• หน้าแรก
  • สีสันนครศรี เที่ยวท่าศาลา  กินของอร่อย แวะพักเมืองริมเล

สีสันนครศรี เที่ยวท่าศาลา  กินของอร่อย แวะพักเมืองริมเล

มาเที่ยวนครศรีธรรมราช ส่วนใหญ่จะแวะเที่ยวอำเภอขนอม สิชล ลานสกา เมืองนคร ส่วน อำเภอท่าศาลา เป็นทางผ่านตลอด เห็นชื่ออำเภอนี้ในเส้นทางท่องเที่ยวเมืองนครเสมอ ทั้งขาไปและขากลับ เพราะเป็นอำเภอที่ตั้งอยู่ระหว่างกลางของขนอม สิชล ไปยังอำเภอเมือง มาเที่ยวนครรอบนี้แวะไปนอนพักซัก 1 คืน ที่ ท่าศาลา อำเภอเล็กๆริมทะเล ที่หลายคนมองข้าม แต่มีของดีอยู่มากมาย ทั้งที่เที่ยว ที่พัก ร้านอาหารทะเลรสชาติดีโดยเฉพาะปูม้า ท่าศาลา ขึ้นชื่อในเรื่องความสด เนื้อแน่น ราคาไม่แพง  แวะมาท่าศาลา รับรองได้ความชิล ได้รูปสวย ได้ความอิ่ม กลับไปแน่นอน

 

 

วันแรก

สตรีทอาร์ท ท่าศาลา

เริ่มด้วยจุดหมายแรก เติมสีสันแวะถ่ายรูป  Street Art ท่าศาลา มีภาพ Street Art แนวกราฟฟิตี้สีสันสดใสน่ารัก บอกเล่าเรื่องราว วิถีชีวิตของชุมชนชาวเลเก่าแก่ของชาวท่าศาลา แต่ละภาพมีเอกลักษณ์และได้แรงบันดาลใจมาจากวิถีชีวิตของผู้คนที่นี่ โดยวาดบนกำแพง และบ้านเรือน ตามตรอกซอกซอยต่างๆ บนถนนศรีท่าศาลา และถนนธุรการ ถนนสายเหลักของอำเภอ ใครผ่านไปมาต้องสะดุดตา เป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์คสุดชิค ชวนให้แชะภาพ

 

 

ที่มาของ Street Art ท่าศาลา  เกิดจากโครงการคืนสีสันให้ท่าศาลา Thasala Graffiti Project ซึ่งใช้กราฟฟิตี้มาแสดงในลักษณะงานแนวสตรีทอาร์ต เพื่อสื่อถึงอัตลักษณ์ของอำเภอท่าศาลา โดยแต่ะละภาพเน้นใช้สีสันที่สดใสสุดจี๊ด เริ่มที่ถนนศรีท่าศาลา บริเวณที่ว่าการอำเภอท่าศาลา จะเจอภาพแรกบริเวณกำแพง เป็นภาพปูม้าและเรือสำเภา ปูม้า ถือได้ว่าเป็นสัตว์เศรษฐกิจ อำเภอท่าศาลา มีแพปลาขนาดใหญ่ที่จับปูม้าส่งขายโดยเฉพาะ ปูม้าท่าศาลาขึ้นชื่อในเรื่องของความสดอร่อย ใครที่ได้มาเที่ยวท่าศาลาได้ชิมต้องติดใจทุกคน การันตีเพราะลองกินเนื้อแน่นหวานอร่อยเว่อมาก ยกให้เป็นอันดับต้น  ส่วนเรือสำเภา สมัยก่อนท่าศาลา เป็นเมืองท่าแห่งการค้าขาย เพราะติดกับชายฝั่งทะเล มีปากแม่น้ำซึ่งเรือสำเภาจากประเทศจีนนำข้าวของเครื่องใช้มาค้าขาย รวมทั้งซื้อข้าวปลาอาหารขึ้นเรือเพื่อไปขายต่อ จึงบอกเล่าวิถีชีวิต การทำอาชีพชาวเล และค้าขายของชาวท่าศาลาได้เป็นอย่างดี

 

 

