• หน้าแรก
  • สีสันท่าฉลอม นั่งสามล้อเที่ยว เลี้ยวถ่ายรูปสตรีทอาร์ต

สีสันท่าฉลอม นั่งสามล้อเที่ยว เลี้ยวถ่ายรูปสตรีทอาร์ต

ท่าฉลอม  เป็นที่รู้จักอย่างโด่งดัง และถูกจดจำ จากการเป็นสถานที่ในบทเพลง “ท่าฉลอม” ที่บอกเล่าเรื่องราวความรักระหว่าง “พี่อยู่ไกลถึงท่าฉลอม” และ “พยอมที่อยู่ฝั่งมหาชัย”  ท่าฉลอม เป็นจุดกำเนิดของเมืองสมุทรสาคร ซึ่งมีประวัติศาสตร์ยาวนานในสมัยรัชกาลที่ 5 ตั้งแต่เมื่อชาวจีนได้มาค้าขายและอพยพมาอยู่ที่บ้านท่าจีน (ท่าฉลอม) และพัฒนาเป็นเมืองสำคัญ จนกลายเป็นเมืองสุขาภิบาลแห่งแรกของประเทศไทย เมื่อกาลเวลาผ่านไปทิ้งไว้แต่ร่องรอยในอดีต ผ่านบ้านเรือนเก่าแก่และอัตลักษณ์ของชุมชนให้ได้สัมผัส แถมมีการเพิ่มสีสัน ด้วยภาพสตรีทอาร์ทสุดน่ารักบนกำแพงและบ้านเรือน  ที่มีเรื่องราวเชื่อมโยงกับความเป็นอัตลักษณ์ของชุมชน ช่วยเพิ่มเสน่ห์ของท่าฉลอมให้มีความน่าสนใจยิ่งขึ้น


การเดินทางเที่ยวในท่าฉลอม

การเที่ยวท่าฉลอมขอเที่ยวแบบซึมซับความเป็นท้องถิ่นสักหน่อย โดยการนั่งสามล้อถีบโบราณชมเมือง หลังจากขับรถส่วนตัวมาจอดไว้บริเวณที่รับฝากรถที่ติดกับท่าเรือข้ามฟาก ท่าฉลอม-มหาชัย ฉลอมแล้ว สังเกตุง่ายๆคือ เป็นลานบ้านคน ที่เขียนว่ารับฝากมอเตอร์ไซต์ก้ให้ขับรถเข้าไปได้เลย จากนั้นเดินไปยังท่าเรือ ซึ่งเป็นจุดจอดสามล้อ ราคานั่งรถสามล้อเที่ยว รอบละ 100 บาท โดยจะพาไปถ่ายรูปสตรีทอาร์ท วัดช่องลม และวิหารเจ้าแม่กวนอิม ซึ่งเป็นจุดท่องเที่ยวสำคัญของท่าฉลอม หรือหากใครไม่อยากนั่งสามล้อ ก็สามารถขับรถเที่ยวเองได้ ในส่วนของสตรีทอาร์ทสามารถเดินชมเองได้ แต่แนะนำให้นั่งสามล้อดีกว่า เพราะนอกจากคนท้องถิ่นจะชี้เป้ารู้จุดมากกว่า ยังสร้างรายได้ให้กับคนในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคุณลุงที่ค่อนข้างมีอายุแต่ยังมีใจรักในอาชีพนี้

ตลอดเส้นทางได้พูดคุยถามไถ่เรื่องราวของท่าฉลอมกับคุณลุงไปด้วย ได้ความรู้และสนุกดีค่ะ ระหว่างที่นั่งรถสามล้อ ตลอดสองข้างทางก็จะได้เห็นบ้านเรือนเก่าแก่ ร้านค้า ร้านอาหารเล็กๆ ของชุมชน ศาลเจ้าจีนมีให้เห็นหลายจุด เนื่องจาก ท่าฉลอม ในอดีต มีชาวจีนได้มาค้าขายและอพยพมาอยู่เป็นจำนวนมากชาวบ้านส่วนใหญ่ก็จะสืบเชื้อสายมาจากขาวจีนที่มาตั้งรกรากอยู่ในย่านนี้


ภาพสตรีทอาร์ทท่าฉลอม

ภาพสตรีทอาร์ทท่าฉลอม ตั้งอยู่บนถนนถวายซึ่งเป็นถนนสายถนนสายประวัติศาสตร์ในสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5  เป็นงานศิลปะบนกำแพง (Graffiti) จากนักศึกษา ภาคเอกชน รวมถึงศิลปินชื่อดัง จำนวน 10 จุด วาดตามอาคารบ้านเรือน โดยภาพส่วนใหญ่เป็นภาพที่สะท้อนเรื่องราวและวิถีชีวิตของคนในชุมชนทั้ง ภาพเรือประมง สถานีรถไฟ สามล้อ มังกร เป็นสถานที่ท่องเที่ยวชุมชนและเมืองเก่าซึ่งยังคงอัตลักษณ์วัฒนธรรมไทย-จีน วิถีประมง และชุมชนริมน้ำอย่างดี

