เกาะจำ…อยากเก็บไว้ในความทรงจำ
ในระหว่างที่เรากำลังคิดว่าร้อนนี้จะไปทะเลที่ไหนดี อยากไปทะเลทางใต้แถวกระบี่ แต่เกาะต่างๆ ที่ขึ้นชื่อก็ไปหลายรอบจนเบื่อแล้วสิ ไม่อยากไปเที่ยวในที่เดิมๆ แล้วเราจะไปที่ไหนดีละ อยากไปเที่ยวแบบความสงบ ผู้คนไม่วุ่นวาย ตอบโจทย์ ทั้งความสวยใส่ของน้ำทะเล ธรรมชาติแบบดิบๆ ที่ไม่ต้องปรุงแต่ง และแล้ว ชื่อของเกาะในใจที่เคยเก็บไว้ในลิสต์การเดินทางมานาน ก็ปรากฎขึ้นมาในสมอง ไป เกาะจำ แน่นอนชื่อนี้คงเป็นเกาะที่ไม่ค่อยคุ้นกันนัก เพราะถ้าเอ่ยถึงการท่องเที่ยวในน่านน้ำทะเลกระบี่ ชื่อของทะเลแหวก เกาะพีพี เกาะห้อง คงทะยานขึ้นมาในอันดับต้นจนคนล้นไปเสียแล้ว
เกาะจำ ตั้งอยู่ในเขตตำบลเกาะศรีบอยา อำเภอเหนือคลอง จังหวัดกระบี่ ห่างจากชายฝั่งเพียง 22 กิโลเมตรเท่านั้น เป็นเกาะที่มีชุมชนท้องถิ่นอาศัยอยู่มาเป็นเวลานาน บนเกาะประกอบไปด้วย 3 หมู่บ้านคือ หมู่บ้านเกาะปู หมู่บ้านเกาะจำและหมู่บ้านติงไทร เกาะจำเป็นชุมชนเล็กๆ ที่เงียบสงบ ผู้คนเป็นมิตรและมีน้ำใจไมตรี อีกทั้งทัศนียภาพบนเกาะก็ยังสวยงาม มีชายหาดยาวหลายแห่ง น้ำทะเลใสสะอาด แม้จะไม่สวยใสทรายขาวเหมือนเหมือนเกาะพีพีหรือเกาะห้อง แต่จุดเด่นของเกาะจำก็คือความเงียบสงบและเป็นธรรมชาติที่ยังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก สำหรับการเดินทางมาเกาะจำ ต้องนั่งเรือข้ามไปยังเกาะ โดยวิธีที่สะดวกที่สุดคือ มาขึ้นเรือที่ท่าเรือแหลมกรวด โดยอาจจะนั่งรถโดยสารมาจากในตัวเมืองมายังท่าเรือจะมีรถโดยสารให้บริการมาถึงท่าเรือแหลมกรวด แต่อาจจะต้องรอนานซักหน่อย มาชั่วโมงละ 1 คัน แต่สำหรับใครที่นำรถส่วนตัวหรือเช่ารถขับออกมากจากสนามบิน บริเวณท่าเรือมี บริการรับฝากรถ 1 คืน ราคา 60 บาท หากพ้นเวลาเที่ยงแล้วคิดเป็นอีกหนึ่งวัน คือ 120 บาท เมื่อไปถึงบริเวณท่าเรือแหลมกรวดแล้ว ถามชาวบ้านแถวนั้นได้ว่าฝากรถตรงไหน
เราเดินทางโดยเครื่องบินจากกรุงเทพมาลงที่สนามบินกระบี่ จากนั้นเช่ารถจากสนามบินขับออกมายังท่าเรือใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงก็มาถึงท่าเรือแหลมกรวด จากนั้นนำรถไปฝากยังที่รับฝากรถ
รอสองแถวจากตัวเมืองมายังท่าเรือแหลมกรวด จะวิ่งผ่านเส้นทาง คือ ตัวเมือง บขส สนามบิน โลตัส บิกซี
ท่าขึ้นเรือบริเวณแหลมกรวดที่จะไปเกาะจำ มี 2 ท่า คือ ท่าเกาะจำท่านี้ ชื่อเดียวกับเกาะ กับท่าเรือมูตู ท่านี้ คือท่าเรือหลักของเกาะจำ ซึ่งส่วนใหญ่จะลงกันที่ท่านี้ ซึ่งใกล้และสะดวกกว่า ให้ขึ้นเรือที่จะไปลงยังท่าเรือมูตู อย่าไปลงท่าเรือเกาะจำเพราะขึ้นผิดชีวิตเปลี่ยน ถ้าเจอชาวบ้าน ย้ำเลยว่าไปลงท่าเรือมูตู