จากที่ว่าการอำเภอมานิดเดียว จะเห็นภาพวาดกราฟฟิตี้ตามตรอกซอกซอยหลายภาพ สามารถจอดรถริมถนนแล้วเดินเก็บภาพได้เลย  แต่ละภาพอยู่ใกล้กันมาก และบางภาพก็อยู่ใกล้กัน ทั้งภาพของปลากุเลา  ทั้งปลากุเลาและปลาจวด สัตว์เศรษฐกิจแห่งทะเลใต้ ที่มีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งมีปลาเหล่านี้ในอำเภอท่าศาลาเช่นกัน ลายในตัวปลาเป็นภาพลูกปัดมโนราห์ ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นปักษ์ใต้

 

 

ภาพปลาหมึกยักษ์ หรือปลาหมึกวาย และม้าน้ำ สัตว์ทะเลหายากและใกล้สูญพันธุ์ ซึ่งยังพอมีให้เห็นในทะเลท่าศาลา ที่ยังคงมีความอุดมสมบูรณ์รวมทั้งปลากุเลา

 

 

ภาพนี้น่ารักไม่เบา เป็นภาพการ์ตูน น้องไข่แลน ชื่อเรียกแทนเด็กผู้ชายในภาคใต้กำลังถือปูม้า กับสัตว์ต่าง ทั้ง ปลา ควาย  หมา แมว มีภาพนกกรงหัวจุก นกที่คนใต้นิยมเลี้ยง ฟังเสียงขันบางคน เลี้ยงเพื่อนำไปแข่งขันเสียงร้อง เป็นอีกหนึ่งวัฒนธรรมพื้นบ้านชาวท่าศาลา เกือบทุกบ้านต้องมีกรงนกหัวจุกแขวนไว้  ผลโกโก้ ในพื้นที่ท่าศาลาได้มีการเพาะปลูกโกโก้สวนและโกโก้แห่งแรกในนครศรีธรรมราชอีกด้วย

 

 

มาถึงภาพกราฟิตี้ที่ใหญ่อีกจุดหนึ่งบนถนนธุรการ ตรงข้ามกับหอประชุมท่าศาลา เป็นภาพบนอาคารที่น่ารักสดใสสีสันสะดุดตา บอกเล่าเรื่องราวผ่านความอุดมสมบูรณ์ของทะเลท่าศาลา ที่มีสัตว์ทะเลต่างๆ เปรียบเสมือนเป็นทองคำที่มีมูลค่ามากมาย   โดยภาพวาดสัตว์ทะเลนำมาดัดแปลงให้ออกแนวฟุ้งฟิ้ง เล่นสีสันได้แจ่มจี๊ดมาก ใครที่ผ่านไปมาเป็นต้องหยุดมอง

 

 

เลยจากภาพตรงจุดนี้ไป ตรงไปอีกนิดจะเจอกับภาพสตรีทอาร์ตคิงภูมิพล เป็นภาพของในหลวง รัชกาลที่ 9 พร้อมข้อความพระราชดำริ ของพระองค์เกี่ยวกับการพัฒนาพื้นที่ในแนวฝั่งทะเล เพื่อทำประมง และเป็นแหล่งขยายพันธุ์ปลาต่างๆ

 

 

จากนั้นขับรถย้อนกลับไปยังเส้นทางเดิม ไปยังตลาดวันพฤหัส มีภาพวาดสวยงามสุดคลาสสิคบนอาคาร ระบุปี ร ศ  124 ซึ่งเป็นช่วงเวลาในอดีต มีเรือสำเภาชาวจีนที่มาทำการค้าที่อำเภอท่าศาลาจำนวนมาก ภายในตลาดวันพฤหัส ยังมีภาพกราฟฟิตี้เป็นภาพการ์ตูน และภาพปลาที่นำมาวาดในอีกรูปแบบให้มีความแปลกและน่าสนใจ ภาพนี้อยู่บริเวณกำแพง ซึ่งด้านหน้า คือ แผงลอยในตลาดสด

 

 