อีกหนึ่งที่ช่วยเพิ่มสีสันให้กับชุมชนท่าฉลอม คือ งานศิลปะบนฝาท่อระบายน้ำ (Manhole Cover Art) บนถนนถวาย ซึ่งมีอยู่ประมาณ 9 จุด กระจายไปตามถนนหนทางต่างๆ ภายในท่าฉลอม ที่เราถ่ายภาพมาคือ บนเส้นถนนถวายบริเวณหน้า “โรงเรียนทัสนะธรรมวิทยา” ฝาท่อเป็นรูปของอาคารเรียน โรงเรียนแห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นโรงเรียนราษฎร์แห่งแรกในสมุทรสาคร หลังจากโรงเรียนก็ได้ปิดตัวลงไปเมื่อปี 2532 คงเหลือไว้ซึ่งอาคารเป็นอนุสรณ์

ภาพวาดรถไฟที่ปรากฎอยู่ตามผนังบ้านหลายจุด เนื่องจากท่าฉลอมอยู่ในเส้นท่องที่เชื่อมโยงการท่องเที่ยว มหาชัย- บ้านแหลม สมุทรสงคราม สามารถนั่งรถไฟจากกรุงเทพ มาลงสถานีมหาชัย แล้วนั่งเรือข้ามฟากมายังฝั่งท่าฉลอม และหากใครอยากนั่งรถไฟเที่ยวต่อไปยังแม่กลอง ก็สามารถนั่งรถไฟจากสถานีบ้านแหลม ที่ท่าฉลอมต้นสายของรถไฟสายบ้านแหลม-แม่กลอง ที่สามารถไปเที่ยวต่อยังตลาดร่มหุบได้ ถือเป็นอีกหนึ่งเสน่ห์ของการเดินทางที่ไปแบบช้าๆที่ได้ความคลาสสิคแบบในสมัยเก่า

บริเวณนี้เป็นท่าสำหรับจอดเรือประมง จึงมีภาพวาดเรือประมงและปลาทะเลตัวโตอยู่บริเวณด้านหน้าสองจุด


วัดช่องลม 

เพลิดเพลินกับการถ่ายภาพสตรีอาร์ทแล้ว คุณลุงคนขับพาเราไปที่  วัดสุทธิวาตวราราม หรือ วัดช่องลม  วัดเก่าแก่ที่เป็นวัดสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของท่าฉลอมที่มีอายุเกือบ 200 ปี

อุโบสถหลังแรกประดิษฐาน หลวงพ่อปู่หินแดง พระประธานภายในโบสถ์เป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยขนาดใหญ่ มีพุทธลักษณะแบบอยุธยาตอนปลาย ทำด้วยศิลาแดงทั้งองค์ มีลักษณะพิเศษคือพระหัตถ์ข้างซ้ายมี 6 นิ้ว จึงเรียกว่าพระ 11 นิ้ว  บริเวณผนังของพระอุโบสถมีภาพเขียนที่สวยงามมากอลังการมาก เป็นภาพเรื่องราวของ พระสุวรรณสาม พระมหาชนก พระเตมีย์ใบ้ เป็นต้น ส่วนภาพฝาผนังเหนือช่องประตูด้านหน้าพระอุโบสถเป็นภาพมารผจญ และพระแม่ธรณีบีบมวยผม

ถัดจากอุโบสถ คือ วิหารหลวงปู่แดง เป็นที่ประดิษฐาน รูปปั้นหลวงปู่แก้ว อดีตเจ้าอาวาสวัดช่องลมเมื่อท่านมรณภาพไปแล้วผู้ศรัทธาทั้งหลายได้นำสังขารของท่านไว้ในโลงทองพร้อมทั้งหล่อรูปเหมือนของท่านในท่านั่งสมาธิ  ภายในวิหารมีนกนางแอ่นมาอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก เป็นที่น่าอัศจรรย์ใจเพราะโดยปกตินกนางแอ่นจะทำรังตามผนังถ้ำหินปูนบนเกาะกลางทะเลในที่สูงห่างไกล หรืออยู่ตามคอนโดนกจำลอง แต่ที่นี่มาอาศัยอยู่กันตามธรรมชาติ  หากต้องการดูช่วงเวลาที่นกนางแอ่นเข้าออกจากรังเป็นสาย สามารถมาตอนช่วงเช้าที่นกออกจากรังคือราวหกโมงครึ่ง  และช่วงที่นกกลับรังคือราวหนึ่งทุ่มจนถึงทุ่มครึ่ง

นอกจากนี้บริเวณวัดยังมีพระโพธิสัตว์กวนอิม ซึ่งตั้งอยู่ตรงข้ามกับวัด ที่ชาวสมุทรสาครสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติในหลวงรัชกาลที่ 9 เนื่องในวโรกาสที่ฉลองสิริราชสมบัติครบรอบ 50 ปี สามารถแวะเข้าไปกราบไหว้ขอพรเจ้าแม่กวนอิมได้

ระหว่างเดินข้ามไปมาอาจได้พบกับขบวนรถไฟสายบ้านแหลม แม่กลอง จอดรับส่งผู้คนบริเวณนี้ เนื่องจากเป็นที่ตั้งของสถานีรถไฟบ้านแหลมพอดี

จบทริปเที่ยวหนึ่งวันไม่ต้องไปไกล แค่มา ท่าฉลอม ก็สนุกและสุขได้ เป็นความรู้สึกของการเที่ยวที่ได้สัมผัสวิถีชุมชน รู้สึกได้ถึงคลาสสิคนิดๆ ด้วยเรื่องราวที่ได้รับรู้มาว่า ท่าฉลอม ไม่ได้มีดีแค่มีชื่อในเพลง แต่เป็นเมืองเก่าที่มีคุณค่าในประวัติศาสตร์ ที่อยากให้ทุกคนได้มาสัมผัส