ถนนคนเดินตรอกโรงยา อุทัยธานี
ถนนคนเดินตรอกโรงยา เป็นอีกหนึ่งสถานที่อีกแห่งหนึ่งที่สามารถสะท้อนเรื่องราวและบรรยากาศของความเป็นเมืองอุทัยได้เป็นอย่างดี ใครจะรู้ว่าถนนคนเดินเล็กๆ แห่งนี้แต่ก่อนนั้นเคยเป็นชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวจีนอาศัยจำนวนมาก อีกทั้งเป็นแหล่งสูบฝิ่นซึ่งเปิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย บรรยากาศของที่นี่จึงคลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่มาซื้อขายและสูบฝิ่นกันอย่างเสรี ทำให้ชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเรียกตรอกนี้จนติดปากว่า “ตรอกโรงยา” ต่อมาเมื่อ พ.ศ.2500 เมื่อรัฐบาลประกาศให้ฝิ่นเป็นสิ่งเสพติดผิดกฎหมาย ตรอกโรงยาจึงซบเซาลงไปโดยปริยาย จนกระทั่งได้ถูกปลุกให้ฟื้นคืนชีวิตขึ้นมาใหม่อีกครั้งให้กลายเป็นถนนคนเดินกลางเมืองอุทัยธานี ที่ยังคงทิ้งร่องรอยของความเจริญรุ่งเรืองในอดีตผ่านบ้านไม้เก่าแก่ที่ได้ถูกปรับปรุงกลายเป็นร้านค้า ร้านอาหาร ร้านกาแฟ รวมถึงร้านขายของที่ระลึก จนทำให้ตรอกโรงยากลับมาคึกคักอีกครั้ง
ถนนคนเดินตรอกโรงยาเปิดทุกวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 4 โมงเย็นจนถึงสองทุ่ม ตั้งอยู่ใจกลางเมืองอุทัย ไม่ไกลจากตลาดสดริมน้ำสะแกกรัง และวงเวียน หากมาพักค้างคืนที่พักในตัวเมือง สามารถขับรถมายังถนนแห่งนี้ได้ ถ้าเป็นรถยนต์ด้านหน้าทางเข้าจะไม่มีที่จอดรถ ส่วนใหญ่จะจอดได้แค่รถมอเตอร์ไซต์และจักรยาน แต่สามารถนำรถไปจอดได้ที่ตลอดสดอุทัยและเดินย้อนมา แต่ที่จอดรถจะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัดต้องมาถึงก่อนเวลาเปิดซักหน่อย หากพักบริเวณที่พักในละแวกใกล้เคียงซึ่งส่วนใหญ่จะมีจักรยานให้บริการฟรีแนะนำให้ปั่นจักรยานมาจะสะดวกมากกว่า
เมื่อมาถึงบริเวณหน้าทางเข้าจะเจอกับร้านหมูสะเต๊ะเจ้าดัง หมูสะเต๊พคุณอ้อ หรือที่เรียกกันว่า หมูสะเต๊ะ ร้อยคิว จากชื่อแล้วหันไปมองหน้าร้านก็ไม่แปลกใจ เพราะลูกค้าเยอะมาก ทั้งนั่ง ทั้ง ยืนถือบัตรคิวรอเรียก ซึ่งที่มาของชื่อหมูสะเต๊ะร้อยคิวนั้นก็มาจากที่ว่า ร้านนี้จะมีบัตรให้ลูกค้าจำนวน 100 คิว ซึ่งเมื่อครบคิวที่ 100 แล้วก็จะวนมาแจกบัตรใหม่แบบนี้เรื่อยๆ คิดในใจต้องมีอะไรดีแน่ๆ ถึงยอมรอกันขนาดนี้ ตอนแรกไปถามคิวดูแล้วท่าจะต้องรอนานแอบถอดใจคงไม่ได้กิน ทางเจ้าของร้านเห็นสีหน้าจ๋อยๆ เลยหยิบหมูสะเต๊ะให้ลองชิม 1 ไม้ เท่านั้นแหละเดินไปรับบัตรคิวในทันที หมูสะเต๊ะเนื้อนุ่มอร่อยมาก ขนาดยังไม่ได้จิ้มกับน้ำจิ้มหมู และอาจาด เคยทานหมูสะเต๊ะมาหลายร้าน ต้องยกนิ้วให้ เข้าใจทันทีว่าทำไมลูกค้ายอมรอคิวขนาดนี้ พี่เค้าบอกว่ารับบัตรคิวแล้วไปเดินเล่นซัก 1 รอบ ก่อนค่อยมาก็ได้ คือ คุณพี่ใจดีน่ารักมาก ยิ้มแย้มแจ่มใสรับลูกค้าตลอด รับบัตรคิวแล้วก็ไปเดินเล่นซักพัก
บรรยากาศของบ้านเรือนไม้สุดคลาสิค ซึ่งในเวลานี้คึกคักด้วยนักท่องเที่ยวที่เดินจับจ่ายซื้อหาของกินอร่อยๆ มานั่งทานและซื้อกลับไปทาน มีทั้งอาหารคาวหวาน และขนมโบราณ ของฝากของที่ระลึก ของโบราณต่างๆมากมาย
ขนมผักกาด อาหารทานเล่นแบบโบราณ ราคาแค่ 20 บาท พิกัดร้านอยู่ใกล้กับร้านหมูสะเต๊ะ เจ้าของเชื้อเชิญบอกว่าอร่อยนะ ทานแล้วจะติดเข้าคอนเฟริม เราเลยต้องอุดหนุนซักหน่อย อร่อยมากอีกแล้วทั้งเนื้อของแป้งที่นุ่มและน้ำจิ้มรสดีเข้ากันมาก แนะนำผ่านร้านนี้ต้องซื้อ
ร้านกาแฟเก๋ๆ สีสันสดสัน ด้วยบรรยากาศและการตกแต่งน่ารักแบบร่วมสมัย มีมุมกุ๊กกิ๊กหลายมุม ชวนให้น่าเดินเข้าไปนั่งจิบเครื่องดื่ม ถ่ายภาพร้านกันซักหน่อย
มาหยุดยืนอยู่บริเวณหน้าร้านดังอีกหนึ่งร้าน บ้านนกเขา เป็นบ้านที่สะสมภาพเก่าอุทัยธานี และสถานที่ต่างๆรวมทั้งของใช้และสิ่งของที่ส่วนใหญ่ทุกคนเคยใช้กัน ในอดีต โดยใช้เวลาสะสมสิ่งของเหล่านี้ เป็นเวลานานหลายปี โดยนำสิ่งของมาจัดแสดงให้ทุกคนได้ชมชมและสัมผัส และยังให้เยาวชนได้ศึกษาเรียนรู้ ปลูกสำนึกจิตใจแห่งการอนุรักษ์ โดยจัดแสงสีบรรยากาศภายในภายนอกร้านให้เข้ากับบรรยากาศยิ่งขึ้น
บริเวณหน้าร้านจัดเป็นมุมถ่ายภาพแบบย้อนยุค รวมทั้งมีที่นั่งสำหรับพัก จะทานอาหาร หรือจิบเครื่องดื่ม หลังจากช้อปกันมาอย่างเพลินอีกด้วย
บ้านรักษ์อุทัย อยู่ติดกับบ้านนกเขา เป็นอีกบ้านที่สะสมของเก่าโบราณต่างๆ ทั้ง ทีวี ถ้วยชาม (สมัยปู่ย่าที่มาจากเมืองจีน) เครื่องเล่นแผ่นเสียง เครื่องรีดทอง รวมถึงรูปภาพเก่าๆ ที่สะดุดตา คือ ภาพของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงเคยเสด็จมาเยียมราษฎรที่อุทัยธานี บ้านรักษ์อุทัย เปิดให้ได้ชมโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
เดินมาจนเกือบสุดปลายถนนก็จะเจอป้าย ตลาดเก่าบ้านสะแกกรัง และมุมถ่ายภาพน่ารักๆ หน้าป้าย