ใกล้กับ ตลาดวันพฤหัส ยังมีภาพที่สื่อถึงวิถีชีวิตของชุมชนชาวเลในอำเภอท่าศาลาเช่นกัน Street Art ท่าศาลา เป็นอีกหนึ่งจุดเช็คอิน ที่ทำให้อำเภอท่าศาลไม่ใช่เพียงแค่ทางผ่านอีกต่อไป  ใครที่มาเที่ยวยังตัวเมืองนครศรี หรืออำเภอสิชลสามารถมาเที่ยวต่อที่อำเภอท่าศาลาได้ เพราะเป็นอำเภอที่อยู่ใกล้กันเดินทางถึงกันเพียงแค่ 30 นาทีเท่านั้น

 

 

วัดยางใหญ่

สายมูต้องแวะมาที่นี่ วัดยางใหญ่ วัดยางใหญ่ หรือวัดตาพรานบุญ วัดพี่วัดน้องของวัดเจดีย์ไข่ วัดมีสีชมพูสดใส มี ตาพรานบุญ อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่ชาวปักษ์ใต้ให้ความนับถือ เชื่อกันว่า ใครได้บูชา หรืออธิษฐาน มักจะได้โชคลาภ เงินทอง แคล้วคลาด มีกินมีใช้ ไม่ขัดสน เหมาะมากสำหรับคนที่ค้าขายแล้วอยากให้ธุรกิจเจริญรุ่งเรือง

 

 

ที่วัดใช้สีชมพูนั้นมาจากตำนานของพญานาคราช ที่ชื่อว่า “ท้าวชมพูจิต” ที่พรานบุญ ได้เคยช่วยชีวิตเอาไว้  บริเวณรอบวัดตกแต่งด้วยสีชมพูสดใส ถัดจากศาลาตาพรานบุญ  คือ อุโบสถภายในทาสีชมพูตั้งองค์พระประธานสวยงาม มีหลวงพ่อยางใหญ่ ที่ประดิษฐานอยู่ในอุโบสถ

 

 

รูปปั้นตาพรานบุญในท่านั่ง ตั้งโดดเด่นในศาลามองดูน่าเกรงขาม  สำหรับวิธีการไหว้ตาพรานบุญ ให้จุดธุปและไหว้ท้าวเวสสุวรรณก่อน หรือขอโชคลาภจากท้าวเวสสุวรรณ  จากนั้นจึงไปไหว้ตาพรานบุญ

 

 

ถัดไป คือ ศาลาที่ประดิษญฐานหลวงปู่ทวด ถ้ามานครศรีฯ เพื่อสักการะไอ้ไข่ศิษย์วัดเจดีย์แล้ว ควรหาเวลาเพื่อมาสักการะตาพรานบุญ วัดยางใหญ่ด้วย ถึงแม้จะไม่โด่งดังเท่า แต่มีผู้คนที่เลื่อมใสศรัทธามาขอพรไม่ขาดสาย

 

 

Wannachart boutique Resort

จากนั้นเช็คอินเข้าที่พัก  Wannachart boutique Resort  ที่พักราคาหลักร้อยในตัวเมืองท่าศาลา  เป็นที่พักแบบเป็นหลังมีจอดรถส่วนตัวของแต่หลัง บ้านพักแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ทุกห้องตกแต่งทันสมัย ในสไตล์ลอฟท์  ห้องกว้าง มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น ห้องพักสำหรับสองท่าน ราคาคืนละ 690 บาท เท่านั้น  ยังมีห้องพักสำหรับ 4 คน พักได้แบบครอบครัว หลังละ 1500 บาท  ห้องพักแม้ไม่ติดทะเล แต่ค่อนข้างสะดวกสบายที่สำคัญราคาไม่แพง

 

 

ภายในที่พักค่อนข้างเงียบสงบ มีสระว่ายน้ำภายในที่พัก สำหรับใครมาพักเป็นครอบครัวสามารถพาเด็กๆ มาเล่นน้ำที่สระน้ำได้

 

Wannachart Boutique Resort

ที่อยู่ : 30/12-13 หมู่ที่ 13 ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา จ. นครศรีธรรมราช

โทร :  086 947 8880

 

ริมเลซีฟู้ด

มาถึงท่าศาลา อำเภอริมทะเล ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของอาหารทะเลที่สด อร่อย ราคาไม่แพง ต้องมองหาร้านอาหารทะเลอร่อย มื้อเย็นแวะมาที่ ริมเลซีฟู้ด ร้านอาหารทะเลที่ขึ้นชื่อแห่งท่าศาลา ร้านตั้งอยู่ริมทะเล บรรยากาศแบบบ้านๆโอเพ่นแอร์  มีที่นั่งหลายโซนให้เลือกนั่ง

