• หน้าแรก
  • ชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนเก่าริมน้ำ เสน่ห์ที่ไม่จางไปตามกาลเวลา

ชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนเก่าริมน้ำ เสน่ห์ที่ไม่จางไปตามกาลเวลา

ชุมชนริมน้ำจันทบูร ชุมชนเก่าแก่ริมแม่น้ำจันทบุรี เป็นชุมชนเก่าแก่ของชาวจีนและญวนอพยพตั้งแต่สมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ต่อมาได้พัฒนามาเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจและการค้าของจันทบุรีที่สำคัญแห่งหนึ่งในสมัยรัชกาลที่ 5  ถึงแม้ว่ายุคสมัยจะเปลี่ยนแปลงไปมากซักเพียงใด แต่ร่องรอยในอดีตของชุมชนเก่ายังไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา กลายสถานที่ท่องเที่ยวอันดับต้นของจันทบุรีที่ไม่ควรพลาด มาเดินเล่นชมตึกเก่า สัมผัสกลิ่นอายในอดีต นั่งเล่นในร้านกาแฟ ร้านอาหาร ที่มีให้เลือกหลายร้าน แวะซื้อของกิน ของฝากกันได้ที่ชุมชนแห่งนี้

สำหรับจุดเริ่มต้นของการท่องเที่ยว สำหรับใครที่ใช้รถส่วนตัวสามารถไปจอดรถไว้ที่วัดจันทาราม ที่ตั้งอยู่ฝั่งตรงข้าม จากนั้นข้ามถนนมาที่ ชุมชนริมน้ำจันทบูร ตั้งอยู่ในซอยเล็กๆ ที่ขนาบข้างด้วยตึกเก่าทั้งสองฝั่ง บ้านและอาคารบางหลังยังคงเป็นที่อยู่อาศัยของคนในชุมชน บางหลังก็นำมาปรับปรุงใหม่ให้กลายเป็นร้านขายของที่ระลึก ร้านกาแฟ และร้านอาหาร และบางอาคารก็นำมารีโนเวทเป็นที่พัก โดยยังคงความเก่าแก่ของรูปแบบเดิมไว้

ร้านขายไอติมจรวด ร้านไอติมโบราณ เจ้าเก่าแก่เจ้าแรกของจันทบุรี ที่ใช้เครื่องจักรในการผลิต ที่อยู่เคียงคู่กับชุมชนริมน้ำจันทบูร มาเนิ่นนาน ร้านเป็นอาคารปูนผสมไม้สองชั้น รูปทรงตึกเป็นแบบยุโรป อายุกว่า 100 ปี ไอติมมีสองเเบบเเบบตัด(ดั้งเดิม) กับเเบบแท่งธรรมดา มีรสให้เลือกเยอะ เช่น  ส้ม ถั่วดำ กาเเฟ ระกำ โคล่า ข้าวโพด มะนาว ลอดช่อง รวมมิตร มาแล้วต้องมาเพิ่มความสดชื่น

บ้านหลวงราชไมตรี บ้านประวัติศาสตร์อายุราว 150 ปี ที่เก็บรวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์หลวงราชไมตรี ผู้สร้างคุณูปการให้กับชาวจันทบุรี โดยปัจจุบันได้นำมาปรับปรุงเป็นบูติคโฮเทลที่ยังคงมีเสน่ห์แบบคลาสิคโบราณ ห้องพักสามารถมองเห็นวิวแม่น้ำจันทบูรได้อีกด้วย

ตลอดเส้นทางที่เดินในซอยแห่งนี้ มีทั้งร้านอาหาร คาเฟ่ หลายร้าน ตกแต่งชิคนานั่งโดยยังคงรูปแบบเดิมผสมผสานกับความทันสมัย

สำหรับใครที่ชอบทานส้มตำอาหารอีสาน แนะนำ มาตรัมแซ่บแสบปาก สาขาริมน้ำจันทบูร เป็นร้านส้มตำที่นอกจากวิวจะดีมองเห็นแม่น้ำ และบ้านเรือนเก่าแก่แล้ว  รสชาติอาหารยังอร่อยมาก แต่ไม่สามารถสั่งมาทานได้เยอะ เพราะท้องแน่นจากการทานอาหารมาหลายร้าน เลยสั่งมาทานพอหอมปากหอมคอ ทั้ง ส้มตำ รสชาติแซ่บนัว คอหมูย่างชิ้นโตเนื้อนุ่ม ติดมันนิดๆ จิ้มกับน้ำจิ้มแจ่วอร่อยมาก ยกให้เป็นเดอะเบสแห่งส้มตำที่อร่อยถูกปากอีกร้านหนึ่ง  ตั้งใจว่ามาจันทบุรีครั้งหน้า จะมาสั่งแบบจัดเต็มแน่นอน

