ฆูนุงซีลีปัต ชมหมอกสุดขอบฟ้า ที่เบตง
ในอำเภอเบตง จังหวัดละยา นอกจากทะเลหมอกอันเยอร์เวงที่ขึ้นชื่อแล้ว ยังมีจุดชมทะเลหมอกที่สวยงามอีกหลายแห่ง หนึ่งในนั้น คือ ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต จุดชมทะเลหมอกสุดอลังการที่มองเห็นได้แบบ 360 องศา เป็นสายหมอกที่คลอเคลียงดงามตามไหล่เขาที่เรียงรายสลับซับซ้อน หันมองไปทางไหนก็จะเห็นแต่สายหมอกขาวจรดขอบฟ้าครามที่โอบกอดเราไว้ เรียกได้ว่าเป็นสุดยอดความงามที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย นักเดินทางที่ชื่นชอบในทะเลหมอกต้องไม่พลาด ที่สำคัญมีหมอกให้ชมได้ตลอดทั้งปีไม่ต้องรอให้ถึงหน้าหนาว รับรองได้ว่าหากใครได้ไปสัมผัสต้องประทับใจแบบไม่รู้ลืม
ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต สามารถเที่ยวได้แบบวันเดียวโดยขึ้นไปชมทะเลหมอกในตอนเช้าโดยเลือกพักที่ตัวอำเภอเบตง หรือจะพักค้างแรมข้างบนก็จุดกางเต้นท์ซึ่งห่างจากจุดชมวิวประมาณ 500 เมตร โดยเส้นทางขึ้นมาชมทะเลทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต มีสองเส้นทางให้เลือก 2 ทาง คือ เส้นทางแรก ไม่ต้องค้างคืน สามารถนำรถไปจอดได้ที่ภูนภา ที่พักแบบเต้นท์ตั้งอยู่บริเวณทางขึ้นไปยัง ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต โดยเสียค่าผ่านทางคนละ 50 บาท แล้วเดินขึ้นไปประมาณ 500 เมตร หรือจะค้างคืนที่ภูนภาก็ได้ อีกเส้นทาง คือ ก.ม. 28 สำหรับสายเอดเวนเจอร์ที่ชอบเดินป่า โดยนั่งรถโฟร์วิวมาประมาณ 3 ก.ม. และเดินเท้าต่อไปอีก 2 กิโลเมตร
แต่พอมาถึงข้างบนซึ่งเป็นจุดชมวิวซึ่งมีลักษณะเป็นลานดินที่ไม่กว้างมากนัก มองลงไปเห็นสายหมอกอยู่รายล้อม ก็หายเหนื่อยในทันที วิวสวยมากเป็นความสวยงามระดับทะเลหมอกทางเหนือ อารมณ์แบบดอยผาตั้ง เชียงราย ที่เรายกให้เป็นทะเลหมอกอันดับ 1 ในใจ แต่ต่างกันที่ ดอยผาตั้งจะเห็นหมอกได้ในฟีลแสงสวยๆแค่เพียงฤดูหนาว แต่ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต มีให้ชมตลอดทั้งปีถึงแม้จะเป็นฤดูร้อนก็ตาม เพราะฉะนั้นไม่ว่าจะเดินทางในช่วงไหนก็ได้เห็นแน่ แต่จะได้เห็นในแบบไหน สวยมาก สวยน้อยเท่านั้นเอง ในระหว่างนี้ก็นั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นไปเรื่อยๆ เริ่มเห็นแสงสีทองที่เส้นขอบฟ้าค่อยๆปรากฎชัดเจนขึ้น