 

 

เมนูเน้นอาหารทะเลมีหลายเมนู เด็ดสุดของร้านนี้ คือ ต้มกะทิปูม้า จัดเนื้อปูแบบสดแน่น รสชาติหวานเค็มกลมกล่อม เพิ่มความหอมด้วยต้นหอม และหอมใหญ่ใบเล็บครุย คลุกเคล้าเข้ากับน้ำกะทิ อร่อยสุดๆ แป๊บเดียวหมดจาน

 

 

หมึกไข่ต้มหวาน อีกหนึ่งเมนูแนะนำ จัดปลาหมึกแบบแน่น ไข่เต็มทุกตัว สายปลาหมึกไข่กินแล้วดีต่อใจ ต่อด้วยผัดเผ็ดปลาดุกทะเล หอมเครื่องแกงใต้ เนื้อปลาดุดทะเลไม่มีกลิ่นคาวโคลนแบบปลาดุกเลี้ยงในบ่อดิน แบบที่เคยทาน ชอบมากอีกหนึ่งเมนู กุ้งผัดซอสมะขามจัดกุ้งตัวโต ทอดมาแบบกรอบนอกนุ่มใน ทานกับน้ำซอสหวานเปรี้ยวของมะขามถือว่ารสชาติใช้ได้ค่ะ ส่วนความสดไม่ต้องพูดถึงที่สุดอยู่แล้ว สำหรับเมืองริมเล แห่งนี้

 

  

 

ริมเลซีฟู้ด

ที่อยู่ : ม.9 หาดด่านภาษี ต.ท่าศาลา อ.ท่าศาลา นครศรีธรรมราช 80160 นครศรีธรรมราช

เปิดให้บริการ : 10:30 น.  – 20:00 น. (หยุดทุกวันพุธ)

โทร : 086 046 7336

 

วันที่สอง

 

มิตรภาพติ่มซำ

ทานอาหารทะเลมื้อเย็นดีๆไปแล้ว มาจัดของอร่อยในมื้อเช้ากันต่อ ที่ มิตรภาพติ่มซำ ร้านอาหารเช้าชื่อดังแห่งเมืองท่าศาลา ที่พร้อมเสิร์ฟความอร่อยยามเช้า หลากหลายเมนู ทั้ง โจ๊ก ข้าวต้ม ไข่กะทะ  ติ่มซำ บะกุ๊ดเต๋ การันตีรสชาติอร่อยทุกอย่างร้านนี้ ไม่ผิดหวังแน่นอน

 

 

เมนูที่ชอบมากของร้านี้ คือ โจ๊ก รสชาติดี บะกุ๊ดเต๋ รสชาติอร่อย น้ำซุปกลมกล่อม เข้มข้น หอมกลิ่นเครื่องเทศ กระดูกหมูต้มมาเปื่อยมากแบบละลายในปาก เป็นเมนูห้ามพลาด ต้องสั่งมาลองทาน ส่วนติ่มซำมีให้เลือกหลายแบบแช่ไว้ในตู้เย็น ไปสั่งหน้าตู้แช่ จากนั้นพนักงานจะนึ่งแล้วมาเสิร์ฟที่โต๊ะ

 

 

 

มิตรภาพติ่มซำ

พิกัด : ร้านอยู่ตรงข้ามที่ว่าการอำเภอท่าศาลา

เปิดบริการ : ทุกวัน  05:00 น. -14:00 น.