เดินย่อยกันต่อ ช่วงบ่ายแก่ๆ แสงเย็นเริ่มส่องมายังอาคารเก่าแก่  ช่วยเพิ่มเสน่ห์ของชุมชนเก่าแห่งนี้มีความสวยงามมากขึ้น

มาถึงร้านคาเฟ่ขึ้นชื่อแห่งชุมชนริมน้ำจันทรบูร ชงดี by C. A.P  ที่อยู่ในบ้านบุณยัษฐิติ บ้านเก่าที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์อีกหนึ่งหลัง ตัวอาคารเป็นทรงจีนที่ผสานด้วยศิลปะสถาปัตยกรรมทั้งไทยและฝรั่ง เป็นเอกลักษณ์หนึ่งเดียวของชุมชนริมน้ำจันทบูร คู่กับชุมชนริมน้ำมาว่า 150 ปี

ภายในบ้านประกอบด้วยพื้นที่สองส่วน ส่วนแรก บริเวณหน้าทางเข้าจัดแสดงข้าวของ เครื่องใช้โบราณ ภาพถ่ายต่างๆของเจ้าของบ้าน และยังมีนิทรรศการประวัติศาสตร์อยู่ที่ชั้น 2

ด้านในสุด คือ ร้านกาแฟ ที่อยู่ในอาคารไม้ผสมปูน มีที่นั่งด้านนอกแบบดเอาท์ดอร์ และด้านในร้านเป็นห้องแอร์  ด้านหลังจะเป็นระเบียงติดกับแม่น้ำจันทบูร เป็นโซนเอาท์ดอร์เช่นกัน

เมนูมีทั้งกาแฟ เครื่องดื่ม เค้ก  สำหรับคนไม่ดื่มกาแฟ มีน้ำผลไม้ อย่างอัญชันมะพร้าว หรือของดีประจำจันทบุณี อย่างน้ำมะปี๊ด ดื่มแล้วสดชื่น เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ ที่เหมาะสำหรับมานั่งเล่นทอดอารมณ์มองวิวริมน้ำ สัมผัสกลิ่นอายของอาคารเก่าไปด้วย

บ้านบางหลัง ปรับหน้าบ้านเป็นร้านขายขนมต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นขนมโบราณ ทั้งขนมไข่ ตังเมกรอบ ถั่วทอด และยังมีอาหารทะเลแปรรูปขาย อย่างหมึกแห้ง หมึกสวรรค์

เดินมาเกือบสุดทาง จะเจออีกร้านขึ้นชื่อในย่านชุมชรริมน้ำจันทบูร ร้านเชิญ สะดุดตากับหุ่นรูปปั้นสีแดงก้มหน้า แสดงท่าโค้งคำนับ เหมือนเชื้อเชิญให้เข้าไปในร้าน ร้านนี้เป็นร้านอาหารที่ขายอาหารจานเดียว รวมทั้งยังมีมุมเล็กๆขายของที่ระลึกด้วย

กำแพงของร้านเชิญ คือ จุดเช็คอินที่ต้องมาถ่ายภาพอีกจุดหนึ่ง ตรงจุดนี้เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณา  ที่นี่เป็นสถานที่ถ่ายทำโฆษณารังรก  “ดู่ ดู๊ ดู ดู เธอทำ” โฆษณาในตำนาน แม้สีของภาพวาดจะเลือนรางไปมาก แต่ถ้ามาถึง ชุมชนริมน้ำจันทบูรแล้ว ต้องเดินมาถ่ายภาพมุมซิกเนอเจอร์เก๋ๆ มุมนี้ เดินเล่นจนลืมเวลา เย็นมากแล้ว

ได้เวลากลับไปพักผ่อน ผ่านมาเมืองจันทร์ แวะมามองอดีตผ่านปัจจุบัน  ชมบ้านเรือนเก่า หาของอร่อยทาน ที่ ชุมชนริมน้ำจันทบูร