ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง ชมวิวดอยหลวงเชียงดาว จากหน้าเต้นท์
ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง ลานกางเต้นท์ชื่อดังแห่งบ้านเลาวู อำเภอเวียงแหง เชียงใหม่ ที่สายแคมป์ สายรักธรรมชาติ ชื่นชอบทะเลหมอก ต้องมาพักชมวิวดอยหลวงเชียงดาว สายหมอกและพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า ได้จากหน้าเต้นท์ แถมยังมีจุดชมวิวหลายจุด ไม่ว่าจะอยู่ตรงมุมไหนได้เห็นภาพของดอยหลวงเชียงดาว เคียงคู่ดอยนางแบบ 360 องศา หลีกหนีความวุ่นวาย ละทิ้งความสะดวกสบายชั่วคราว มาพักชมวิวอยู่กับธรรมชาติแบบเงียบสงบ
ขับรถมาไม่ไกลถึง บ้านเลาวู หมู่บ้านเล็กๆที่ตั้งลดหลั่นเรียงรายบนเนินเขา ประชากรเกือบทั้งหมดเป็นชาว ลีซู หรือ ลีซอ มีอาชีพหลัก คือ ทำเกษตร โดยเฉพาะการปลูกกะหล่ำปลี ที่จะได้เห็นแปลงกะหล่ำอยู่ระหว่างสองข้างทาง ถึงแม้จะอยู่ห่างไกล ซึ่งเราเรียกเองว่าเหมือนเข้ามาในเมืองลับแล กว่าจะถึงต้องผ่านโค้งมากมาย แต่สำหรับเรา บ้านเลาวู คือ หมู่บ้านชาวไทยภูเขาที่ไม่ถึงกับเป็นบ้านไม้แบบดั้งเดิม เหมือนที่เคยเห็นบนดอยที่ห่างไกลบางแห่ง บ้านเรือนบางหลัง เป็นบ้านปูนแบบใหม่ ไฟฟ้าเข้าถึง สัญญาณโทรศัพท์ดีเราใช้ AIS แต่ค่ายอื่นไม่แน่ใจว่าดีมั้ย
ก่อนอื่นทำความเข้าใจก่อนว่า ฮาดู่บิ ไม่ใช่ชื่อจุดชมวิวแต่เป็นชื่อของลานกางเต้นท์ เจ้าแรกที่ทำให้ชื่อนี้เป็นที่รู้จักและเกิดภาพจำ คือ ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง นักท่องเที่ยจจึงเรียกสั้นๆว่า ฮาดู่บิ เพราะมีเพียงที่เดียว ต่อมามีที่พักเพิ่มขึ้นประมาณ 4 แห่ง ตั้งอยู่ใกล้กันแต่จะสูงขึ้นไปอีกนิด ได้แก่ ฮาดู่บิ ม่อนชมวิวดอยหลวง เพราะฉะนั้นก่อนจองที่พักดูชื่อที่พักให้ถูกต้อง จะได้ไม่จองผิดที่เพราะวิวจะคล้ายกัน และใช้ชื่อ ฮาดู่บิ น้ำหน้าเหมือนกัน แต่มีอีกแห่งตั้งอยู่ตรงข้าม ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง คือ ฮาดู่บิ เมาท์เท่นวิว ที่นี่จะไม่เห็นวิวดอยหลวงโดยตรง แต่จะเป็นวิวภูเขาแทน ส่วนเส้นทางเข้ามายังที่พักทั้งสามแห่ง ใช้เส้นทางเดียวกัน คือ เข้ามาในหมู่บ้านเลาวู ซึ่งทางจะแคบตามที่เห็น มีชันแคบมากอยู่ เพียงหนึ่งจุด คือ ตรงทางเข้าหมู่บ้าน ถนนเป็นคอนกรีตทั้งหมด เห็นทางแคบ ขับยากมั้ย สำหรับเราไม่ยากอาจเพราะเราขับรถขึ้นเขาบ่อยเลยชิน เพียงแต่ต้องระวัง รถอะไรขึ้นได้บ้าง เห็นรถคันเล็กเครื่องพันสอง รถเก๋งก็ขึ้นไปได้ เป็นระยะทางที่สั้นค่ะ น่าจะแค่ 1 กิโล เท่านั้น แต่สำหรับใครที่ไม่มั่นใจใช้บริการรถของที่พักได้ จะมีรถลงมารับที่ลานจอดรถ