โทร : 086 940 9453

 

 

Bota Sky Tower 

จากนั้นไปเดินย่อยมื้อเช้าที่ สกายวอล์ค นครศรีธรรมราช หรือ Bota Sky Tower  ตั้งอยู่ในอุทยานสวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เป็นหอคอยและสะพานแขวนยกสูงเหนือยอดไม้ด้วยความสูง 25 เมตร เกือบเท่าตึก 8 ชั้น ดีไซน์แปลกตาสวยงาม เชื่อมต่อกันเริ่มจาก หอชมวิวสูง 2 จุด  สะพานสลิงแขวน  เส้นทางเดินเหนือเรือนยอดไม้ ให้หยุดพักถ่ายรูปชมวิวสัมผัสเส้นทางธรรมชาติ ชมวิวยอดเขาหลวงบนสะพานแขวน เป็นความรู้สึกแตกต่างจากสกายวอลค์ ที่เคยเที่ยวมาในหลายแห่ง ยกให้เป็น สกายวอล์ค ในเมืองไทยที่ดีไซน์สวยงามน่าเที่ยวในอันดับต้นๆ เลยทีเดียว

 

 

Bota Sky Tower  ตั้งอยู่ในอุทยานสวนพฤกษศาสตร์ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ เข้ามาภายในมหาวิทยาลัย ก็จะเจอจุดจำหน่ายตั๋วเข้าชม โดยตั๋วมี 2 ราคา คือ คนละ 25 บาท  ชมเฉพาะ Bota Sky Tower  และราคาคนละ 50 บาท รวม Bota Sky Tower  + นั่งรถรางชมวิวและโรงเรือนไม้ เราเลือกซื้อแบบ 50 บาท มาทั้งทีต้องแวะให้ครบทุกจุด หลังจากซื้อตั๋วแล้วขับรถเข้าไปด้านในไปจอดยังลานจอดรถ จากนั้นเดินไป Bota Sky Tower  ผ่านทางเข้าเจอร้านคาเฟ่  The Tree Café ไว้คอยให้บริการอาหารเครื่องดื่ม และเป็นจุดนั่งพักผ่อน

 

 

มาถึงทางขึ้นเริ่มกันที่หอชมฟ้า 1 มีบันไดเดินวนไปเรื่อยๆ แนวคิดการออกแบบ หอชมฟ้า ได้รับแรงบันดาลใจจากต้นกุหลาบหินมีกลีบใบซ้อนเรียงลดหลั่นกันอย่างสวยงา เป็นระเบียบ และได้ออกแบบรูปทรงหอชมฟ้าให้เป็นรูปแปดเหลี่ยม เพื่อให้มีขั้นบันไดวน ตามจำนวนที่เหมาะสมในแต่ละชั้น โดยไม่ทำให้นักท่องเที่ยวรู้สึกเมื่อยล้าในระหว่างการเดินขึ้นหอชมฟ้า มีจุดพักระหว่างทางเดินแต่ละช่วง และเพื่อเพิ่มพื้นที่ในหอชมฟ้าให้มากขึ้นด้วย เป็นหอคอยแรก ที่เดินขึ้นแล้วไม่รู้สึกเหนื่อย ทั้งที่ค่อนข้างสูง ด้วยการออกแบบที่มีการคิดมาแล้วนั่นเอง

 

 

เดินขึ้นมาถึงชั้นบนสุด สามารถเดินชมวิวได้แบบ 360 องศา มองเห็นแต่ต้นไม้เต็มไปหมด แถมด้วยเสียงนกร้อง บรรยากาศสดชื่นมาก จากนั้นก็เดินไปยังสะพานสลิงแขวนสีแดง วนผ่านทางเดินเหนือยอดไม้ เพื่อไปหอคอย 2 สีเขียวเหลือง ที่จุดแวะเป็นหอคอยเล็กๆ ระหว่างทาง

 

 

ระหว่างทางเดินยังคงมีต้นไม้ แน่นและอุดสมบูรณ์มาก เป็นสถานที่เกินความคาดหมาย ก่อนมาเห็นแค่ภาพยังรู้สึกธรรมดา แต่พอได้มาเห็นสถานที่จริง ดีเกินเบอร์มาก ชอบดีไซน์ลูกเล่นในการสร้างหอคอยมาก ดูตั้งใจทำ สวยงามทุกจุด เจ้าหน้าที่บอกว่า ถ้าอากาศเปิดจะได้เห็นวิวของยอดเขาหลวงได้แบบชัดมาก แต่เรามาตอนฝนตกอากาศครึ้มเมฆเยอะ

 

   

