15 จุดเที่ยวเกาะสีชัง เที่ยว กิน พัก ชมวิวทะเล
เกาะสีชัง ชลบุรี ท่ีเที่ยวใกล้กรุงเทพ ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น เกาะสีชัง ไม่ได้เป็นเพียงเกาะที่มีแต่น้ำทะเลสวย แต่ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่ง ที่มากไปด้วยเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ เป็นเกาะท่ีเงียบ สงบ บรรยากาศสุดโรแมนติก เหมาะสำหรับควงแขนคนรัก หรือชวนเพื่อนคนสนิท มาพักผ่อนชมวิวทะเลไปด้วยกัน
การเดินทางมาเกาะสีชัง
เมื่อมาถึงอำเภอศรีราชา เดินทางต่อไปยังท่าเรือเกาะสีชัง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเกาะลอย หลังจากนั้นนั่งเรือข้ามฝั่ง เรือที่เดินทางเป็นเรือยนต์ลำใหญ่ ให้บริการทุกวันรอบแรกเรือออกเวลา 7 โมง มีเรือข้ามไปยังเกาะสีชังออกทุกชั่วโมง จนถึงเวลา 2 ทุ่ม ค่าบริการคนละ 50 บาท
นั่งเรือเพียงครึ่งชั่วโมงมาถึงเกาะสีชัง เกาะใหญ่กลางทะเล ซึ่งเป็นอำเภอหนึ่งของจังหวัดชลบุรี ถือว่าเป็นเกาะที่ใหญ่และเจริญมากเลยทีเดียว เห็นบ้านเรือนผู้คนหลากสีสัน วัดวาอารามที่ตั้งอยู่บนเขาสูง เรือประมงจอดอยู่ที่ท่า บางลำก็วิ่งผ่านไปมา รู้สึกคล้ายกับเมืองเวนิส แต่เป็นเวนิสในแบบฉบับไทย
การเดินทางเที่ยวรอบเกาะ
เมื่อมาถึงท่าเรือฝั่งเกาะสีชัง พาหนะที่จะพาไปทำความรู้จักกับเกาะสีชังมีหลายแบบ ทั้งมอเตอร์ไซค์ให้เช่าวันละ 250 บาท หรือเลือกนั่งรถสกายแลป เที่ยวละ 250 บาท เที่ยวรอบเกาะ โดยแวะตามจุดท่องเที่ยวสำคัญ ดังนี้ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รอยพระพุทธบาท ช่องเชาขาด หาดถ้ำพัง และที่สุดท้ายคือ พระจุฑาธุชราชฐาน สถานที่แต่ละแห่งบนเกาะตั้งอยู่ไม่ไกลกัน
สถานที่ท่องเที่ยวบนเกาะสีชัง
ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
เพื่อความเป็นสิริมงคล จุดแรกที่แวะบนเกาะสีชัง คือ ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวเกาะสีชังให้ความเคารพนับถือ ลักษณะเป็นถ้ำซึ่งดัดแปลงเป็นศาสนสถานที่ผสมผสานด้วยสถาปัตยกรรมจีนและไทยภายในบริเวณศาลมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากมาย เช่น พระสังกัจจายน์ ศาลเจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อเห้งเจีย ยิ่งเป็นตอนตรุษจีน คนจะมากันแน่น โดยเฉพาะชาวจีน เจ้าพ่อเขาใหญ่ มีลักษณะเป็นรูปหินที่เกิดจากธรรมชาติเมื่อหลายหมื่นปีมาแล้ว จากจารึกภาษาจีน ได้มีคนมาแปลไว้บอกว่า มีซินแสผู้สูงอายุมาจอดทอดสมอเรืออยู่หน้าเกาะได้เห็นแสงไฟอยู่บนเขาจึงได้ปีนขึ้นไปดู