ย้อนเวลาหาอดีต ชุมชนเก่าหัวตะเข้ ยลเสน่ห์บ้านไม้โบราณ
ชุมชนเก่าหัวตะเข้ หรือ ที่เรียกกันว่า ตลาดหัวตะเข้ ที่ตั้งอยู่ในเขตลาดกระบัง กรุงเทพ เป็นชุมชนเก่าโบราณริมคลอง ที่มีอายุกว่าร้อยปี มีบ้านไม้เก่าแก่เรียงรายตลอดริมสองฝั่งคลอง ชุมชนหัวตะเข้ คล้ายกับชื่อ จระเข้ เพราะแต่ก่อนที่นี่มีจระเข้ชุกชุม จึงเป็นที่มาของชื่อ ตลาดแห่งนี้ก็เหมือนตลาดโบราณหลายๆ แห่ง ที่เคยมีร้านรวงคึกคักมีชีวิตชีวา มีร้านค้ากว่าร้อยห้องและเป็นสถานที่จอดเรือซื้อขายขนถ่ายสินค้า เนื่องจากแต่ก่อนยังใช้ลำคลองเป็นเส้นทางสัญจรหลัก การค้าขายและวิถีชีวิตต่างๆ จึงเกิดขึ้นริมลำคลอง แต่เมื่อมีการตัดถนนเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว ตลาดริมน้ำจึงค่อยๆ ซบเซาลงไปจนถึงปัจจุบันทางชุมชนจึงได้ช่วยกันอนุรักษ์และฟื้นฟูให้กลับมามีชีวิตอีกครั้ง
สำหรับการเดินทางมา ชุมชนเก่า หัวตะเข้ สามารถเข้าทางซอยลาดกระบัง 17 หากขับรถยนต์ส่วนตัว หรือใช้บริการรถแท็กซี่ เมื่อเข้าสู่ถนนลาดกระบัง ขับตรงมาเรื่อยเมื่อใกล้ถึงตลาดสดอุดมผล ซอยจะเจอสะพานข้ามคลอง ไม่ต้องข้ามสะพานให้เลียบซ้ายจะเจอซอยลาดกระบัง 17 ขับตรงไปจนสุดทางก็จะเจอที่รับฝากรถ คิดราคาตามป้าย
จากนั้นเดินไปนิดเดียวก็จะเจอสะพานข้ามไปยังชุมชนหัวตะเข้ บนสะพานมองเห็นทิวทัศน์ของบ้านไม้เก่าแก่ หลังคาสังกะสี ที่เรียงรายอยู่ริมคลอง ประเวศบุรีรมย์ ลำคลองสายหลักที่ใหญ่และยาวที่สุดของเขตลาดกระบัง ซึ่งรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้ขุดขึ้นในปี 2421 โดยขุดต่อจากคลองพระโขนงยาวตรงถึงแม่น้ำบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ความยาวรวม 46 กม. และต่อมายังได้ขุดคลองแยกจากคลองประเวศบุรีรมย์ อีก 4 คลอง คือ คลองหนึ่ง คลองสอง คลองสาม และคลองสี่ แต่ก่อนยังใช้ลำคลองเป็นเส้นทางสัญจรหลัก การค้าขายและวิถีชีวิตต่างๆ จึงเกิดขึ้นริมลำคลอง แต่เมื่อมีการตัดถนนเดินทางด้วยรถยนต์แล้ว ตลาดริมน้ำจึงค่อย ซบเซาลงไป ถึงแม้จะมีการอนุรักษ์และฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งแต่ก็ยังไม่คึกคัดเท่าใดนัก แต่สำหรับฉันความเงียบเหล่านี้คือ เสน่ห์ เพราะรู้สึกว่าได้เข้าถึงบรรยากาศของชุมชนนั้นอย่างแท้จริง ไม่จำเป็นต้องมีร้านค้าอะไรมากมายจนอาจให้เสียเอกลักษณ์ของชุมชนไป
