15 คาเฟ่อารีย์ ดีต่อใจ
“อารีย์ ” แหล่งรวมสถานที่แฮงค์เอาท์ของคนคูล ใจกลางเมืองใหญ่ ที่เต็มไปด้วยสถานที่ที่เหมาะแก่การพักผ่อนไม่น้อย โดยเฉพาะคาเฟ่ ร้านอาหาร ที่มีให้เลือกไปจับจอง เพื่อนั่งสังสรรค์ทานอาหารกับกลุ่มเพื่อน หามุมถ่ายภาพสวย มาดูกันว่า 15 คาเฟ่อารีย์ ที่รวบรวมมานั้น จะมีที่ไหนที่ต้องไปให้ได้กันบ้าง กับ 15 คาเฟ่อารีย์ ดีต่อใจ
ชวนพิศมัย
ชวนพิสมัย คาเฟ่สไตล์วินเทจ ตกแต่งแบบผู้ดีอังกฤษ บรรยากาศภายนอกร่มรื่นด้วยพรรณไม้ และมุมนั่งเล่นต่างๆ เหมือนเดินชมสวนของเพื่อนบ้านในประเทศฝั่งทางยุโรป ที่นี่เน้นเสิร์ฟอาหารทั้งแบบฟิวชั่น และโฮมเมด เมนูแนะนำ ตอติญ่าผักโขม สปาเก็ตตี้ต่างๆ เครื่องดื่มกาแฟ และเฟรชออร์แกนิกที่เอาใจสายกรีน พร้อมชากลิ่นหอมละมุนให้จิบแบบผ่อนคลายในยามบ่าย บอกได้เลยว่ารสชาติของเมนูอาหารและเครื่องดื่ม เยี่ยมไม่แพ้การตกแต่ง
พิกัด : 177อารีย์ซอย 3 จากปากซอยอารีย์ 600 เมตร ภายในร้านมีที่จอดรถประมาณ 3 คัน หรือจอดในพื้นที่ใกล้เคียง และตามจุดที่มีบริการรับฝากรถในซอยอารีย์ โดยเสียค่าบริการ
เปิดให้บริการ : อังคาร – อาทิตย์10.00 น. – 19.00 น.
รีวิวเพิ่มเติม คลิ๊ก ชวนพิศมัย
Bar Storia del Caffè
คาเฟ่สไตล์ร้านอาหารยุโรป เน้นเสิร์ฟอาหารจานหลักและเครื่องดื่มแบบตะวันตก ใครที่อยากนั่งชิลฟีลกินอิ่มครบ ที่นี่น่าจะตอบโจทย์ ด้วยดีไซน์ร้านร่วมสมัย สีสันโดดเด่น ที่สำคัญ หน้าตาอาหารน่ารับประทาน ดูดีไม่แพ้ดีไซน์ร้าน เหมาะแก่การถ่ายรูปลงอินสตาแกรมเก๋ ๆ เมนูแนะนำมีทั้ง ชุดอาหารเช้าอย่าง French Toast with Sunny Side Up and Bacon ที่จัดเต็มทั้งโทสต์ปิ้งหอม ๆ ไข่ดาวที่มีไข่แดงฉ่ำ และเบคอนชิ้นพอดีคำ ล้างปากด้วย Strawberry Mile Feuille ขนมฝรั่งเศสที่มีสตรอเบอร์รี่สดแกล้มกับซอสสตรอเบอร์รี่ที่ไม่หวานเลี่ยน ถือเป็นเมนูซิกเนอเจอร์ที่ต้องสั่งให้ได้
พิกัด 13 ซอยพหลโยธิน 7 สามเสนใน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ อาทิตย์-พฤหัสบดี 09.00 น. – 23.00 น. ศุกร์-เสาร์ 09.00 น. – 00.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook Bar Storia del Caffè
TROPI HOOLA
ยกบรรยากาศญี่ปุ่นสุดคิลท์มาไว้ใจกลางอารีย์ TROPI HOOLA คาเฟ่คุมโทนสีพาสเทลที่ ผสมผสาน ความน่ารักสไตล์ญี่ปุ่น และความสดใสแบบ Summer ได้อย่างลงตัว ให้สาวกที่รักการถ่ายรูปเช็คอินถ่ายภาพ ได้อารมณ์เหมือนอยู่แถวชินจูกุ เมื่อเข้ามาภายในร้านยังมีมุมถ่ายรูปน่ารักให้ได้ครีเอทท่ากันได้ตามชอบ ส่วนเมนูเน้นเครื่องดื่มและของหวาน ทั้ง อิตาเลี่ยนโซดา สมูทตี้ ชีสเค้ก ไอศครีม เป็นต้น
พิกัด 10/4 ซอยอารีย์ 4 พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 11.00 น. – 19.00 น.