เรือที่นั่งไปยังเกาะจำมีเพียงแบบเดียว เป็นเรือโดยสารขนาดเล็ก 2 ชั้น โดยเรือออกเป็นรอบตามตาราง ค่าบริการคนละ 50 บาท ใช้เวลาเดินทางไปยังท่าเรือมูตู ฝั่งเกาะจำ ประมาณ 45 นาที ก็นั่งเนิบๆ กันไป มองวิวชมทะเล รู้สึกว่าแป๊บเดียวก็ถึง
มาถึงแล้ว ท่าเรือมูตู เกาะจำ บริเวณท่าเรือมีรถมอเตอร์ไซต์รถแท็กซี่สองแถวไปส่งยังที่พัก อัตราค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 40 บาท หากที่พักที่จองไว้บริการรถมารับที่ท่าเรือก็จะสะดวกมากขึ้น ซึ่งเราจองที่พักที่เกาะจำ รีสอร์ท มีรถจากที่พักมารับ แค่แจ้งรอบเรือไว้ว่าจะมาถึงเวลาไหน
ถนนที่สัญจรรอบเกาะ เป็นถนนสายเล็กๆ แต่สะดวกสบาย เพราะเป็นคอนกรีตเกือบทั้งหมด ระหว่างทางก็จะเต็มไปด้วยสวน ต้นไม้ และบ้านของชาวบ้าน เกาะจำนั้น ถือว่าไม่ได้เป็นเกาะที่ศิวิไลซ์หรือเจริญมากนัก ยังคงมีความเป็นวิถีชาวบ้านสูงมาก เกาะจำแบ่งชายหาดใหญ่ เป็น 3 หาด คือ หาดยาว จะอยู่ใกล้ท่าเรือมูตูที่สุด ถัดมาคือหาดติงไทร และสุดท้าย คือ หาดลูโมะ ไกลออกไปอีกอยู่ทางตอนเหนือสุดของเกาะและอยู่ในพื้นที่ส่วนที่เรียกว่าเกาะปู
ระหว่างทางไปที่พักนั่งอยู่ในรถมองออกมาร้องกรี๊ด โห หาดนี้ช่างสวย มีทิวมะพร้าวริมหาดช่างลงตัว แถมน้ำทะเลสีฟ้าใสมาแต่ไกล หาดนี้เรียกว่า หาดยาว หรือ Long Beach เป็นชายหาดที่ยาวที่สุดของเกาะจำ อยู่ทางด้านล่างสุดของเกาะ มีความยาวประมาณ 4 กิโลเมตร เต็มไปด้วยรีสอร์ทและร้านอาหารหลากหลายแห่ง ในบรรยากาศเงียบสงบ เรียกได้ว่าเป็นชายหาดที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว อยู่ใกล้ท่าเรือมูตูมาก เราบอกน้องคนขับว่าพรุ่งนี้จะแวะมาชมบรรยากาศที่หาดนี้แน่นอน แต่วันนี้ขอมุ่งไปยังที่พักของตัวเองก่อนแล้วกัน เพราะเดินทางมาตั้งแต่เช้ามีความรู้สึกเพลียมาก
ที่พักของเรา เกาะจำ รีสอร์ท ตั้งอยู่ที่ หาดติงไทร ซึ่งอยู่ถัดออกไปจากหาดยาวเส้นทางช่วงสุดท้ายที่เข้าไปยังเกาะจำรีสอร์ท ก็จะสมบุกสมบันซักหน่อย เป็นดินแดง บางช่วงก็จะออฟโรดนิดๆ คือ ระหว่างนั่งรถโยกไปมา คิดในใจเข้าไปแล้วจะออกไปไหนนี่คงยากมาก อาจต้องอาศัยรถรีสอร์ทเพียงอย่างเดียว หรือถ้าขับมอเตอร์ไซต์เก่ง ก็อาจเช่าจากที่พักขับไปยังจุดต่างๆ ก็ได้
เกาะจำ รีสอร์ท เป็นที่พักขึ้นชื่อประจำเกาะจำก็ย่อมได้ ถ้านึกถึงเกาะจำ ก็ต้องมาพักที่นี่ ด้วยบรรยากาศ ที่ตั้งอยู่ริมทะเล สงบไม่วุ่นวาย มีพื้นที่หาดด้านหน้าที่พักก็ค่อนขาวสะอาดกว่าจุดอื่น หลังจากศึกษาหาข้อมูลที่พักบนเกาะจำมาพอสมควร สุดท้ายก็มาลงเอยที่นี่