จากทางเข้าบ้านเลาวูไม่ถึง 5 นาที เรามาถึง ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง จะเจอบ้านไม้หลังเล็กหลังนี้ ซึ่งเป็นจุดต้อนรับ เป็นร้านขายของเล็กๆ จอดรถไว้ตรงนี้เข้าไปแจ้งเช็คอินได้เลย
บริเวณจุดต้อนรับ มีระเบียงชมวิวพร้อมที่นั่ง มองเห็นวิวของดอยหลวงเชียงดาวอยู่ตรงหน้า เดินลงไปอีกนิดผ่านทางเดินไปยังเต้นท์ มีดอกไม้เมืองหนาวปลูกไว้ตามทางเดิน สีสันสดสันตัดกับสีท้องฟ้า
วิวอักฝั่ง คือ ภูเขาสีเขียว มองเห็นทางที่อยู่ข้างล่างที่เราขึ้นมานั่นเอง มองแบบนี้อาจดูเสียวนิดๆ ว่าขับขึ้นมาได้ยังไง แต่ขับจริงๆก็ปกติ วิวตรงนี้ มีที่พักอยู่หนึ่งแห่ง คือ ฮาดู่บิ เมาท์เท่นวิว เป็นที่พักแบบบ้านกระท่อมไม้
ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง เป็นลานกางเต้นท์และจุดชมวิว แบ่งเป็น 2 โซน คือ โซน B นำเต้นท์มาเอง มีลานระเบียงให้กาง และอีกโซน คือ โซน A เต้นท์ของฮาดู่บิ มีเครื่องนอน น้ำสองขวด ภายในเต้นท์ไม่มีไฟฟ้าและจุดต่อปลั๊กไฟ ต้องเตรียมไฟฉาย ไฟส่องสว่างกันมาเอง และชาร์ตแบตทุกอย่างมาให้พร้อม ที่นี่ใช้ไฟโซล่าเซลล์ มีเพียงปลั๊กพ่วงส่วนกลาง ที่วางไว้ตรงบ้านต้อนรับให้ใช้ชาร์ต ซึ่งจะไม่ค่อยสะดวกเพราะเราต้องเดินจากเต้นท์ ขึ้นมามาชาร์ตค่ะ เพราะฉะนั้นเตรียมมาเองดีที่สุด ในภาพ คือ เต้นท์โซน A ตั้งลดหลั่นกันตามไหล่เขา มองเห็นวิวของดอยหลวงเชียงดาวทุกหลัง แต่อาจเห็นในองศาที่ต่างกันนิดหน่อย ราคาเท่ากัน หลังๆละ 1000 บาท พร้อมเครื่องนอน พักได้ 2 คน (มีอาหารเช้าคือข้าวต้มคนละกล่อง)
เราพัก A10 เป็นเต้นท์หลังริม ใกล้ทางเดิน ที่รู้สึกว่าไม่ต้องเดินไกลจากห้องน้ำ ใกล้จุดจอดรถ วิวดี โล่งสายตา ถ่ายรูปมุมด้านข้างทั้งเต้นท์ เห็นวิวดอยหลวงได้แบบสวยงามไม่ติดเต้นท์อื่นที่อยู่ข้างล่าง เราชอบมุมแบบนี้
แต่เต้นท์ A10 มองเห็นวิวของดอยหลวงไม่อยู่ตรงกลางเต้นท์ เหมือนเต้นท์ริมฝั่งขวาสุดหรือตรงกลางอย่าง A13-15 หรือ A6-A8 แต่เต้นท์โซนนี้มองลงมาข้างล่างจะเห็นเต้นท์อื่นที่อยู่ถัดลงไป มีเพียง A10 หลังเดียวที่ไม่เห็นเต้นท์อื่นบังวิว สุดท้ายการเลือกเต้นท์ขึ้นอยู่กับความชอบ ความสะดวกของแต่ละคน ไม่อยากเดินขึ้นทางเดินชัน ไกลลานจอดรถ ก็เลือกเต้นท์ที่อยู่ข้างล่าง ส่วนเราลงตัวที่ A10 ก่อนจองทางที่พักจะส่งแผนผังเลขเต้นท์ให้ดูก่อน เลือกตามชอบ ส่วนอาหารถ้าใครไม่ได้เตรียมมาเอง มีอาหารตามสั่งง่ายๆ และหมูกระทะ สั่งจากร้านอาหารในหมู่บ้านมาส่งถึงเต้นท์ ที่พักมีเบอร์และเมนูในเต้นท์ทุกหลัง