ในระหว่างรอก็เดินชมวิว ถ่ายภาพไปเรื่อยๆ ทางไกด์นำทางจะเตรียมธงชาติไทย ไว้ให้เรามาเป็นพรอพถ่ายภาพรับลมปลิวไสว อารมณ์ว่าฉันเป็นผู้พิชิตทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต เพราะการปีนขึ้นมาในช่วง 200 เมตรสุดท้ายก็เป็นจุดวัดใจพอสมควร
เมื่อพระอาทิตย์เริ่มมาทักทายพวกเรา แสงค่อยๆส่องกระทบมายังภูเขาและทะเลหมอก ประกอบกับท้องฟ้าสีฟ้ายิ่งเพิ่มความสวยงามขึ้นอีกเป็นทวีคูณ ทะเลหมอกเริ่มไหลมาคลอเคลียตามไหล่เขามากขึ้น
เนื่องจากวันที่เราเดินทางไป คือ วันธรรมดานักท่องเที่ยวค่อนข้างน้อยมีแค่เราคนไทย 2 คน และนักท่องเที่ยวมาเลเซียอีก 6 คน พร้อมไกด์คนไทย บรรยากาศจึงไม่แน่นและอึดอัดจนเกินไป ทราบมาว่าคนมาเลชอบมาเที่ยวชมทะลหมอกมาก ทางไกด์คนไทยก็เตรียมพรอพเป็นแม่มดขี่ไม้กวาดเก๋ๆ มาด้วย พร้อมส่งพรอพมาให้พวกเราบอกว่า นี่ๆ เอาไปใส่ถ่ายภาพกันเลยครับ และแน่นอนเราไม่ปฏิเสธแปลงกายเป็นแม่มดขี่ไม้กวาด กระโดดท่ามกลางภูเขาที่รายล้อมด้วยทะเลหมอก เหมือนเราลอยอยู่บนฟ้าเท่จิง
ไทย มาเลเซีย เราคือพี่น้องกัน ถ่ายภาพรวมกลุ่มกับนักท่องเที่ยวมาเลสักหน่อย
ถ่ายภาพทะเลหมอกหมอกจนอิ่มใจก็มานั่งจิบเครื่องดื่มอุ่นมองวิวหมอกต่อ
เรานั่งมองทะเลหมอกที่อยู่ตรงหน้าอย่างเพลิดเพลินใจ แบบไม่คิดว่าภาคใต้ของเราจะมีทะเลหมอกที่สวยงามขนาดนี้ เป็นความงามที่ซ่อนอยู่ในเมืองเบตง เมืองเล็กน่ารัก แต่ในเรื่องที่เที่ยวเบตงไม่เล็ก ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่รอให้เราเปิดใจมาเยี่ยมเยือนอีกมากมาย
รายละเอียดเพิ่มเติม
ทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัต สามารถเที่ยวได้แบบวันเดียวโดยขึ้นไปชมทะเลหมอกในตอนเช้าโดยเลือกพักที่ตัวอำเภอเบตง หรือจะพักค้างแรมใกล้กับจุดชมทะเลหมอก มีที่พักแบบแคมป์ ชื่อว่าภูนภาแคมป์ปิ้ง สามารถติดต่อได้ที่เพจของทางที่พักโดยตรง สามารถสอบถามได้ที่ ภูนภาแคมป์ปิ้ง โทร 086 968 2055
ท่องเที่ยวชุมชนทะเลหมอกฆูนุงซีลีปัตแบบค้างคืนกางเต้นท์บริเวณทางขึ้น
รายละเอียดค่าใช้จ่าย เพื่อไปพิชิตฆูนุงซีลีปัต
1.รถโฟวิลขึ้น-ลงฆูนุงซีลีปีต
2.อาหารเย็น 1มื้อ
3.อาหารว่าง 2เมื้อ(กาเเฟหรือโอวันตินตอนค่ำเเละตอนเช้ามีขนมปังปิ้งบนยอด)
4.น้ำดื่ม
5.เต้นท์ เสื่อรองในเต้นท์
6.ของปิ้งย่าง ไก่ ลูกชิ้น
7.ค่าธรรมเนียมจุดกางเต้นท์
ราคาพร้อมทีมสต้าฟขึ้นไปนำทาง เเละบริการตลอดทริป หมายเหตุ ทริปที่มาเกิน5ท่านขึ้นคิดท่านล่ะ 800บาท มาเเจมทริปได้ โทร 081 093 8549 เเบเฮง โทร 082 265 6900 เเบซู
รีวิวท่องเที่ยวเบตงแบบ 3 วัน 2 คืน คลิ๊ก เที่ยวเบตง