• หน้าแรก
  • Green season เที่ยวทองผาภูมิฤดูฝน เขียวชอุ่มชุ่มชื่น

Green season เที่ยวทองผาภูมิฤดูฝน เขียวชอุ่มชุ่มชื่น

ย่างเข้าสู่ฤดูฝน  ฤดูแห่งความชุ่มชื่นเขียวขจี  เป็นอีกหนึ่งฤดูท่องเที่ยวยอดฮิตในหลายจังหวัด ที่สามารถสัมผัสหมอกฝนได้แบบง่ายดาย โดยเฉพาะที่ อำเภอทองผาภูมิ กาญจนบุรี อำเภอที่ขึ้นชื่อในเรื่องความสวยงามของภูเขา และความอุดสมบบูรณ์ของป่าไม้ ไม่ต้องไปไกลถึงปิล๊อค หรืออุทยานทองผาภูมิ ไม่ต้องขึ้นเขาไปชมวิวกันบนภูเขา แค่อยู่ในตัวอำเภอทองผาภูมิ จะได้สัมผัสบรรยากาศแบบกรีน ชมสายหมอกได้ตั้งแต่วิวภูเขา ทั้งระหว่างทางที่ขับรถผ่าน  เก็บกระเป๋ามาอิงแอบธรรมชาติ สูดอากาศบริสุทธิ์ ที่ ทองผาภูมิ 2 วัน 1 คืน เปิดรับความชุ่มฉ่ำที่จะเข้ามากันได้เลย

วันแรก 

ฌอ โคว at  หม่องกะลา

หลังจากขับรถจากกรุงเทพร่วมสามชั่วโมงกว่าๆ มาถึงจุดหมายแรก พามาทิ้งตัวลงนอนให้ผ่อนคลายกันก่อนที่  เฌอ โคว at  หม่องกะลา ที่พักริมธารกลางป่าแสนร่มรื่น ที่จะได้นั่งชิลนอนชิลริมน้ำ ชมต้นไม้เขียวขจี ฟังเสียงลำธารในอากาศเย็นสบาย แถมยังได้ลิ้มรสอาหารพื้นถิ่นแสนอร่อย ดีต่อใจทั้งบรรยากาศและอาหาร อยากหลบจากความวุ่นวาย อิงแอบแนบชิดกับธรรมชาติต้องมา

ที่นี่มีบ้านพัก 5 หลัง ทั้งแบบห้องแอร์ พัดลม ตั้งอยู่ริมธารและแมกไม้ บ้านที่เราพัก ชื่อว่า บ้านปลายน้ำ เป็นบ้านไม้สองชั้นริมลำธารส่วนตัวที่ค่อนข้างกว้าง หน้าบ้านมีชานระเบียงริมน้ำแบ่งเป็นโซนไว้นั่งเล่นจิบกาแฟชมวิวทิวทัศน์และโซนครัวเล็กๆ ไว้เตรียมอาหาร  ห้องพักแบบพัดลม ราคาวัน​ จ.- พฤ 1,700 บาท วัน ศ.- ส. -อา.  สำหรับ วันหยุดนักขัตฤกษ์ราคา 2,000 บาท (รวมอาหารเช้า สำหรับ 2 ท่าน) หากต้องการเพิ่มที่นอนเสริม 500 บาทต่อ 1 ท่าน เสริมได้แค่​ 2 ​ท่าน

ภายในบ้านพัก บริเวณชั้นล่าง เป็นห้องนั่งเล่น ประตูหน้าต่างเป็นกระจกใส ให้ความรู้สึกได้ใกล้ชิดธรรมชาติ ได้ยินเสียงน้ำไหล มองเห็นลำธาร มีชุดกะเหรี่ยงวางไว้ให้บนโต๊ะสำหรับใส่ถ่ายรูปได้ฟรี

ชั้น 2 เป็นส่วนของห้องนอนพร้อมพัดลม 1 ตัวที่มีเตียงนอนโทนสีฟ้าขาวเพิ่มความน่ารักด้วยมุ้งสีขาวมุ้งมิ้ง และมุมชั้นวางของข้างที่นอนแบบมินิมอลนิดๆ เป็นที่พักที่ดูเหมือนจะมาในสไตล์โลคอล อยู่ห่างไกลกลางป่า  แต่สะอาดและสะดวกสบาย ถึงแม้จะไม่ใช้ห้องแอร์ แต่อากาศเย็นมาก โดยเฉพาะหากมาเที่ยวในช่วงฤดูฝน แทบไม่ต้องเปิดพัดลม

ในส่วนของห้องน้ำจะอยู่บริเวณชั้น 1 มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ตกแต่งแบบลอฟท์ มีเครื่องทำน้ำอุ่น รวมถึงสบู่ ยาสระผมกลิ่นหอมไว้ให้บริการอย่างครบครัน

ตลอดเวลาที่อยู่ในบ้านพัก แค่นั่งเล่นหน้าบ้าน เดินเล่นชมลำธารใส ต้นไม้ ธรรมชาติเขียวขจีรแบบ้าน ก็ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ ธรรมชาติบำบัดอย่างแท้จริง

บ้านพักในโซนอื่น ส่วนใหญ่เป็นบ้านไม้หลังเล็กน่ารักตั้งอยู่ในมุมต่างๆ ซึ่งแต่ละหลังค่อนข้างมีระยะห่างจากกันเพื่อเน้นความเป็นส่วนตัวไล่ลงมาตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ โดยจะมีชื่อเรียกบ้านแต่ละหลังต่างกันออกไป เริ่มจาก บ้านต้นน้ำ บ้านหิ่งห้อย บ้านปลายน้ำ และ กระท่อม สามารถเข้าไปดูรูปแบบบ้านแต่ละหลังอย่างละเอียดได้ในเพจของเฌอโควโดยตรง

ในส่วนอาหารเย็น เน้นเป็นอาหารท้องถิ่น สามารถสั่งไว้ล่วงหน้าโดยทางที่พักจะส่งเมนูให้เลือกก่อนเข้าพัก เวลา 5 โมง จะมาเสิร์ฟถึงห้อง  การตกแต่งเซตอาหารมาอย่างน่ารักด้วยการใช้วัสดุจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็นตะกร้าจักสาน แผ่นรองจานจากใบตอง อีกหนึ่งความใส่ใจในรายละเอียด การผูกดอกไม้สีขาวที่ช้อนทุกอัน

เมนูที่สั่ง คือ  น้ำพริกแตงเปรี้ยวผัก ที่ถูกจัดใส่ตะกร้ามาอย่างน่ารักพร้อมผักต้ม รสชาติอร่อย กำลังดีไม่เปรี้ยวมาก ทานคู่กับไข่เจียว เข้ากันดี ต่อด้วย ลาบกะเหรี่ยง เป็นลาบแบบแห้งรสชาติดี  อีกหนึ่งจานอร่อยแบบง่ายๆ คือ ผัดผักกูดน้ำมันหอย  ปิดท้ายด้วยเมนูทานเล่น ทอดมันหัวปลี ชิ้นใหญ่ กรอบนอกนุ่มในปรุงรสมาได้แบบลงตัวรสเผ็ดกำลังดี อาหารทุกเมนูราสชาติอร่อย ราคาไม่แพง แถมปริมาณยังเยอะมาก

ในส่วนของชุดอาหารเช้าก็ยังคงคอนเซ็ปเรียบง่ายแต่น่ารักเหมือนเดิม เสิร์ฟเป็น ข้าวต้มหมู อร่อยมาก  เครื่องดื่มสามารถเลือกได้ทั้งกาแฟหรือโอวันติน ทานกับแยมโรล ปิดท้ายผลไม้เป็นแตงโมที่ยังคงความพิถีพิถันทันจัดจานมาอย่างดี

เฌอ โคว at  หม่องกะลา ที่พักสำหรับคนที่อยากหนีความวุ่นวาย กลับสู่อ้อมกอดของธรรมชาติ นอนริมน้ำ ฟังเสียงป่า ใช้ชีวิตอยู่กับธรรมชาติ ไปแบบช้าๆ  มาแล้วต้องอยากมาพักผ่อนอีกหลายครั้งแน่นอน