ส่วนห้องน้ำมีจุดเดียวอยู่ข้างล่าง แบ่งเป็นสองห้อง ไม่มีน้ำอุ่น เห็นห้องน้ำแล้ว ถ้าใครไม่สะดวก แนะนำทิชชู่เปียกมาเช็ดตัว
ยามเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เปิดเต้นท์มาจะเจอภาพนี้ เมื่อคืนฝนตกมีหมอกลอยมาคลอเคลียภูเขาและดอยหลวงนิดหน่อย หยิบตะเกียงที่ใช้ส่องสว่างในเต้นท์ มานั่งเล่นถ่ายรูป
จากนั้นเดินขึ้นไปยังลานระเบียงชมวิวข้างบนสุด มีโต๊ะเก้าอี้และป้ายชื่อฮาดู่บิติดอยู่ เป็นมุมไฮไลท์ที่ต้องมาเก็บภาพจากจุดนี้จะมองเห็นวิวดอยหลวงในระดับที่สูงขึ้น ตรงกับสายตา ลานระเบียงชมวิวนี่ตั้งอยู่ใกล้เต้นท์ A14-15
เดินลงไปเก็บภาพบรรยากาศในระหว่างทางเดินในขั้นต่างๆ มองเห็นเต้นท์ตั้งเรียงรายกันแบบนี้ค่ะ วันที่เราไปพักอากาศไม่โปร่ง เมฆเยอะ ฟ้าปิดพอสมควร มีแสงเล็กน้อย ถ้าอากาศเคลียร์คงสวยกว่านี้มาก
เดินกลับไปยังเต้นท์ของเรา นั่งจิบกาแฟดริปที่เตรียมเอง รวมถึงมาม่า ที่รู้สึกว่าเป็นการกินมาม่า ที่อร่อยที่สุด เพราะปกติอยู่บ้านไม่เคยกินเลย แต่เวลาอยู่บนดอยเราชอบกินมากรู้สึกมันมีรสชาติของความอร่อยเพิ่มขึ้น อากาศเย็นกินมาม่าร้อนๆใช่เลย
แสงอาทิตย์เริ่มมาให้เห็นบ้าง แสงส่องมากระทบกับดอกไม้ที่ปลูกไว้ตามริมทางเดิน เป็นบรรยากาศที่สวยงามอบอุ่นมาก รวมถึงบริเวณลานชมวิวตรงจุดจอดรถ ก็สวยไม่แพ้กัน วิวดอยหลวง ทะเลหมอก ประกอบกับแสงยามเช้า สวยงามเหมือนมีชีวิต
ลานกางเต้นท์โซน B ที่ให้นำเต้นท์มากางเอง วิวตรงนี้จะสวยและโล่งกว่าทางฝั่ง A อาจเพราะวันที่เราไปพัก คนมาพักไม่เยอะ มีนักท่องเที่ยวมากางเต้นท์เพียงสองหลัง
นอกจากชมวิวดอยหลวงเชียงดาวได้จากหน้าเต้นท์ ลานชมวิว ยังสามารถเดินลงไปยังทางเดินข้างล่าง เพื่อชมวิวดอยหลวงใกล้ขึ้นอีก เรามาช้ามาไปนิดหนึ่ง แสงหายไปแล้ว ถ้ามีแสงตรงนี้จะงามกว่านี้มาก ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง ลานกางเต้นท์ที่มีจุดชมวิวหลายจุด ในทุกระดับองศา ของการชื่นชมดอยหลวงเชียงดาว ใครอยากท้าลมหนาว นอนเต้นท์ที่ให้อารมณ์แบบแคมป์ปิ้งที่แท้จริง ก็แวะมาพักผ่อนอยู่กับธรรมชาติกันได้เลย
ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง
ที่อยู่ : บ้านเลาวู อ.เวียงแหง จ.เชียงใหม่
โทร : 063 063 7230
Facebook : ฮาดู่บิ แคมป์ปิ้ง