• หน้าแรก
  • เที่ยวเขื่อนบางลาง ขอพรทวดบูเกี๋ยะ กินปลากระโดด ของดีตาพระเยา

เที่ยวเขื่อนบางลาง ขอพรทวดบูเกี๋ยะ กินปลากระโดด ของดีตาพระเยา

หากมาเที่ยวเบตง จ.ยะลา ต้องผ่านบ้านตาพระเยา อำเภอธารโต เป็นที่ตั้งของ เขื่อนบางลาง ที่ได้ชื่อว่า ประตูสู่ฮาลาบาลา ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ของยะลา นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะแวะพักถ่ายภาพชมวิวทิวทัศน์เหนือเขื่อนเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมล่องเรือชมทัศนียภาพเหนือเขื่อน แวะเกาะทวดขอพรทวดบูเกี๊ยะ ที่นับถือของคนในชุมชนและละแวกใกล้เคียงเลื่องลือในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์  ตบท้ายด้วยลิ้มรสของดีตาพระเยา กินปลากระโดดรสชาติเด็ด หรือจะซื้อกลับบ้าน ที่รับรองว่ารสชาติความอร่อยนี้ ไม่สามารถหาได้จากที่ไหนแน่นอน

 

 

หลังจากนั่งรถจากหาดใหญ่ผ่านปัตตานี เข้าตัวเมืองยะลาเกือบ 2 ชั่วโมง ก็แวะพักหยุดพักที่สะพานข้ามเขื่อน ชมทิวทัศน์ภูเขาที่โอบล้อมผืนน้ำของเขื่อนบางลาง  ซึ่งบริเวณสะพานสามารถจอดรถได้  สะพานแห่งนี้เป็นสะพานสร้างขึ้นมาเพื่อช่วยย่นระยะทางคดเคี้ยวจากอำเภอธารโตไปยังอำเภอเบตงได้กว่า 15 กิโลเมตร  จากเดิมที่มักจะได้ยินว่าเส้นทางไปเบตงคดเคี้ยว ชวนเวียนหัว นั่นหมายถึงเส้นทางเก่า แต่เมื่อมีการสร้างสะพานนี้ช่วยย่นระยะทางไปได้เยอะ 

 

 

จากสะพานข้ามเขื่อนบางลาง มาถึงจุดพักรถตาพระเยา จุดขายสินค้าโอท๊อปขึ้นชื่อ นั่นคือ ปลากระโดด ปลาน้ำจืดตัวเล็กมีอยู่ตามแหล่งน้ำธรรมชาติที่มีความสมบูรณ์ เราจะได้เห็นภาพวิถีชีวิตของชาวบ้านตาพระเยา นำปลากระโดดมาตากแดดบนแผงเรียงยาวบริเวณริมถนน  ทำใหม่สดขายแบบวันต่อวัน  ขอดเกล็ด ผ่าท้อง โดยต้องทำทีละตัว จากนั้นล้างทำความสะอาด แช่น้ำเกลือ ตากแดด ปลาที่นี่จะไม่มีกลิ่นฉุนตามสไตล์ปลาแห้ง เนื้อปลากรอบแน่น รสชาติไม่เค็มจนเกินไป

 

 

จากนั้นนำมาบรรจุซองขายทั้งแบบที่ยังไม่ได้ทอด และแบบที่ทอดแล้ว ซึ่งมี 2 สูคร คือ ไม่ปรุงรส กับอีกแบบคือ นำมาคั่วกับไข่เค็มที่อร่อยมากได้ทั้งรสชาติความกรุบกรอบของปลาผสมกับความมันของไข่เค็ม แค่กินกับข้าวสวย ข้าวเหนียว เพียงอย่างเดียวก็อร่อยแล้ว กินคู่กับน้ำพริกยิ่งเด็ด หรือจะนำมากินเล่นก็ได้ ปกติเคยกินปลาตัวเล็กๆที่นำมาตากแดดแล้วทอดแบบนี้หลายที่ แต่ยังไม่เคยรู้สึกว่าที่ไหนจะกินแล้วอร่อย หยิบเพลินแบบหยุดไม่ได้เท่าที่นี่ เห็นครั้งแรกอาจรู้สึกว่า แค่ปลาแดดเดียวที่ดูภายนอกหน้าตาธรรมดา เคยเห็นปลาที่นำแปรรูปแบบนี้ขายอยู่หลายจังหวัด แต่ถ้าได้ลองชิมจะเปลี่ยนความรู้สึกของการกินปลาแดดเดียวไปเลย เป็นของดีตาพระเยาที่ต้องแวะซื้อกลับบ้านหรือซื้อเป็นของฝาก