พบรูปหินย้อยลักษณะเหมือนศีรษะคนตรงตามตำราจีนบอกว่าเป็นรูปเจ้าพ่อที่เกิดขึ้นเองจากธรรมชาติ อยู่ในถ้ำในเขากลางทะเลและหันหน้าไปทางทิศตะวันออกมีน้ำอยู่ข้างหน้า ตามที่ชาวจีนโบราณเชื่อถือว่าเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่มหัศจรรย์ จากบริเวณศาลมองเห็นจุดชมวิวซึ่งสามารถมองเห็นทิวทัศน์บ้านเรือนด้านหน้าเกาะสีชังได้อย่างชัดเจน
มณฑปรอยพระพุทธบาทจำลอง
ไปต่อยังสถานที่ต่อไปนั่นคือ มณฑปรอยพระพุทธบาทจำลอง รถสกายแลปพาเราขึ้นเขาสูงขึ้นไปเรื่อยๆ ถึงแม้จะเข้าสู่ช่วงฤดูร้อนแล้ว แต่อากาศที่เกาะสีชังถือว่าไม่ร้อนค่ะ มีลมเย็นพัดมาตลอด ยิ่งได้นั่งรถตอนวิ่งเร็วๆ ด้วยแล้วยิ่งรู้สึกเย็นมากขึ้นอีกหลายเท่า มณฑปรอยพระพุทธบาทจำลอง ถูกอัญเชิญมากจากพุทธคยา ประเทศอินเดียในสมัยรัชกาลที่ 5 บนยอดเขาเป็นจุดชมทิวทัศน์ทะเลได้โดยรอบ และที่นั้นยังมีเจดีย์ที่บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ทั้งสองสิ่งนี้ จึงตั้งอยู่สูงสุดของสิ่งก่อสร้างทั้งหมดบนเกาะสีชัง
ช่องเขาขาด
ช่องเขาขาด หรือช่องอิสริยาภรณ์ ซึ่งหลายคงคุ้นเคยตากันมาบ้าง เป็นจุดไฮไลต์ที่สวยอีกจุดหนึ่งของเกาะสีชัง ตรงช่องเขาขาดจะมียื่นออกไป คล้ายกับแหลมพรมเทพ เรียกว่า แหลมมหาวชิราวุธ เป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งของเกาะสีชัง มีสะพานที่ทอดยาวยื่นออกไปยังแหลม
หาดถ้ำพัง
หาดถ้ำพัง เป็นจุดที่นักท่องเที่ยวนิยมมาพักผ่อน เล่นน้ำ ทานอาหาร มีร้านอาหารทะเลให้บริการหลายหลาย หาดถ้ำพังถือว่าเป็นชายหาดเพียงแห่งเดียวบนเกาะสีชังที่สามารถลงเล่นน้ำได้ น้ำทะเลของหาดใสมาก
สะพานอัษฎางค์
พระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย อดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว สิ่งก่อสร้างในพระจุฑาธุชราชฐาน สิ่งแรกที่เจอ คือ สะพานอัษฎางค์ สะพานไม้สีขาวสุดคลาสิคยื่นไปในทะเลมาถึงจุดสุดท้ายซึ่งเป็นโปรแกรมท่องเที่ยวรอบเกาะสีชัง สะพานอัษฎางค์ ตั้งอยู่ภายใน พระจุฑาธุชราชฐาน น้ำทะเลที่อยู่ด้านหน้าสวยใสจนเห็นโขดหินที่อยู่ด้านล่าง แต่น้ำทะเลบริเวณนี้ลงเล่นไม่ได้ เพราะเป็นเขตพระราชฐาน แต่ถ้าถ่ายภาพสัมผัสบรรยากาศได้ ด้านข้างมองเห็นสะพานอัษฎางค์อยู่ไม่ไกล
