ดูช้างป่า ส่องกระทิง ที่ กุยบุรี ดินแดนแห่งซาฟารี
ดูช้างป่า ส่องกระทิง ที่ อุทยานแห่งชาติกุยบุรี อำเภอกุยบุรี จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ที่รายล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนของเทือกเขาตะนาวศรี เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด โดยเฉพาะฝูงช้างและกระทิง ที่มีมากที่สุด เรียกได้ว่าคือ จุดชมช้างป่าที่ดีที่สุดในอันดับต้นของประเทศไทย ในแต่ละวันจะมีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมสัตว์ป่าจำนวนไม่น้อย สามารถเห็นฝูงสัตว์ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังท่องอยู่ในดินแดนซาฟารี
อุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นพื้นที่คนละโซนกับกุยบุรีในโซนทะเลที่จะค่อนข้างสะดวกสบายกว่า มีพักร้านอาหารรีสอร์ทมากมาย แต่กุยบุรีโซนนี้อยู่ในบ้านยางชุม ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่เป็นผืนป่าและภูเขา และบ้านเรือนของชาวบ้านยางชุม มีสถานที่ท่องเที่ยว คือ อ่างเก็บน้ำยางชุม ทุ่งหญ้า 1500 ไร่ สามารถแวะเที่ยวก่อนไปดูช้างที่อุทยานฯได้ ในโซนนี้ไม่มีร้านอาหารใหญ่ มีเพียงร้านอาหารของชาวบ้าน เป็นอาหารตามสั่ง ก๋วยเตี๋ยว เพียงไม่กี่ร้าน ที่พักนอกจากที่พักของอุทยานฯ ยังมีที่พักแบบรีสอร์ทห่างจากอุทยานไม่ไกลนัก น่าจะมีเพียงแห่งเดียว คือ little swiss เป็นที่พักที่อยู่ติดกับทุ่งหญ้า 1500 ไร่ ช่วงเวลาที่อุทยานเริ่มให้มีกิจกรรมชมช้าง คือ ทุกวัน ตั้งแต่เวลา 15.00 น.-18.00 น. แนะนำให้มาตั้งแต่บ่ายสามจะได้มีเวลาอยู่ได้นาน เพราะไม่สามารถคาดเดาได้ว่าช้างจะออกมาประมาณกี่โมง
*** ให้ทานอาหารมาให้อิ่มท้อง หรือพกน้ำกับขนมติดตัวมาด้วย เพราะต้องอยู่ข้างในค่อนข้างนานเกือบสามชั่วโมงจนถึงหกโมงเย็น อาจหิวโดยไม่รู้ตัว
ทางอุทยานไม่อนุญาตให้นำรถส่วนตัวเข้าไป สามารถมาติดต่อซื้อเหมารถนำเที่ยวเข้าไปภายในพื้นที่ ได้บริเวณ ที่อาคารต้อนรับสีขาว โดยคิดอัตราค่ารถแบบเหมาคัน 850 บาท นั่งได้ไม่เกิน 8 คน มีไกด์ประจำรถคอยดูแล 1 คน ช่วงนี้ยังอยู่ในสถานการณ์โควิด ทางอุทยานฯไม่มีการขายตั๋วเป็นคน แต่ให้เหมาเป็นคันแบบกลุ่มใครกลุ่มมัน ถ้ามา1-3 คน ต้องเหมา 1 คัน ไปเลย ค่าเหมารถจะไม่รวมค่าธรรมเนียมเข้าอุทยาน โดยต้องจ่ายแยกกัน และหากใครอยากได้กล้องส่องทางไกลก็มีให้เช่าอันละ 100 บาท