ที่ชุมชนหัวตะเข้ ยังคงได้เห็นวิถีชีวิตของชาวบ้านแบบเดิมๆ ที่แทบไม่มีการปรุงแต่งอะไรมากนัก ถึงแม้จะตั้งอยู่ในกรุงเทพ แต่ยังคงเป็นสถานที่ที่ความเจริญทางเทคโนโลยีของเมืองใหญ่ไม่สามารถเข้ามาแทรกซึมได้ กรุงเทพยังคงมีพื้นที่แบบนี้ให้เราได้มาผ่อนคลาย มาเที่ยวในวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ ค่อนข้างเงียบมาก บ้านเรือนร้านค้าส่วนใหญ่ปิด ทราบมาจากคนในพื้นที่ว่า ถ้าอยากมาแบบคึกคักให้มาวันธรรมดา เพราะเสาร์ อาทิตย์ เค้าหยุดพักผ่อน วันธรรมดาเปิดร้านขายของ เหมือนเวลาเราไปทำงานแล้วมีวันหยุดนั่นแหละ โอ้เพิ่งเคยเจอที่นี่เป็นมี่แรก ปกติถ้าไปเที่ยวชุมชนเก่า หรือตลาดโบราณ วันหยุดจะคึกคักมาก ตามที่บอกว่าที่หัวตะเข้ไม่ได้ถึงขนาดว่าคึกคัก ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านเรือนที่อยู่อาศัย ร้านค้าโชห่วยแบบดั้งเดิม เพราะฉะนั้นเราจึงสามารถสัมผัสบรรยากาศความเงียบสงบและแก่นแท้ของความชุมชนเก่าได้ไม่ยาก
มีโรงเรียนอยู่ภายในชุมชนด้วย
ระหว่างที่เดินชมบรรยากาศเราจะได้เห็นลวดลายกราฟฟิตี้ ที่ทางกลุ่มนักศึกษาร่วมกับชุมชน มาวาดตอดกำแพงไว้ เพื่อสร้างสีสันให้ชุมชน กลายเป็นจุดถ่ายภาพชั้นดีให้กับผู้มาเยี่ยมเยือน ถึงแม้เป็นชุมชนเก่าแต่มีความฮิป ชิค แฝงอยู่ในตัว
มาสะดุดตากับบ้านไม้เก่าแก่หลังนี้ เป็นร้านตัดผมโบราณ ที่เป็นของคู่กันกับชุมชนเก่าเสมอ ภายในบ้านเต็มไปด้วยของเก่าและของสะสมโบราณ
“เข้ามาเลยน้อง ถ่ายภาพได้ตามสบาย” เสียงเจ้าของบ้านทักทายเราอย่างเป็นกันเอง
“ เห็นหนังสือเล่มนั้นใหม่ บ้านพี่ได้ลงหนังสือด้วย อ่านได้ ” คุณพี่เจ้าของบ้านกล่าวอย่างอารมณ์ดี
ตรงข้ามกับร้านตัดผมโบราณ คือ ท่าน้ำหัวตะเข้ สามารถนั่งกินลม ชมวิว มองเห็น บ้านไม้เรือนแถวเก่าแก่ ตั้งเรียงรายอยู่ด้านหน้า
เดินมาเรื่อยๆ เจอร้านอาหารร้านแรก คือ ร้านผัดไทย หอยทอด มีที่นั่งทานอาหารริมคลอง แวะลองทานซักหน่อย รสชาติถือว่าโอเคเลยทีเดียวค่ะ
ร้านขายขนม ระหว่างทางเป็นร้านเดียวที่เห็นในชุมชนนี้
เดินมาจนเกือบสุดตลาด เราก็จะได้เจอกับ 2 ร้านดังแห่งหัวตะเข้ บริเวณจะคึกคักไปด้วยนักท่องเที่ยว ร้านแรก คือ ณ ลาดกระบัง เป็นร้านคาเฟ่ ขายทั้งเครื่องดื่ม น้ำแข็งใส และอาหารคาวสำหรับทานเล่น
พื้นที่นั่งภายนอกร้าน มีให้เลือกหลายโต๊ะ รวมถึงมีโซนที่ติดริมน้ำด้วย
ส่วนที่นั่งภายในร้าน จะเล็กซักหน่อย มีมุมเก๋ๆ ให้ถ่ายภาพหลายมุม
สั่งปังเย็นน้ำแข็งใส มาในภาชนะปิ่นโตเข้ากับบรรยากาศ