ภายในพระจุฑาธุชราชฐานค่อนข้างร่มรื่น มีลมพัดทะเลพัดเข้ามาตลอด ในสมัยรัชกาลที่ 4 เคยเสด็จประพาสเกาะสีชังหลายครั้ง มีพระราชดำรัสสรรเสริญเกาะสีชังว่า “เป็นที่อากาศดีผู้ซึ่งอยู่ในเกาะนี้จึงได้มีอายุยืน เพราะมิใคร่มีโรคภัยมาเบียดเบียน” ทรงเคยให้พระบรมวงศานุวงศ์เสด็จมาประทับรักษาอาการประชวรที่เกาะสีชังหลายพระองค์ ซึ่งอาการพระประชวรก็ทุเลาลงทุกพระองค์ ภายในพระจุฑาธุชราชฐานร่มรื่นด้วยต้นลีลาวดีแผ่กิ่งก้านสาขาใหญ่โต สวยงาม มีอายุกว่า 100 ปี เดินผ่านต้นลีลาวดีดอกไม้ประจำเกาะสีชัง ดอกไม้บางดอกก็กำลังร่วงสู่พื้น ให้อารมณ์เหมือนเราอยู่ในเทพนิยาย
เรือนไม้ริมน้ำ
เรือนไม้ริมน้ำ สีเขียวในอาคารโบราณแบบวินเทจ โดยตัวอาคารได้นำมาปรับปรุงเป็นร้านกาแฟสุดคลาสสิคให้บริการนักท่องเที่ยว
เรือนวัฒนา
เรือนวัฒนา ข้างในจัดเป็นนิทรรศการณ์เหตุการณ์สำคัญบนเกาะสีชังในสมัยรัชกาลที่ 5 มีทั้งรูปวาด รูปถ่ายเก่า และรูปปั้นสไตล์ยุโรป
เรือนผ่องศรี
เรือนผ่องศรี ภายในมีการจัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติและประวัติบุคคลผู้มีบทบาทสำคัญสำคัญเกี่ยวกับเกาะสีชังในอดีต
เจดีย์เหลี่ยม
เดินไปต่อไปยังจุดอื่น ทางชันขึ้นเพราะเริ่มขึ้นสู่ที่สูง ยังโชคดีที่มีถนนให้เดินแบบสะดวกสบาย และยังมีต้นลีลาวดีให้ร่มเงา ตรงจุดนี้เป็นจุดที่ไม่ค่อยมีคนเดินขึ้นมาเท่าใดนัก ส่วนใหญ่จะหยุดอยู่แค่ เรือนต่างๆ ที่อยู่ด้านล่าง จุดนี้มีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญ คือ เจดีย์เหลี่ยม ซึ่งเป็นเจดีย์ก่ออิฐฉาบปูนรูปเหลี่ยมย่อมุมไม้สิบสอง ในบริเวณเดียวกัน มี ระฆังหิน ตั้งอยู่ด้วย สาเหตุที่เรียกว่าระฆังหิน เพราะเวลาเอาหินก้อนเล็กไปเคาะจะมีเสียงก้องกังวาน ต่างจากหินธรรมดา ลองพิสูจน์แล้วเสียงเหมือนระฆังจริง เท่าที่ทราบมีเพียง 2 แห่งในโลก อีกแห่ง คือ เกาะฮาวาย
วัดอัษฏางค์นิมิตร
มาถึงจุดสุดท้าย คือ วัดอัษฏางค์นิมิตร เป็นพระอุโบสถที่อยู่ในเขตพระราชวัง มีลักษณะแตกต่างจากที่อื่น คือ มีพระอุโบสถอยู่ใต้เจดีย์ทรงกลมแบบลังกา ลักษณะที่แปลกของพระเจดีย์คือมีการตกแต่งตามศิลปะแบบโกธิก ตรงประตูและหน้าต่างมีช่องแสงประดับด้วยกระจกสี รูปโค้งยอดแหลม มีพระพุทธรูป ช่องแสงประดับด้วยกระจกสีเป็นลวดลาย เป็นวัดที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2435 แทนวัดปลายแหลมที่เคยมี
ร้านอาหารเกาะสีชัง
ป้าหน่อยริมทางทะเลเผา
จัดจ้านในย่านเกาะสีชัง ต้องยกให้ ป้าหน่อยริมทางทะเลเผา หรือป้าหน่อยซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลในสไตล์บ้านริมทาง ตั้งอยู่ริมถนนท่าเทววงษ์ ใครมาต้องแวะมาทานอาหารทะเลสด ทั้ง ปู หมึก กุ้ง หอย จัดเต็มในราคาไม่แพง
เปิดให้บริการ : ทุกวัน 11:00 น.- 22:00 น.