 

 

รู้จักปลากระโดดแล้ว กิจกรรมต่อไป คือ ล่องเรือชมทัศนียภาพของเขื่อนบางลาง โดยไปที่ท่าเรือตาพระเยา ที่อยู่ไม่ไกลจากจุดพักรถ สำหรับการติดต่อล่องเรือ สามารถติดต่อเรือนำเที่ยวได้ที่  คุณเปี๊ยก ป.ทรัพย์เจริญ นำเที่ยวฮาลา – บาลา โทร  087 295 4736 โดยคิดค่าบริการแบบเหมาลำ 1500 บาท เรือนั่งได้ไม่เกิน 10 คน ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง เวลาล่องเรือมีทั้งหมด 4 รอบ คือ 09.00 น. 11.00 น. 13.00 น. 15.00 น. โดยต้องจองล่วงหน้า โปรแกรมเริ่มจากนำชมทัศนียภาพของเขื่อน ไปยังเกาะทวดเพื่อไหว้ขอพรบูเกี๋ยะอันศักดิ์สิทธิ์ และนอกจากล่องเรือแล้ว หากต้องการทานอาหาร ยังมีอาหารท้องถิ่นให้บริการ ทั้ง ปลากระโดดเมนูขึ้นชื่อ แกงส้ม ไข่เจียว น้ำพริกพร้อมผักพื้นบ้าน โดยจัดเป็นชุดใส่ปิ่นโตให้ทานระหว่างล่องเรือ หรือจะไปทานบนเกาะทวดก็ได้ โดยค่าอาหารจะคิดแยกกับค่าเรือ

 

 

เขื่อนบางลาง ประตูสู่ป่าฮาลาบาลาผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์แห่งจังหวัดยะลา นอกจากล่องเรือชมทัศนียภาพรอบเขื่อนแล้ว ยังใช้เส้นทางนี้นั่งเรือไปเที่ยวต่อยังป่าฮาลาบาลาและหมู่บ้านจุฬาภรณ์ 9 โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง หากมาเที่ยวในเดือนมีนาคม จะได้เห็นใบไม้เปลียนสีสวยงาม ไปชมต้นสมพงขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านกลางผืนป่า ในช่วงเดือนสิงหาคมยังมีปรากฏการณ์การบินอพยพของฝูงนกเงือก มารวมฝูงที่ป่าฮาลาบาลา อ.เบตง จ.ยะลา ที่รอบปีหนึ่งจะเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวเท่านั้น นักท่องเที่ยวที่อยากเห็นฝูงนกเงือกนับร้อยตัวบินโฉบเฉี่ยวไปมา สามารถล่องเรือมาชมนกเงือกกันได้

 

 

จากท่าเรือตาพระเยาประมาณ 20 นาที มาถึง เกาะทวด เกาะน้ำจืดขนาดเล็กที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบฮาลา-บาลา กลางเขื่อนบางลาง เกาะทวด มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ คือ ทวดบูเกี๊ยะ เป็นที่นับถือของทั้งชาวบ้านและคนในพื้นที่และในละแวกใกล้เคียงโดยเฉพาะชาวมาเลเซีย นิยมมาขอโชคลาภ ว่ากันว่าท่านใบ้หวยแม่นมาก จนคนมาเลย์หลายคนถูกหวยร่ำรวยและต้องมาแก้บนกันอยู่เนืองๆ จนเกิดเป็นกระแสบอกต่อเลื่องลือถึงความศักดิ์สิทธิ์

 

 

 