ตรงข้ามร้าน ณ ลาดกระบัง คือ สี่แยกหัวตะเข้ Cafe & Guesthouse เป็นบ้านไม้โบราณ 2 ชั้น พื้นที่ด้านล่างเปิดเป็นร้านอาหารติดริมคลอง พื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีเมนูอาหารหลากหลายมากๆ มีทั้งอาหารคาวหวาน เครื่องดื่ม ราคาไม่แพง รสชาติอร่อยถูกปาก
ตกแต่งร้านได้น่านั่งมาก มีลมเย็นจากริมคลองพัดมาเป็นระยะ
ชั้นสองเปิดให้เป็นที่พักแบบเกสต์เฮาส์เล็กๆ เป็นที่พักเพียงแห่งเดียวในชุมชน
มีห้องพักไว้บริการประมาณ 3 ห้อง เป็นห้องแอร์ทั้งหมด ภายในห้องตกแต่งเรียบร้อย สะอาดสะอ้าน มีมุมนั่งทำงานริมหน้าต่าง และระเบียงยื่นออกไปริมน้ำทุกห้อง สำหรับนั่งรับลมเย็น ชมวิถีชีวิตริมน้ำ เป็นที่พักที่รู้สึกว่ามันเงียบสงบ และน่ามานอนพักซัก 1 คืน
ห้องสำหรับ 3 ท่าน มาสะดุดตากับเตียงนอน ซึ่งทางเจ้าของบอกว่า เตียงนี้ใช้ไม้ทำเอง เก๋ไก๋มาก
สมุดเยี่ยมชมจากแขกที่มาพัก
เดินออกมาจากสีแยกร้านกระบัง มีสะพานไม้ ซึ่งตรงนี้คือ สุดฝั่งของชุมชนหัวตะเข้
มีกำแพงลวดลายกราฟฟิตี้ เพ้นท์ลวดลายเป็นรูปจระเข้ ทั้งหมด
มีซอยเล็กเป็นที่จอดรถ ซึ่งเราสามารถเข้ามายั้งตลาดได้อีกทาง คือ ฝั่งนี้ แต่ทราบมาว่า ค่อนข้างอ้อมพอสมควร กว่าจะมาถึงซอยนี้ได้ แต่หากใครมากพักที่ร้านสี่แยกหัวตะเข้ จอดรถตรงนี้สะดวกกว่า
หากอยากผ่อนคลาย ย้อนอดีตที่ทำให้เรายิ้มได้ ลองมาเที่ยวพักผ่อนหลบความวุ่นวาย สัมผัสวิถีชีวิตของคนริมฝั่งคลอง ทานของอร่อย ถ่ายภาพสุดเก๋กับมุมกราฟิตี้ ที่ ชุมชนเก่าหัวตะเข้ ให้ได้ถ่ายภาพเก๋ๆ
รายละเอียดเพิ่มเติม
ชุมชนเก่าหัวตะเข้ ตั้งอยู่ซอยลาดกระบัง 17 หลังตลาดอุดมผล สามารถมาเยี่ยมชมได้ทุกวัน
ร้าน ณ ลาดกระบัง เปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00 น. -19.00 น.
โทร 086 065 8422 เฟสบุค https://www.facebook.com/nalatkrabang
ร้านสี่แยกหัวตะเข้ วันจันทร์ – ศุกร์ เวลา 12.00 – 19.00 น. วันเสาร์-– อาทิตย์ เวลา 10.00 -19.00 น.
โทรศัพท์ 081-514-6636 เฟสบุค https://facebook.com/seeyakhautakhe
การเดินทางมาชุมชนเก่าหัวตะเข้
หากไม่มีรถส่วนตัวนั่งแอร์พอร์ตลิงค์ มาลงสถานีลาดกระบัง รถตู้มาลงที่สถาบันเจ้าคุณทหารลาดกระบัง หรือนั่งรถไฟมาลงสถานีหัวตะเข้ จากนั้นต่อรถ taxi หรือสองแถวที่สี่แยกซอยลาดกระบัง มายังซอยลาดกระบัง 17 ตลาดอุดมผล แล้วเดินเข้ามาอีกนิดจะเจอสะพานข้ามไปยังชุมชนเก่าหัวตะเข้ รถประจำทางที่ผ่านซอยลาดกระบัง 17 จากนั้นเดินเข้าซอยข้ามไปยังชุมชนเก่า หรือนั่งรถแท็กซี่โดยให้ไปส่งยังซอยลาดกระบัง 17