เกาะจำ รีสอร์ท มีพื้นที่กว้างขวาง มีที่พักหลายแบบ ทั้งแบบเรือนไม้วิลล่าห้องแอร์ และแบบกระท่อมไม้ไผ่วิวติดทะเลห้องพัดลม มีสระว่ายน้ำส่วนกลาง
พื้นที่ในส่วนของร้านอาหาร มองเห็นวิวทะเลแบบกว้างไกล สบายตามาก มาถึงเวลาเที่ยงแล้ว ท้องเริ่มร้อง สั่งอาหารมาทานซักหน่อย ข้าวผัดสับปะรดและน้ำแตงโมปั่นดับร้อน
เช็คอินเข้าห้องพัก ซึ่งเราพักแบบกระท่อมไม้ไผ่วิวทะเล เป็นแบบห้องพัดลม ราคาห้องละ 1800 บาท นอนห้องพัดลมไม่ต้องห่วงเรื่องอากาศว่าจะร้อน เพราะมีลมทะเลพัดเข้ามาตลอด ยิ่งตอนกลางคืน อากาศเย็นสบายมาก เตียงนอนมองเห็นวิวทะเลได้จากปลายเท้า แถมมีระเบียงชมวิวกว้างขวาง ไว้นั่งชิลพักผ่อน
ช่วงบ่ายลงมาเดินเล่นชมหาดหน้าที่พัก ทรายค่อนข้างขาวเลยทีเดียว นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ นั่งพักกันแบบเงียบมาก บ้างลงเล่นน้ำ บ้างอาบแดด บ้างนอนจิบเครื่องดื่มอ่านหนังสืออย่างเพลิดเพลิน เคยเห็นแต่ภาพเกาะจำในอินเตอร์เน็ตพอได้มาเห็นของจริงไม่คิดว่า น้ำทะเลจะใสได้ขนาดนี้ คือ เกินความคาดหมายไปเยอะ ที่สำคัญสงบมาก อารมณ์เหมือนเป็นเกาะส่วนตัว ไม่วุ่นวายเหมือนกับเกาะยอดฮิตของกระบี่ เป็นความรู้สึกของการมาเที่ยวทะเลที่ถวิลหา เพราะเป้าหมาย คือ มาพักผ่อนอยู่หน้าที่พักได้เต็มอิ่มกับความสวยงามที่อยู่ตรงหน้า แต่ถ้าสายลุยอยากสำรวจเกาะหรือชุมชนก็สามารถเช่ามอเตอร์ไซค์จากที่พักขี่รอบเกาะได้
เดินไปทางซ้ายอีกนิด จะเริ่มมีก้อนหินด้านหน้าหาด ทรายบริเวณนี้จะออกไปทางสีน้ำตาลหน่อยๆ แต่ค่อนข้างละเอียด
เดินชมหาดถ่ายรูปเล่นมีความกระหายน้ำอีกแล้ว หลบมานั่งพักที่บาร์ริมหาด สั่งน้ำมะม่วงปั่นมาทานอร่อยมาก จะบอกว่านอกจากบรรยากาศที่เลิศประเสริฐศรีแล้ว อาหาร เครื่องดื่ม และการบริการของพนักงานของเกาะจำ ริสอร์ท นั้นเยี่ยมไม่แพ้กัน อาหารอร่อยราคาไม่สูงเกินไป พนักงานยิ้มแย้มแจ่มใสเป็นมิตร อาจเพราะยังเป็นเกาะที่มีความเป็นชาวบ้านอยู่ เพราะฉะนั้นเมื่อมาเที่ยวเกาะจำ ความรู้สึกแบบห่างเหินยามเมื่อไปพักยังที่พักริมทะเลที่มีแต่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติซึ่งบางครั้งอาจเจอพนักงานจะดูแลแทคแคร์ต่างชาติมากกว่าจะไม่เกิดขึ้นเมื่อเรามาเที่ยวเกาะจำ ตรงกันข้ามกลับรู้สึกอบอุ่นเสมือนมีเพื่อนคุยด้วยตลอดเวลา เป็นเกาะที่มาเที่ยวคนเดียวได้สบายมาก มีความปลอดภัยสูง