จากนั้นเดินย้อนกลับไปทางเดิมเพื่อไปรับหมูสะเต๊ะ ที่ได้รับคิวไว้ ใกล้กับถนนคนเดินตรอกโรงยา มีร้านอาหารที่ขึ้นชื่อร้านแห่ง เริ่มจากร้านโกตี๊ ข้าวมันไก่ ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับตรอกโรงยา ปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 06.00 น. – 14.30 น. เบอร์โทรศัพท์ร้าน 085 651 2013 เมนูของทางร้าน มีทั้งข้าวมันไก่ต้ม ไก่ทอด ข้าวหมูแดง ข้าวหมูกรอบ ข้าวหน้าเป็ดแล้ว ยังมีเมนูอีกหลายอย่าง อาทิ ต้มจืดมะระ ต้มจืดเต้าหู้สาหร่าย ซี่โครงหมูตุ๋นยาจีน ต้มจืดเยื่อไผ่ แพะตุ๋นยาจีน และของทานเล่นอย่างหอยจ๊อปู แฮกึ๋นกุ้ง หมูสะเต๊ะ เราสั่งข้าวมันไก่เนื้อน่อง และต้มจืดมะระติดใจรสชาติของเมนูนี้เป็นพิเศษ น้ำซุปกลมกล่อมมาก สำหรับข้าวมันกันรสชาติใช้ได้เนื้อไก่นุ่ม น้ำจิ้มมี 2 แบบ คือ น้ำจิ้มเต้าเจี้ยวโดยส่วนตัวรู้สึกว่ารสชาติแปลกๆไม่ค่อยชินกับรสนี้เท่าไหร่ และแบบซีฟู้ด
ร้านเจ๊ดา ปลาลวก ร้านนี้การันตีว่าเด็ดจริง เพราะเคยมาทานเมื่อครั้งก่อน อร่อยมาก ซึ่งเมนูเด็ดของร้านนี้คงไม่พ้นเมนูประเภทปลา ทั้งปลาลวก ปลาทอด ต้มยำ ต่างๆ ปลาที่ใช้เป็นปลาแม่น้ำซึ่งสดมาก เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มที่กลมกล่อม แนะนำมาอุทัยต้องไม่พลาดร้านนี้ค่ะ แต่ครั้งนี้เราไม่ได้ทานเนื่องจากอิ่มมาก เพราะทานมาตั้งแต่ถนนคนเดิน
อีกหนึ่งร้านดังตั้งอยู่ตรงข้ามเจ๊ดาปลาลวก บริเวณห้าแยกวิทยุหรือตรงวงเวียนพอดี ร้านน้ำเต้าหู้ ไซ้จันทร์ การันตีความอร่อยด้วยจำนวนลูกกค้ายืนซื้อ และนั่งทานในร้น น้ำเต้าหู้มีให้เลือกตั้งแต่น้ำเต้าหู้ธรรมดา น้ำเต้าหู้งาดำ น้ำเต้าหู้ชาเขียว น้ำเต้าหู้มีความเข้มข้น ให้ความรู้สึกว่ากำลังทานน้ำเต้าหู้แท้ แบบที่ไม่ผสมน้ำหรือแป้ง ใส่มาในถ้วยที่ใหญ่มากทานกันจนอิ่มเผลอๆ ทานไม่หมด เมนูอื่นก็มี เช่น เต้าฮวย บัวลอยน้ำขิง ร้านเปิดทุกวัน 15.00 น. -21.00 น.
เต็มอิ่มกับบรรยากาศเก่าๆ ของถนนคนเดินตรอกโรงยาก รวมทั้งอิ่มท้องกับอาหารอร่อยด้วย ได้เวลากลับที่พัก เก็บบรรยากาศบริเวณตัวเมืองอุทัย ได้มนต์ขลัง คงความเก่าแก่ของความเป็นเมืองได้เป็นอย่างดี ซึ่งปัจจุบันตึกรามบ้านช่องต่างๆ ร่วมใจกันทาสีม่วง เพื่อเป็นการร่วมกันถวายพระพรในวันคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพฯ เนื่องในโอกาสเจริญพระชนมายุครบ 5 รอบ 60 พรรษา เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2558 เมืองอุทัยจึงกลายเป็นสีม่วงเกือบทั้งเมือง