หลังจากซื้อตั๋วรถแล้ว ไปที่ป้ายช้างป่ากุยบุรี ลงชื่อตรงจุดคัดกรอง จากนั้นนั่งรถไปได้เลยค่ะ จะมีไกด์ 1 คนประจำรถ ที่คอยเล่าอธิบายให้ข้อมูลของอุทยาน พาเราไปยังจุดชมสัตว์ตามจุดต่างๆ
ถนนภายในอุทยานฯเป็นถนนดิน ทั้งสองข้างทางเขียวขจีด้วยต้นไม้มองไปทางไหนแสนสบายตา ผืนป่าภายในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เป็นป่าผืนใหญ่อยู่ทางทิศตะวันตกติดต่อกับชายแดนพม่า เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาตะนาวศรี ประกอบด้วยป่าดิบชื้น ป่าดิบแล้ง ป่าเบญจพรรณ หนาแน่นด้วยพันธุ์ไม้ที่มีค่าทางเศรษฐกิจมากมาย เป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่านานาชนิด นั่งรถไปจะได้ยินเสียงนกร้องตลอดทาง มีนกบินโฉบเฉี่ยวผ่านไปตลอด ไกด์บอกว่า ที่นี่คือ แหล่งดูนกชั้นดีที่นักดูนกนิยมมาส่องนก บางจังหวะยังได้เห็นไก่ป่าเดินผ่านรถเราไป เป็นการส่องสัตว์ที่จะได้ลุ้นไปตลอดว่าจะได้เห็นอะไรบ้าง
นั่งรถผ่านที่ทำการอุทยานที่ตั้งอยู่ในป่า บริเวณนี้มีบ้านพักด้วย โดยนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาพักแรกได้ แต่ไกด์บอกว่า ต้องจิตแข็งในระดับนึง เพราะบางครั้งช้างป่าจะเดินเข้ามาเอางวงเข้ามาในประตูห้องในยามดึก แต่น้องก็ไม่ได้มาทำร้ายใคร แค่มาทักทายหรือมาเล่นด้วยเฉยๆ หรือบางครั้งจะได้ยินเสียงร้องของสัตว์ป่าดังตลอด ฟังแล้วก็ต้องจิตแข็งตามที่บอกจริงๆ
มาถึงจุดแรก โป่งสลัดได เป็นจุดที่มีโป่งดินสีแดงซึ่งสัตว์ป่าชอบมากินโป่งเพื่อเป็นยาและอาหาร จุดนี้เป็น จุดชมกระทิง ที่จะได้เห็นฝูงกระทิงมายืนกินอาหารอยู่ไกลๆ หรือบางทีก็เห็นแบบใกล้ชิด มาที่กุยบุรี กระทิงได้เห็นเป็นฝูงแน่นอน แต่ช้างต้องมาลุ้นกัน มีบ้านที่เป็นหอส่องสัตว์ ที่เราสามารถเดินขึ้นไปชมวิวจากด้านบนได้ด้วย
ระหว่างทางนั่งรถไปยังจุดต่อไป เห็นกระทิงสองตัวยืนแน่นิ่ง นึกว่ารูปปั้น ไกด์จึงให้รถจอดแล้วหยุดดู มันก็ยังคงยืนมองสังเกตึการณ์เราอยู่สักพักแล้วเดินเข้าป่าจากไป ไกด์ที่อุทยานฯ น่ารักมาก พานักท่องเที่ยวมาบ่อยจนชำนาญ ถ้าเห็นสัตว์ป่าตรงไหนจะคอยชี้ หรือหยุดรถให้ชมตลอด