เฌอโคว at  หม่องกะลา

หมู่บ้านหม่องกะลา​ หมู่​2​ ตำหินดาด  อำเภอทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี

Facebook : เฌอโคว at หม่องกะลา

วันที่สอง 

วัดท่าขนุน

จากที่พักประมาณเกือบครึ่งชั่วโมง แวะไปชมวิวพร้อมไปทำบุญกันหน่อย ที่ วัดท่าขนุน ศูนย์รวมจิตใจชาวไทยเชื้อสายมอญ พม่า บรรยากาศภายในวัดเงียบสงบร่มเย็น และมีสิ่งก่อสร้างที่สำคัญหลายแห่ง ทั้ง พระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่ พระเจดีย์สีทอง พระพุทธเจดีย์บนยอดเขาสูง และสะพานแขวนวัดท่าขนุน หากมาเที่ยวในช่งฤดูฝนยังมีโอกาสได้เห็นสายหมอกลอยคลอเคลียผ่านภูเขา พร้อมไปกับชมวิวแม่น้ำแควน้อยที่ไหลผ่านในอำเภอทองผาภูมิอีกด้วย

เมื่อเข้ามาถึงบริเวณวัดจะพบกับพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม เป็นพระพุทธรูปสีขาวองค์ใหญ่หน้าตักกว้าง 21 ศอก ที่มีความประณีตสวยงาม ยิ่งได้มาในช่วงหน้าฝนจะเห็นหมอกสีขาวคลอเคลียอยู่บนภูเขาเป็นฉากหลังพระพุทธรูปให้ความสวยงามอลังการยิ่งขึ้น  บริเวณใต้ฐานพระพุทธรูปสมเด็จองค์ปฐม เป็นห้องสมุดขนาดใหญ่มีความกว้างถึง ๙๐๐ ตารางเมตร ด้านข้างห้องสมุดมีซุ้มจำหน่าย ดอกไม้ธูปเทียนและสินค้าชุมชนสำหรับนักท่องเที่ยว

เมื่อขับรถเข้ามาด้านในจะพบกับอุโบสถหลังเล็ก มีความประณีตสวยงามตามสถาปัตยกรรมไทย ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปิดทองเป็นพระประธาน นักท่องเที่ยวสามารถเข้าไปกราบพระเข้าชมได้ทุกวันยกเว้นช่วงบ่ายของวันพระใหญ่ที่พระภิกษุลงฟังพระปาฏิโมกข์ ถัดไปด้านหลังโบสถ์เป็นที่ตั้งของ พระเจดีย์ ๘๔ พรรษา ที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช ในวโรกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุ ๘๔ พรรษา และหากมองขึ้นไปบนภูเขาสูงจะพบ พระพุทธเจติยคีรี ที่ต้องเดินขึ้นบันไดกว่า 1,173 ขั้นไป นอกจากจะขึ้นไปสักการะองค์เจดีย์แล้วด้านบนยังเป็นจุดชมทิวทัศน์ของอำเภอทองผาภูมิอีกด้วย

บริเวณด้านหลังวัดยังมีอีกหนึ่งสิ่งก่อสร้างสำคัญ ที่ดึงดูดความสนใจของนักท่องเที่ยว คือ สะพานแขวนวัดท่าขนุนหรือสะพานแขวนหลวงปู่สาย  เป็นสะพานไม้ประกอบลวดสลิงข้ามแม่น้ำแควน้อยเพื่อเชื่อมระหว่างฝั่งวัดท่าขนุนและฝั่งตลาดทองผาภูมิ ปัจจุบันนอกจากจะเป็นเส้นทางบิณฑบาตของพระภิกษุวัดท่าขนุนแล้ว ยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวและจุดเช็คอิน ชมสายหมอกหน้าฝนและชมวิวแม่น้ำแควน้อยยอดนิยมของ อ.ทองผาภูมิ