วนกลับมายังทางเดินเหนือยอดไม้ ที่ระดับต่ำลง เพื่อไปยังหอคอย 2  ตรงหอคอยนี้หากเราเดินลงมา จะมองเห็นเป็นรูปกลีบกุหลาบซ้อนกัน เป็นมุมในการถ่ายภาพที่เท่ไปอีก

 

 

จากนั้นนั่งรถรางชมวิวได้เห็นบรรยากาศของม.วลัยลักษณ์ ที่สวยงาม เขียวขจี ต้นไม้เยอะมาก แถมยังมีน้องควายมาเล่นน้ำด้วย

 

 

นอกจากได้ชมวิวทิวทัศน์รอบมหาลัยแล้ว ยังพาไปชมโรงเรือน โรงเรือนแรก หม้อข้าวหม้อแกงลิง จะได้เห็นสายพันธุ์ต่างๆ ต้นสวยงามสมบูรณ์

 

 

ต่อด้วย โดมกระบองเพชร ที่ได้รับการตกแต่ง โดยสวนนงนุช เต็มไปด้วยกระบองเพชรหลากหลายสายพันธุ์

 

 

ก่อนกลับแวะชมวิวอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่และพื้นที่โดยรอบของอุทยานพฤกษศาสตร์ บรรยากาสดชื่นผ่อนคลายมาก มาที่เดียวได้ชมวิว นั่งพักหลายจุด 

 

 

Bota Sky Tower   

เปิดให้บริการ :  วันจันทร์ – ศุกร์ ยกเว้นหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 14.00 – 18.00 น.

วันเสาร์ – อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ รอบเช้า 09.00 – 11.30 น.รอบบ่าย 13.00 – 18.00 น.

ราคาตั๋วเข้าชมคนละ 25 บาท    บริการรถไฟฟ้านำชมแหล่งเรียนรู้ต่างๆภายในอุทยานพฤกษศาสตร์ มีอัตราค่าบริการ 50 บาท/คน โดยราคานี้รวมค่าเข้าชมหอชมฟ้า (Bota Sky Tower)

โทร. 091 776 9830

Facebook : WBP Walailak Botanic Park

 

แพเพชรปิยะ

ก่อนกลับแวะไปที่  แพเพชรปิยะ  แพขายปูม้าที่โด่งดังแห่งท่าศาลา เป็นแพปลาขนาดใหญ่มีเรือประมงของตัวเอง จับปูม้าส่งขายทั่วไทย ส่งทุกวัน เคยทานปูม้ามาหลายแห่งในเมืองไทย ปกติยกให้ปูม้าบางตะบูน คือ ที่สุดของความสด หวาน อร่อย ราคาไม่แพง แต่พอมาเจอปูม้าที่อำเภอท่าศาลา นครศรีธรรมราช ที่ ยอมในความสด เนื้อแน่นมาก และราคาไม่แพง

 

 

 

ปูม้า ตัวเล็กโลละ 450 บาท ตัวใหญ่โลละ 550 บาท ปกติไซส์ใหญ่หากทานตามร้านอาหารกิโลละไม่ต่ำกว่า 700 บาท หรือจะสั่งแบบแกะแล้วครึ่งกิโล กล่องละ 220 บาท 

 

 

แบบที่ซีลในห่อก็มี ซื้อมาทานที่พักหรือระหว่างทาง นั่งกินที่แพก็ได้มีที่นั่ง หรือสั่งผ่านไลน์ส่งทั่วไทย ตอนไปที่นี่ สั่งมาทานเองด้วย และสั่งที่แพส่งไปที่บ้านกรุงเทพทาน สั่งวันนี้พรุ่งนี้ถึงเลย ส่วนน้ำจิ้มซีฟู้ด ทำสดใหม่ น้ำจิ้มเด็ดมาก อยากให้ลอง การันตีของเขาดีจริง ตามไปสั่งได้เลย ที่ เพจ https://www.facebook.com/pumanapatpiya/

 

 

ท่าศาลา อีกหนึ่งอำเภอน่าเที่ยว น่าพัก แห่งนครศรี ที่ไม่อยากให้แค่เป็นทางผ่าน แวะเข้ามาซักนิด มีมุมสวยให้แวะเที่ยว ถ่ายภาพ แวะ กิน หลายจุด ไม่แพ้อำเภอไหนในเมืองนคร