่ายค่ะ หรือจะเดินทางมาในเส้นเดียวกับอำเภอปาย ก่อนถึงปายจะมีทางเลี้ยวไปยังป่าสนวัดจันทร์ หากใครจองห้องพักไว้ มาถึงแล้วสามารถติดต่อที่สำนักที่ตั้งอยู่ด้านหน้าได้เลย
ป่าสนวัดจันทร์ ให้บริการในส่วนของที่พักและลานกางเต้นท์ บ้านพักค่อนข้างสะดวกสบายโดยแบ่งเป็นโซนต่างๆ มีหลายหลังและหลายแบบให้เลือกในราคาไม่แพง และที่พักทุกหลังตั้งอยู่ภายใต้ร่มเงาของป่าสนทั้งหมด บรรยากาศมีความเป็นธรรมชาติและเงียบสงบมาก สำหรับการจองห้องพัก สามารถติดต่อจองได้ทางโทรศัพท์ จากนั้นทักไปในอินบอกซ์ข้อความเพจ และทางเจ้าหน้าที่จะแจ้งรายละเอียดการชำระเงินค่ะ โดยการจองในแต่ละเดือนจะแบ่งเป็นรอบ สามารถติดตามวันจองห้องพักในเดือนต่างๆ ได้ทางหน้าเพจของป่าสนวัดจันทร์ https://facebook.com/PasonWatchan
นอกจากบ้านพัก ยังมีเต้นท์ให้บริการ รวมถึงลานกางเต้นท์ด้วย
เราจองห้องพัก บ้านสนเขา บ้านหลังน้อยหลังคาทรงสามเหลี่ยมแบบกระทัดรัด บ้านสนเขา มีทั้งหมด 6 หลัง พักได้หลังละ 2 คน เป็นบ้านที่อยู่ใกล้กับป่าสนและอ่างเก็บน้ำ ที่เราสามารถเดินไปชมไอหมอกได้แบบไม่ไกล ราคาหลังละ 800 บาท (รวมอาหารเช้า)ภายในห้องพัก มีเตียงนอน ห้องน้ำส่วนตัวและเครื่องทำน้ำอุ่น ห้องพักไม่ได้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมาก แต่ค่อนข้างสบาย ส่วนอากาศไม่ต้องใช้พัดลมหรือแอร์ เพราะอากาศเย็นถึงขั้นหนาวตลอดทั้งวัน ช่วงกลางคืนถึงเช้าเลขตัวเดียวค่ะ เพราะฉะนั้นเตรียมอุปกรณ์กันหนาวมาให้พร้อม
หน้าที่พักสามารถเดินเล่น ถ่ายรูปกับสวนสนที่อยู่หน้าบ้านได้เลย
หรือจะเดินไปยังถนนสายป่าสน ที่อยู่ข้างล่างก็ได้ ตรงนี้จะได้เห็นทิวสนที่ปลูกเรียงราย อยู่ระหว่างถนน ที่ใช้สัญจรภายในป่าสนวัดจันทร์
ที่สำนักงาน มีร้านกาแฟ และด้านหลังร้าน มีทางเดินไม้ท่ามกลางต้นไม้สวยงาม มาถ่ายนั่งเล่น หรือถ่ายรูปเล่นก็ได้
อาหารเย็น ไม่ได้รวมอยู่ในราคาห้องพัก มีให้เลือก 2 แบบ คือ กับข้าว มีชุดน้ำพริกอ่อง แคมป์หมู ผักผัก ต้มยำฟักใส่ไก่ และผลไม้มาให้ หรือจะสั่งเป็นชุดหมูกระทะก็ได้
ตื่นเช้าชมบรรยากาศของไอหมอกที่ลอยเหนืออ่างเก็บน้ำ ไอหมอกจะมีให้ชมเฉพาะในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเย็นเท่านั้น ประมาณเดือนธันวาคม – มกราคม เรามารอพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่ 6.30 น. ซึ่งยังไม่เห็น เพราะแสงจะมาในช่วงเจ็ดโมงครึ่ง ระหว่างรอก็เก็บภาพไอหมอกไปเรื่อยๆ เป็นภาพที่ชวนฝันและโรแมนติกจริงๆ เป็นสถานที่ที่มาหลายครั้ง ก็ยังชอบและไม่รู้สึกเบื่อ
บริเวณอ่างเก็บน้ำ ยังมีภาพเส้นทางเสด็จของในหลวง รัชกาลที่ 9 เมื่อครั้นเสด็จมายังโครงการหลวงวัดจันทร์ เพื่อทรงช่วยเหลือ ยกระดับคุณภาพชีวิต ส่งเสริมอาชีพเกษตรกรรมปลูกพืชผักและผลไม้เมืองหนาว ของราษฎรในพื้นที่ ทรงเสด็จมาที่บ้านวัดจันทร์ ถึง 5 ครั้ง
แสงสวยๆเริ่มปรากฏให้เห็น ช่วงเวลานี้ ถือเป็นอีกช่วงเวลาที่อบอุ่น และบรรยากาศสวยงามมาก เพราะแสงอาทิตย์จะเริ่มส่องกระทบลงมายังอ่างเก็บน้ำ ไอหมอกเริ่มลอยขึ้นมาเยอะขึ้น มองภาพแล้ว เหมือนสายหมอกกำลังเต้นเริงระบำ สวยงามโรแมนติกมาก
อีกฝั่ง ของอ่างเก็บน้ำ คือ ทิวสนหลายร้อยต้น สามารถเดินไปชมบรรยากาศทางฝั่งนู้นได้ค่ะ สำหรับคนชอบถ่ายภาพแนะนำให้เดินไปค่ะ เพราะจะได้ภาพที่สวยงามในอีกมุมหนึ่ง
บริเวณนี้ มีที่ให้ยืนแบบเล็กๆ มองไปคือ วิวของอ่างเก็บน้ำที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เหมือนภาพวาดมาก เวลานี้นักท่องเที่ยวเริ่มกลับไปหมดแล้ว ไร้ซึ่งผู้คนกลายเป็นภาพที่เงียบสงบแทน
ระหว่างไปทานอาหารเช้า ผ่านถนนสายป่าสน ซึ่งแสงยามเช้าส่องลงมาพอดี มีความละมุนละไมอบอุ่น
หลังจากทานอาหารเช้าแล้ว แวะไปนั่งจิบกาแฟให้คลายอุ่น ใครไม่ดื่มกาแฟก็มีเครื่องดื่มอื่นๆค่ะ อโวคาโด้ปั่นก็มีอร่อยมาก
ป่าสนวัดจันทร์ ดินแดนในฝันกลางสายหมอก เป็นสถานที่ในดวงใจอีกแห่งหนึ่ง มากี่ครั้งก็ประทับใจในสถานที่ มีความสงบสวยงามได้พักผ่อนไปกับอากาศที่เย็นสบาย ได้ดื่มด่ำไปกับธรรมชาติ
TAG:
หมวดหมู่