รีวิวเพิ่มเติม คลิ๊ก TROPI HOOLA
oh vacoda
เอาใจคนรักของหวานและสุขภาพกันบ้าง ใครที่มองหาขนมอร่อยแต่กินแล้วได้ประโยชน์ด้วย Oh Vacoda Café คือหนึ่งร้านเด็ดน่าลองของย่านอารีย์ โดยทางร้านวางคอนเซ็ปต์ “คาเฟ่แห่งอะโวคาโด” ซึ่งสื่อสะท้อนออกมาตั้งแต่ดีไซน์ร้านจนถึงเมนูของกินต่าง ๆ เน้นตกแต่งคุมโทนสีพาสเทลเน้นบรรยากาศซอฟต์ ๆ พร้อมเสิร์ฟเมนูคาว หวาน และเครื่องดื่มมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Grilled Beef Don Pancake Avocado Bacon with Souffle Egg Avo-Raindeer Cheesecake และอีกหลากหลายเมนูสุดครีเอตที่ต้องตามไปชิมกันให้ได้
พิกัด 1/1 ซอยอารีย์สัมพันธ์ 4 สามเสนใน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 11.00 น . – 20.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook Oh Vacoda Café
เวฬาฌา (เว-ลา-ชา)
ผู้ชื่นชอบการดื่มชาต้องมาเช็กอินร้านนี้ เพราะ “เวฬาฌา” คาเฟ่สไตล์โมเดิร์นผสมผสานความคลาสสิกได้รวบรวมเครื่องดื่มชาจากหลากหลายประเทศพร้อมเสิร์ฟให้คุณที่เดียว รับรองว่าจะได้สัมผัสทั้งรสชาติและวัฒนธรรมการดื่มชาอย่างเต็มอิ่มและหลากหลายแน่นอน ทางร้านคัดสรรชาคุณภาพดีมากว่า 40 ชนิด รับประทานคู่กับขนมไทยหน้าตาประณีต เมนูแนะนำ คือโทสต์สังขยาใบเตย โทสต์สังขยาชาไทย ทับทิมกรอบ และสังขยาสี่สี่
พิกัด ซอยอารีย์ 1 สามเสนใน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 10.00 น. – 21.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook เวฬาฌา
Cafe’ Hamlet
หากคุณกำลังมองหาคาเฟ่กลางสวนทำเลเมืองกรุง ต้องแวะมา The Hamlet Ari พื้นที่ที่ผสมผสานความอบอุ่นและความสงบ พร้อมเสิร์ฟอาหารไทยและอาหารอิตาเลียนภายใต้บรรยากาศสบายและเป็นกันเอง เมื่อเข้ามาหน้าร้านจะพบกับสวนเขียวขจีที่เจ้าของร้านตั้งใจรังสรรค์ขึ้นมา ผสมการตกแต่งแบบอินดัสเทรียลลอฟต์ด้วยผนังปูนเปลือยและโครงเหล็กสีดำ ส่วนเมนูอาหารจะเน้นเป็นอาหารจานหลัก ซึ่งมีครบคอร์สตั้งแต่อาหารเรียกน้ำย่อย ของกินเล่น และอาหารมื้อหลักที่มาทั้งไทยและเทศ
พิกัด 21 ซอยอารีย์3 ถนนพหลโยธิน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 11.00 น. – 20.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
เครดิตภาพจาก Facebook The Hamlet Ari
Common Room x Ari