ไม่เพียงแต่ความศักดิ์สิทธ์เท่านั้น แต่บรรยากาศบนเกาะทวด ยังมีความเงียบสงบ ทิวทัศน์ที่สวยงาม มีภูเขารายล้อมรอบทิศ และลมพัดเย็นสบาย สามารถเดินเล่นชมวิวนั่งพักผ่อนได้

 

 

สำหรับการไหว้ขอพรทวดบูเกี๊ยะ มีดอกไม้และธูป กล่องประทัดวางวางอยู่บริเวณทางเดินเข้าศาล สามารถทำบุญได้ตามกำลังศรัทธา สำหรับประทัด จะจุดหรือไม่ก็ได้

 

บริเวณศาลมีพระพุทธรูปให้ไหว้พระก่อน จากนั้นมาไหว้ขอพรทวดบูเกี๊ยะ อยากขออยากบนอะไรท่าน ก็อธิษฐานขอพรไปตามความประสงค์ จะเรื่องงาน เรื่องเงิน ความรัก ถ้าได้ตามที่ขอไว้ อย่าลืมกลับมาแก้บนท่านด้วยนะคะ  

 

 

 

หลังจากไหว้ทวดแล้ว ใครซื้อประทัดมาจุดแล้วรอดูเลข นำไปเสี่ยงดวงกันต่อได้ ชอบเลขไหนก็ตีเลขกันไปได้เลย

 

 

ไหว้ทวดบูเกี๊ยะแล้ว  ได้เวลานั่งเรือกลับ ระหว่างทางนั่งชมวิวทิวทัศน์ ทานอาหารกันต่อ ซึ่งอาหารเราต้องสั่งเพิ่มเติมได้ อาหารเป็นเมนูท้องถิ่น ทั้ง น้ำพริกผักพื้นบ้าน ไข่เจียว แกงส้ม และเมนูที่ขาดไม่ได้ คือ ปลากระโดดคั่วไข่เค็มที่จัดใส่จานประดับดอกดาหลามาแบบสวยงาม  จะนั่งทานที่จุดพักรถ หรือจะทานบนเกาะทวด หรือจะนั่งทานบนเรือแบบเก๋ๆ แนะนำว่าต้องสั่งนะคะ ถึงแม้จะเป็นเมนูอาหารที่ดูธรรมดา แต่รสชาติอาหารอร่อยทุกอย่าง ทานแล้วฟินมาก  

 

 

 

สำหรับการล่องเรือ สามารถแวะก่อนเที่ยวเบตง หรือขากลับจากเที่ยวก็ได้ เพราะเป็นเส้นทางผ่านอยู่แล้ว ใช้เวลาไม่นานเพียงแค่ 2 ชั่วโมง ระยะทางล่องเรือไปกลับไม่ไกลมาก ตบท้ายด้วยการซื้อของฝากชึ้นชื่อ ปลากระโดดกลับไปทานที่บ้าน  เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่สุดชิลที่ไม่ควรพลาด

 

 

 

รายละเอียดเพิ่มเติม

ติดต่อเรือนำเที่ยวได้ที่  คุณเปี๊ยก ป.ทรัพย์เจริญ นำเที่ยวฮาลาบาลา โทร  087 295 4736 โดยคิดค่าบริการแบบเหมาลำ 1,500 บาท  เรือนั่งได้ไม่เกิน 10 คน (ไม่รวมค่าอาหาร) ค่าอาหารคนละ 150 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง มีทั้งหมด 4 รอบ คือ 09.00 น. 11.00 น. 13.00 น. 15.00 น. นักท่องเที่ยวต้องจองเรือล่วงหน้า โปรแกรมเริ่มจากนำชมทัศนียภาพของเขื่อน ไปยังเกาะทวดเพื่อไหว้ขอพรทวดบูเกี๋ยะ หากต้องการล่องเรือต่อไปยังหมู่บ้านจุฬาภรณ์ 9 ชมผืนป่าฮาลาบาลา มีค่าใช่จ่ายเพิ่ม สอบถามไปที่เบอร์ที่ให้ไว้ได้เลยค่ะ