ยามเย็นพระอาทิตย์เริ่มคล้อยต่ำลง แสงยามเย็นเริ่มสาดส่องเข้ามายังระเบียงห้องพัก
เป็นสัญญาณบอกว่าได้เวลาแล้วที่จะไปชมบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกหน้าหาด ซึ่งก็จะได้เห็นพระอาทิตย์ดวงกลมโตแบบนี้ เกาะที่เห็นเบื้องหน้า คือ เกาะพีพี ซึ่งอยู่ใกล้กับเกาะจำมาก นักท่องเที่ยวที่มาพักเกาะจำ 2 คืน ขึ้นไป ก็จะนิยมซื้อแพคเกจทัวร์จากที่พักไปเที่ยวเกาะพีพี แบบเช้าไปเย็นกลับ
พอตกเย็น ทางรีสอร์ทก็เริ่มตั้งโต๊ะสำหรับดินเนอร์หน้าหาด จับจองที่นั่งได้ตามสบาย นั่งฟังเพลงคลอเบาๆ เคล้าเสียงคลื่น ใต้แสงเทียน สั่งอาหารและเครื่องดื่มอร่อยมาทาน โรแมนติกแท้ เป็นอีกหนึ่งเกาะที่แนะนำว่าหากมีคนรักให้พามาจะเหมาะมาก
เช้าวันใหม่ ตื่นแต่เช้าชมบรรยากาศหน้าหาดที่พัก ทะเลในยามเช้านั้นแสนสงบไปอีก นักท่องเที่ยวบางคนก็ออกมาพายัคออกกำลังกาย บางคนเดินเล่นตามหาด
บางคนเตรียมตัวไปเที่ยวเกาะพี พี แบบ onedaytrip จะมีเรือหางยาวของรีสอร์ทมาจอดรอแต่เช้า
ส่วนเรานั้นมีเวลาแค่ 2 วัน 1 คืน ก็ได้แต่เดินเล่นชมหน้าหาดต่อไป เพราะวันนี้ช่วงบ่ายต้องขึ้นเรือกลับแล้ว
นอกจากเกาะจำ รีสอร์ทแล้ว อ่าวติงไทรยังมีที่พักอีกประมาณ 4 แห่ง เรียงรายกันไปตามริมหาด ทั้ง เกาะจำ รีแลกซ์ ติงไทรเบย์ ซึ่งจะอยู่ท้ายสุดของหาด
ประมาณ 11 โมงกว่า เราแจ้งที่พักว่า อยากไปชมบรรยากาศของหาดยาว ช่วยพาไปหย่อนไว้ตรงนั้นหน่อยค่อยมารับแล้วพาส่งขึ้นเรือที่ท่าเรือมูตู เพื่อให้ไปทันเรือรอบบ่ายโมงครึ่ง ซึ่งทางที่พักก็ใจดีมากค่ะ พาเราไปเก็บบรรยากาศที่หาดยาว ซึ่งหาดนี้คือ หาดที่เราผ่านเมื่อวาน พรุ่งนี้ขอแวะมาซักหน่อย ตามที่บอกว่าหาดยาว คือ หาดที่ยาวที่สุดของเกาะจำ ชายหาดบริเวณนี้จะมีที่พักอยู่หลายแห่ง แต่ถึงแม้รีสอร์ทจะเยอะและอยู่ท่ามกลางชุมชนและถนนหนทางที่สะดวก แต่บรรยากาศก็ยังคงสงบตามสไตล์ของเกาะจำ
หาดทรายบริเวณนี้ค่อนข้างขาวกว่า อ่าวติงไทร และน้ำก็ใสกว่า โดยเฉพาะปลายสุดของเกาะน้ำใสมาก มีโขดหินแซมบ้างประปราย
จบการเดินทางบ่ายโมงครึ่งไปขึ้นเรือกลับฝั่งที่ท่าเรือมูตู 2 วัน 1 คืนที่เกาะจำ รู้สึกว่าเวลาน้อยเกินไป 3 วัน 2 คืน นั้นกำลังดี เพราะจะได้ไปเที่ยวยังเกาะพี พี ด้วย หรือไม่ก็อาจนั่งรถเล่นชมความเป็นชุมชนรอบเกาะ จะได้ครบทุกกิจกรรมของการมาเที่ยวเกาะจำ แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่เราจะเก็บความทรงจำที่ดีและแสนสนุกที่ เกาะจำไว้ในความทรงจำตลอดไป และถ้ามีโอกาสก็จะกลับมาที่นี่อีกครั้งแน่นอน