คาเฟ่มินิไซส์มาพร้อมธีมมินิมอล ถือเป็นอีกหนึ่งร้านคาเฟ่ดีไซน์เก๋ที่ควรค่าแก่การไปเยี่ยมเยียน เพราะ Common Room x Ari สร้างขึ้นบนพื้นที่ 30 ตารางเมตร ลักษณะคล้าย box กะทัดรัด ตกแต่งด้วยสีพาสเทลชมพูฟ้า ภายในร้านคุมโทนสีน้ำตาลอ่อน มีหน้าต่างบานใหญ๋มองเห็นวิวด้านนอก สื่อสะท้อนความเรียบง่าย มีรสนิยม สมกับเป็นที่นั่งพักผ่อนสงบ ๆ ทางร้านเน้นให้บริการกาแฟ อาหารเช้า เครื่องดื่มเย็น-ร้อน หลากหลายเมนู ใครที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศทำงานในช่วง WFH ที่นี่คงเป็นอีกที่ที่ต้องลิสต์เก็บไว้เช่นกัน
พิกัด 13 พหลโยธิน 5 สามเสนใน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 07.00 น. – 16.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook Common Room x Ari
ทองย้อย คาเฟ่
ดื่มด่ำความคลาสสิกและรสชาติขนมไทยแท้ดั้งเดิมที่ Thongyoy Cafe คาเฟ่เล็ก ๆ ให้บริการของหวานและเครื่องดื่มชา สะท้อนถึงความเป็นดอกไม้ ท้องฟ้า และพระอาทิตย์ ทางร้านเน้นคุมโทนสีทองแดงเป็นหลัก ตั้งแต่ทาสีผนังเป็นสีโอลด์โรสที่ให้บรรยากาศและภาพแสงสีตอนพระอาทิตย์ตกดิน ซุ้มกำแพงดอกไม้ที่ได้แรงบันดาลใจจากเม็กซิโกและเกาะมาดากัสการ์ ไปจนถึงภาชนะเสิร์ฟขนมที่ทำจากทองเหลือง เมนูซิกเนเจอร์ของร้านคือ Tea Set ที่มาพร้อมชาร้อน 1 กา และขนมไทย 1 อย่าง มีให้เลือกทั้งขนมต้ม ลูกชุบ คุกกี้สิงคโปร์ กลีบลำดวน ขนมชั้น เปียกปูน และปั้นขลิบ
พิกัด 88/2 ซอยอารีย์สัมพันธ์ 7 พระราม 6 สามเสนใน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 08.00 น. -22.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook Thongyoy Cafe
Landhaus Bakery
เปลี่ยนบรรยากาศลัดเลาะมาชิมขนมชมบรรยากาศชาวตะวันตกที่ Landhaus Bakery เริ่มตั้งแต่ชื่อร้านที่ถอดความหมายจากภาษาเยอรมันว่า บ้านเล็ก ๆ ในชนบท ดีไซน์ร้านชูธีมคอทเตจสีขาว แถมยังมีพื้นหญ้าด้านนอกที่เปิดให้ลูกค้าไปนั่งรับประทานขนม ได้ฟีลเหมือนนั่งเล่นอยู่หลังบ้านด้วย ของกินหลักเป็นเบเกอรี่อบสูตรต้นตำรับจากออสเตรเลีย เมนูแนะนำที่ต้องสั่งยกให้เป็น Open Sandwich ที่เลือกชีสและขนมปังได้ตามชอบ ส่วนของหวานก็ต้องยกให้ Brioche Roll Cinnamon และ Brioche Roll Mango and Passion Fruits
พิกัด 18 ซอยพหลโยธิน 5 พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 07.00 น. – 21.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
เครดิตภาพจาก Facebook Landhaus Bakery
Poet House
