สะพานสราญวิถี สะพานริมทะเลสุดคลาสสิคแห่งเมืองประจวบ
หากเข้ามาเที่ยวในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองสามอ่าว ที่ประกอบไปด้วย อ่าวน้อย อ่าวประจวบ และอ่าวมะนาว ที่เชื่อมต่อถึงกัน มีแลนด์มาร์คสำคัญ คือ สะพานสราญวิถี สะพานปูนสีแดงโดดเด่นที่ยื่นออกไปริมทะเล โดยใช้รูปแบบและสีสันอิงกับสถานีรถไฟหัวหินที่มีเอกลักษณ์ กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามแห่งเมืองประจวบ ที่นักท่องเที่ยว ต้องมาเดินเล่นสัมผัสบรรยากาศริมทะเล พร้อมไปกับการถ่ายภาพสวยเคียงคู่กับสะพานสีแดงที่ตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเลและท้องฟ้าแห่งนี้
สะพานสราญวิถี ตั้งอยู่ในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นสะพานปูนสีแดงที่ยื่นไปยังบริเวณอ่าวประจวบ ในอดีตเคยเป็นสะพานปลาสำหรับทำการประมง หลังจากมีประกาศยกเลิกใช้สะพานปลาดังกล่าว ต่อมาทางจังหวัดได้ดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมก่อสร้างเพิ่มเติม และเปลี่ยนชื่อใหม่เป็น สะพานสราญวิถี ซึ่งเป็นชื่อที่ได้รับพระราชทานจาก สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา หมายถึงสะพานแห่งความสุขสำราญ และพระราชทานพระราชานุญาติให้เชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติ ในโอกาสฉลองพระชนมายุ 5 รอบ 2 เมษายน 2558 ประทับที่ป้ายชื่อด้วย
จากสะพานสราญวิถี สามารถมองเห็นวิวทะเลของทั้ง 3 อ่าว นั้นคือ อ่าวประจวบตั้งอยู่ตรงกลาง อ่าวน้อยอยู่ฝั่งซ้าย และอ่าวมะนาวอยู่ฝั่งขวา รวมทั้งเขาช่องกระจก สถานที่ท่องเที่ยวที่ขึ้นชื่ออีกแห่งหนึ่งในตัวเมืองประจวบ
ช่วงเวลาที่แนะนำสำหรับการมาเที่ยวสะพานสราญวิถี ให้มาในช่วงบ่ายสี่โมงไปแล้ว เพราะแดดจะค่อนข้างร่ม สามารถเดินชมสะพานได้แบบไม่ร้อนมาก เพราะสะพานค่อนข้างยาว หากแวะมาในช่วงที่แดดแรงแนะนำให้พกร่มและอุปกรณ์กันแดดมาให้พร้อม อีกหนึ่งช่วงเวลาที่สะพานสวยงามคือ เวลาเช้าสามารถชมอาทิตย์ขึ้นได้จากหน้าอ่าวประจวบอีกด้วย สำหรับการมาที่นี่ สามารถขับรถมาบริเวณอ่าวประจวบ จอดรถเลียบถนน แล้วเดินมาที่สะพานได้เลย แต่ถ้ามาในวันศุกร์ เสาร์ ซึ่งเป็นวันที่มีถนนคนเดินประจวบ รถจะค่อนข้างเยอะหาที่จอดค่อนข้างลำบาก อาจต้องไปจอดตามซอยต่างๆที่อยู่ใกล้ แล้วใช้บริการรถโดยสารของชาวบ้าน มาถึงหน้าสะพานจะเจอกับซุ้มมประตูสวยงามสุดอลังการ
สะพานมีความยาวมากน่าจะเกือบ 1 กิโล ระหว่างทาง มีจุดแวะพักและที่นั่งให้ได้นั่งพัก วิวบนสะพานมีความแปลกตา มองเห็นเขาสูงใหญ่ของอ่าวมะนาวอยู่ฝั่งขวา เรือประมงที่จอดเรียงรายบนอ่าว และบ้านเรือชองชาวบ้านที่อยู่ริมฝั่ง
เดินไปเรื่อยๆ จะเห็นประภาคารที่ตั้งอยู่เกือบปลายสุด เป็นอีกหนึ่งจุดที่ต้องแวะมาถ่ายภาพ ช่วงเย็นจะเห็นชาวบ้านมานั่งตกปลากันบริเวณปลายสะพานด้วย เป็นวิถีชีวิตที่เรียบง่ายของชาวเมืองประจวบ
บริเวณใกล้สะพานในทุกวันมีร้านค้ามาขายอาหารต่างๆ มาขายแต่มีร้านไม่เยอะมาก แต่ถ้ามาในทุกวันศุกร์และเสาร์จะมีถนนคนเดินเรียบอ่าวประจวบ ซึ่งมีร้านค้าค่อนข้างเยอะกว่า สามารถซื้ออาหารมานั่งกินริมทะเลได้ เป็นสะพานแห่งความสุข ที่สามารถมาสัมผัส บรรยากาศริมทะเล รับลมเย็นสบายในยามเย็น ระหว่างเดินเล่นถ่ายภาพบนสะพานจะรู้สึกได้ถึงความสุข และความสบายใจ สมกับความหมายของชื่อ สะพานแห่งความสุข