ครัวแปดริ้ว

ก่อนกลับแวะไปจัดจ้านที่ร้านเด็ดในย่านทองผาภูมิ ครัวแปดริ้ว ร้านอาหารอร่อยเด็ดขวัญใจนักเดินทางที่ผ่านไปมาในเส้นนี้ ร้านตั้งอยู่เชิงสะพานก่อนถีงตลาดทองผาภูมิ มีป้ายเขียนว่าครัวแปดริ้ว บอกไว้หน้าร้านชัดเจน  เป็นร้านอาหารบรรยากาศสบายๆ มเห็นวิวริมแม่น้ำแควน้อยและภูเขา หากมาในช่วงที่ฝนตกจะได้เห็นสายหมอกคลอเคลียตามไหล่เขาด้วย สำหรับใครที่มาเที่ยวทองผาภูมิ หรือสังขละบุรีสามารถแวะระหว่างทางมาทานอาหารที่ร้านนี้ได้

บรรยากาศของร้านกว้างขวาง โปร่งสบายมีหลายโต๊ะให้นั่ง  อาจจะแปลกใจกับชื่อว่ามาเปิดที่เมืองกาญแต่ทำไมใช่ชื่อ แปดริ้ว เพราะว่าเจ้าของร้านเป็นคนฉะเชิงเทรา

จากตัวร้านมองเห็นวิวของสะพานและภูเขาได้แบบใกล้ชิด ยิ่งในช่วงฤดูฝนหลังฝนตก จะได้เห็นสายหมอกลอยคลอเคลียไปมาระหว่างภูเขาได้ตลอดทั้งวัน

อาหารมีหลายเมนู เน้นอาหารป่าและอาหารท้องถิ่นขึ้นชื่อต่างๆของเมืองกาญจน์ ทั้ง ผัดผักกูดน้ำมันหอย ปลารากกล้วยทอดกระเทียม กบทอดกระเทียม ผัดฉ่าทะเล ต้มยำปลาคัง ผัดเห็ดออรินจิ ยำไหลบัว รสชาติอร่อยจัดจ้านทุกเมนู

ต้มยำปลาคลัง การันตีความสด ดูได้จากสีของเนื่อปลาสีขาวนวล น่าทานมาก แถมน้ำซุปยังรสชาติจัดจ้านเปรี้ยวนำตามสไตล์ต้มยำ ซดน้ำร้อนชื่นใจมาก

เมนูทอด ปลารากกล้วยทอด ทอดมาอย่างหอมอร่อยเคี้ยวเพลิน กบทอดกระเทียม มีความเป็นที่สุดมาก ทานได้ยันหนัง เพราะทอดมากรอบมาก

ผัดเผ็ดหมูป่า เนื้อหมูกรุบ กรุบ คลุกเคล้าเข้ากับเครื่องแกงได้แบพอดี หอมเครื่องเทศต่างๆ ต่อด้วยยำไหลบัว รสชาติดีเช่นกัน เช็คบิลมาในราคาไม่แพง  แต่ที่เยี่ยมกว่านั้นคือ  วิวที่ได้เห็นอยู่ตรงหน้านั่งมองวิวเพลินทานอาหารอร่อยไปด้วย เป็นอีกร้านขวัญใจนักท่องเที่ยวที่เดินทางไปผ่านไปในเส้นนี้จะต้องแวะทานตลอด

รายละเอียดเพิ่มเติม

ครัวแปดริ้ว ทองผาภูมิ

พิกัด : อยู่เชิงสะพานก่อนเข้าตลาดทองผาภูมิ อ. ทองผาภูมิ จ. กาญจนบุรี

เปิดให้บริการ : เวลา 10.00-22.00 น. โทร. 034 599 780, 034 599 780

ฉุ่มฉ่ำทั้งกาย ได้พักผ่อน รีชาร์ตพลังที่ได้รับจากธรรมชาติ แถมมีเวลาแค่เพียง 2 วัน 1 คืน เที่ยวได้แบบสบายๆ ไม่ต้องเร่งรีบ ทองผาภูมิ หน้าฝน นั้นดีต่อใจชาวเราไม่น้อยเลยทีเดียว