จุดเริ่มต้นของ POET HOUSE CAFE คือการสร้างพื้นที่ผ่อนคลายเล็ก ๆ จนนำมาสู่คาเฟ่สีขาวเน้นดีไซน์ร่วมสมัยที่แฝงความคลาสสิกเล็กน้อยด้วยแสงไฟสีส้มที่ให้อารมณ์กรุ่น ๆ สงบผ่อนคลาย นอกจากนี้ยังมีมุมบาร์นั่งที่หันออกข้างนอก ไว้สำหรับนั่งชมวิวสีเขียว มองเพลิน ๆ เวลาต้องคิดงาน ทางร้านให้บริการทั้งและกาแฟและอาหารจานหลัก เมนูขึ้นชื่อ คือสปาเก็ตตี้กุ้งคั่วพริกเกลือ ซึ่งดัดแปลงสูตรมาจากสามชั้นคั่วพริกเกลือ ทำให้ได้รสชาติความแซ่บแบบไทย และสปาเก็ตตี้เบคอนพริกแห้ง มาพร้อมเบคอนกรอบและสปาเก็ตตี้เส้นเหนียวนุ่ม ถือเป็นสองเมนูฟิวชันยอดฮิตของทางร้านที่ใครแวะไปต้องสั่งมาลองกัน
พิกัด ซอยอารีย์สัมพันธ์ 5 ถนนพหลโยธิน 7 พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 09.00 น. – 20.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook POET HOUSE CAFE
Wraptor
ชื่อคาเฟ่แสนเก๋ชื่อนี้มีที่มาจากอาหารประเภท wrap ซึ่งหมายถึงอาหารที่กินง่าย พกพาสะดวกสบาย ดังเช่นเมนูอาหารที่ทางร้านให้บริการนั่นเอง เมื่อพูดถึง Wraptor แน่นอนว่าทุกคนต้องยกให้เป็นร้านขายอาหารเม็กซิกัน ซึ่งขึ้นชื่อด้วยการใช้น้ำผึ้งสร้างกิมมิกอาหารให้โดดเด่นและน่าสนใจกว่าอาหารเม็กซิกันที่เรารู้จัก โดยเมนูเด็ดของร้านก็คือ Fajitas to the Moon อาหาร wrap สไตล์เม็กซิกัน สอดไส้ไก่ฟาฮิต้า คลุกเคล้ากับพริกหยวก ผัก ซอลซาซอส ซอสกระเทียม และซาวครีม อีกเมนูหนึ่งที่ห้ามพลาดก็คือ Mexican Steak with Honey Salad ที่นำแป้งตอติญ่ามาทอดราดด้วยน้ำผึ้งศรีเชียร อันเป็นน้ำผึ้งสูตรของทางร้านเอง
พิกัด ซอยอารีย์สัมพันธ์ 2 สามเสนใน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 11.00 น. – 24.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook Wraptor
Made Here on Earth
ศิลปินหรือผู้รักการทำงานครีเอทีฟควรเช็กอิน เพราะ Made Here On Earth คือ Co-workshop Space แห่งใหม่ ของคนที่ชอบทำงาน DIY นอกจากจะเป็นแหล่งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและไอเดียเจ๋ง ๆ แล้ว ยังมีเครื่องมือไว้สร้างสรรค์ผลงานตัวเองด้วย โดยมีสตาฟคอยให้คำแนะนำ ที่สำคัญเอาใจคอกาแฟด้วยเมนูกาแฟแบบเบลนด์ ซึ่งมีให้เลือกสองแบบ ได้แก่ กาแฟเบลนด์แบบไทย-เอธิโอเปีย และกาแฟเบลนด์แบบไทย-อินเดีย หากใครชอบกาแฟรสชาติละมุนหน่อย ก็ต้องลอง Masala Chai Latte กาแฟผสมชา เครื่องเทศอินเดีย และนม
พิกัด 110 ถนนพระราม 6 พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 09.00 น. – 18.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook Made Here On Earth