มาถึง ผาชมสัตว์ป่า เป็นจุดไฮไลท์ที่นักท่องเที่ยวทุกคนจะมาหยุดอยู่ตรงจุดนี้ เพื่อรอดูช้างที่จะออกมาในช่วงเย็น รวมทั้งฝูงกระทิงที่จะได้เห็นก่อนช้าง รอแล้วรอเล่าจนเกือบห้าโมงเย็น ช้างก็ยังไม่เผยตัวออกมา เจ้าหน้าที่อุทยานบอกว่า ออกน่ะแต่ซ่อนตัวอยู่ในพุ่มไม่ตรงนั้น แต่เมื่อวานออกมาให้เห็นแบบใกล้มากอยู่ตรงลานนี้เลย ตามที่บอกว่าการมาดูช้างที่กุยบุรี ไม่ใช่การดูช้างในสวนสัตว์ที่ได้เห็นแน่นอน แต่เป็นการดูแบบธรรมชาติในป่า ที่ต้องมาลุ้นหน้างาน ว่าจะได้เห็นใกล้ หรือไกล หรือไม่ได้เห็น
บางวันได้เห็นฝูงช้างโขลงใหญ่ที่มาโชว์ตัวแบบใกล้ชิด แต่บางวันอาจไม่ได้เห็นหรือเห็นน้อย เป็นความรู้สึกให้ได้ลุ้น น ตื่นเต้นดีไม่น้อย สำหรับเราจะได้เห็นหรือไม่ก็คงต้องแล้วแต่ดวง แต่แค่ได้ออกมาเห็นผืนป่า ต้นไม้เขียวขจีแบบนี้ก็มีความสุขแล้ว ไกด์เล่าว่าบางคนมา 4 รอบ เพิ่งจะได้เห็นช้างเป็นฝูงแบบใกล้ๆครั้งที่ 4 แต่มีคนในพื้นที่บอกทริคว่า ถ้าอยากเจอห้ามขอ ห้ามบน หรือพกสิ่งศักดิ์สิทธิ์อะไรเข้ามาทั้งสิ้น ปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติ คิดว่ามาเที่ยว ส่วนใหญ่มาแบบไม่คาดหวังจะได้เห็นช้างแบบใกล้เป็นฝูงเกือบทุกคน สงสัยเราคงตั้งใจมากไป ขอให้ได้เห็นไปก่อนนหน้านี้เลยอดไป
หลังจากรอช้างนานแล้วถอดใจ คงไม่ได้เห็นแน่ๆช เจ้าหน้าที่เลยพามาดูฝูงประทิงแบบใกล้ชิด เจ้าหน้าที่อุทยานและไกด์ จะมีวิทยุสื่อสารที่คอยบอกข่าวกันตลอดว่าช้างหรือกระทิง มาตรงไหน จะพานักท่องเที่ยวไปตรงจุดนั้น
หลังจากเดินไปดูกระทิงแล้ว กลับมายังจุดเดิมเพื่อนั่งรถเตรียมเดินทางกลับ แต่แล้วน้องช้างก็เดินออกจากป่ามาปรากฎตัวให้เห็น แต่เห็นแบบไกลมากๆ เลนส์ซูมมาได้แค่นี้ แต่ก็ถือว่าได้เห็น ถึงแม้จะไม่ได้เห็นเป็นฝูงใหญ่แบบใกล้ๆในภาพที่เราเคยเห็นในรีวิวก็ตาม
ในระหว่างนั่งรถกลับ ฝนเริ่มตกลงมา และแล้วก็ได้ยินเสียงดังแบบใกล้มาก เป็นเสียงช้างตัวโต ที่เดินออกมาจากป่า เหมือนกำลังส่งเสียงเรียกโขลงของมัน น้องเป็นเพศผู้ตัวใหญ่ ถึงแม้จะได้เห็นแค่ตัวเดียวแบบใกล้ขนาดนี้ก็ดีใจแล้ว บางคนอาจจะคิดว่าจะตื่นเต้นทำไม เคยเห็นช้างเป็นฝูงได้เยอะแยะ ทั้งในสวนสัตว์ หรือในศูนย์แสดงช้าง แต่ความรู้สึกไม่เหมือนกันอย่างสิ้นเชิง เพราะการมาดูช้าง กระทิง ที่กุยบุรี คือ การชมตามธรรมชาติ ต้องคอยลุ้นตลอด ถ้าได้เห็นเป็นฝูงแบบใกล้ คือ มิชชั่นคอมพลีท แต่ถ้าไม่ได้เห็นก็อยากจะมาใหม่ ไม่อย่างนั้นบางคนจะมาถึงสี่รอบหรือค่ะ ความสนุกมันจึงอยู่ที่ตรงนี้