Porcupine Café
อีกหนึ่งคาเฟ่สุดครีเอตที่คอกาแฟไม่ควรพลาด เพราะที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องเครื่องดื่มกาแฟ ของหวาน และเบเกอรี่ ก่อนอื่นมาดูกันที่ดีไซน์ร้าน Porcupine Café ได้รับการออกแบบให้เป็นสไตล์ถ้ำของตัวเม่น เน้นคุมโทนสีขาว เสริมด้วยสีไม้ ปูพื้นหินปูน ได้บรรยากาศอบอุ่นและผ่อนคลาย แถมเสริมความน่ารักด้วยดอกไม้แห้ง ตุ๊กตาปูนปั้นต่าง ๆ เมนูแนะนำของทางร้านมีให้เลือกหลากหลาย ได้แก่ White cube Latte Iced berry tea Sparkling americanoAffogato และ Doisaket cold brew
พิกัด 48 ซอยพหลโยธิน 7กทม 10400
เปิดให้บริการ 11.00 น. – 22.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook Porcupine Café
Blacksmith
แวะมานั่งชิลภายใต้บรรยากาศย้อมใจที่ Blacksmith คาเฟ่กึ่งบาร์เหมาะกับสาย Night Life โดยร้านมาในธีมโรงตีเหล็ก การตกแต่งจึงเน้นสไตล์อินดัสเทรียลลอฟต์และโคโลเนียล ตั้งแต่ประตูโค้งสีดำ ป้ายร้านเหล็กสีทองแดง ได้อารมณ์ความดิบแต่เปี่ยมสเน่ห์ จุดเด่นอีกอย่างต้องยกให้กาแฟ เพราะเครื่องดื่มกาแฟของที่นี่ชงด้วยเมล็ดกาแฟ Black Smith Blend ที่มีส่วนผสมเมล็ดกาแฟจากดอยผาตั้ง เมนูแนะนำ White Smith Blend ชงจากเมล็ดกาแฟจากดอยสะเก็ดผสมกับเมล็ดกาแฟลาวและบราซิล ได้รสชาติเข้ม กลมกล่อมต่างจากเดิม
พิกัด 9/1 อารีย์ซอย3 สามเสนใน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ 11.00 น. – 24.00 น.
เครดิตภาพจาก Facebook Blacksmith
Thammada
คาเฟ่ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา เพราะเต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจที่จะทำให้คุณได้สัมผัสและดื่มด่ำความอิ่มเอมที่ทางร้านรังสรรค์มอบให้ ทั้งดีไซน์ร้านสไตล์มินิมอล เน้นตกแต่งด้วยเครื่องเรือนไม้ตัดกับโทนสีขาวของร้าน และสวนเล็ก ๆ ที่จัดไว้ให้นั่งพักผ่อนด้านนอก เมนูหลักเน้นอาหารโฮมเมด ได้แก่ Clam Chowder (ซุปหอยลาย) Roasted Pork Ribs with Rice (ซี่โครงหมูอบสูตรโบราณ) และ Black Sweet Jelly with Lavender Milk (พุดดิ้งเฉาก๊วยใส่นมลาเวนเดอร์) เมื่อรับประทานอาหารอิ่มแล้วก็อย่าลิมช็อปปิ้งสินค้าแฮนด์เมดกลับไปด้วยนะ
พิกัด 65 ซอย พหลโยธิน 5 สามเสนใน พญาไท กทม 10400
เปิดให้บริการ อังคาร-เสาร์ 11.00 น. – 18.30 น. อาทิตย์ 11.00 น. – 17.00 น. (ปิดทุกวันจันทร์)
เครดิตภาพจาก Facebook Thammada