Blue Hawaii Coffee & Local Eatery คาเฟ่เท่ๆโทนสีน้ำเงิน ดื่มด่ำกาแฟชั้นเลิศ ลิ้มรสอาหารไทยพื้นถิ่น
มาเที่ยวเมืองกาญจน์ อยากหาร้านอาหาร กาแฟและเครื่องดื่ม นั่งพักแบบผ่อนคลาย เน้นบรรยากาศกว้างขวาง ผู้คนไม่วุ่นวาย ต้องมาที่ Blue Hawaii Coffee & Local Eatery คาเฟ่ตกแต่งในสไตล์เรียบเท่ คลุมโทนสีน้ำเงิน ที่ใช้กาแฟที่ผสมผสานระหว่างเมล็ดกาแฟไทยและเทศรสชาติละมุนเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งเค้ก เบเกอรี่สไตล์โฮมเมด คัดสรรวัตถุดิบมาอย่างดี นอกจากนี้ยังมีร้านอาหารไทยพื้นถิ่น Karn Local eatery by Blue Hawaii ที่โดดเด่นในเรื่องเมนูอาหารคาวแบบไทยท้องถิ่นเมืองกาญจน์รสชาติเด็ด ที่บางเมนูหาทานได้ยาก เป็นอีกหนึ่งร้านที่เหมาะสำหรับแวะมาทานอาหารแบบครอบครัว กลุ่มเพื่อน หรือจะควงแขนคนรัก มานั่งแวะมาทานอาหารแบบสบายๆให้อิ่มท้อง
พิกัดของร้าน Blue Hawaii Coffee & Local Eatery ตั้งอยู่บนถนนแสงชูโต ใจกลางเมืองกาญจนบุรี ซึ่งเป็นเส้นทางที่หากเข้ามาเที่ยวเมืองกาญจน์ไปต่อยังอำเภออื่นจะต้องผ่าน สามารถแวะมาพักทานอาหารก่อนไปเที่ยวต่อยังจุดอื่น หรือแวะหลังจากเที่ยวเรียบร้อยแล้วก็ได้ ตัวร้านใช้โทนสีน้ำเงิน หากมองมาด้านหน้าอาจรู้สึกว่าเป็นร้านขนาดเล็ก แต่พอเข้าไปข้างใน มีพื้นที่กว้างขวาง และมีที่จอดรถพร้อมสะดวกสบาย
พื้นที่ด้านหน้ามีความคูลด้วยผนังสีน้ำเงิน และหน้าต่างกระจกกลมตัดด้วยขอบไม้สีชมพูส้มแบบพาสเทล ตกแต่งด้วยต้นเฟิรน์ห้อยระย้า พร้อมโต๊ะเก้าอี้ไม้ขาเหล็กแบบเรียบเก๋ให้นั่งโพสต์ท่าถ่ายรูปแบบชิคๆ ได้
เมื่อเปิดประตูเข้าไปจะพบกับกับพื้นที่นั่ง และเคาน์เตอร์สั่งอาหารเครื่องดื่ม ที่จัดได้อย่างเป็นสัดส่วน โดยแบ่งเป็น 2 โซน คือ พื้นที่ในส่วนของคาเฟ่ ซึ่งมีทั้งโต๊ะนั่งแบบติดกระจก และโต๊ะนั่งแบบโซฟาเก้าอี้ติดกำแพงสีน้ำเงิน เพิ่มความความเก๋ด้วยแจกันใส่ใบมอนสเตอร่า ไม้ฟอกอากาศยอดฮิต ที่วางประดับทุกโต๊ะ
มาที่เมนู เริ่มจากกาแฟที่รับรองว่าต้องถูกใจคอกาแฟอย่างมาก เพราะกาแฟของ Blue Hawaii อยู่ในการดูแลของทีมงานคุณภาพอย่าง Craftsman Roastery หรือ ร้านกาแฟบ้านอาจารย์ฝรั่ง (ศิลป์ พีระศรี) ร้านกาแฟในตึกเก่าคลาสสิคชื่อดังของกรุงเทพ ที่คัดสรรเมล็ดกาแฟชั้นดีโดยใช้เมล็ดกาแฟไทยพันธุ์ไทยผสมผสานกับเมล็ดพันธุ์กาแฟต่างประเทศ ซึ่งลูกค้าสามารถเลือกได้ว่าชอบรสชาติกาแฟแบบไหน เริ่มที่ เมนูแนะนำ ชินนามอนครัช (Cinnamon Crush) ใช้เมล็ดกาแฟกาแฟไทยผสมกับเมล็ดกาแฟบราซิล คั่วแบบกลางทำให้ได้รสชาติกาแฟค่อนข้างละมุนไม่เข้มจนเกินไป ใส่นมผสมกับครีมและเพิ่มความหวานของไซรับทอฟฟี่นัท ท๊อปด้วยครัมเบิ้ลหรือบิสกิตบดอันเล็กๆผสมกับซินนามอนหรืออบเชย และเนย เวลาดื่มได้กลิ่นหอมของชินนามอนเข้าจมูกเบาๆ เป็นเมนูที่ดีไซน์มาให้คนที่ไม่ปลื้มรสชาติกาแฟขมเข้มได้ยกดื่มแบบสบายใจ
ส่วนกาแฟร้อน เป็นเมนูแบบมาตราฐานทั่วไป ทั้งกาแฟลาเต้ และกาแฟที่ผสมนมและครีม ได้กลิ่นหอมละมุนของกาแฟ ส่วนรสชาติยังคงสไตล์ความนุ่มเช่นเคย คนที่ไม่โปรดกาแฟ่เข้มทานได้แบบสบาย ส่วนใครที่ชอบทานกาแฟแบบเข้ม สามารถสั่งทานร้านให้ดีไซน์ตามแบบที่ชอบ หรือจะเลือกดื่มแบบกาแฟดริปเองก็ได้
นอกจากกาแฟยังมีเครื่องดื่มอื่นๆ เมนูแนะนำ ซินญอริต้า เครื่องดื่มที่ใช้ส่วนผสมของน้ำองุ่นเขียวเพิ่มความเปรี้ยวสดชื่นด้วยน้ำทับทิมและมะนาวสด ใส่กลิ่นชากุหลาบและมินต์ เวลาทานจะได้รสชาติเปรี้ยวหวาน และความสดชื่นของมินท์ และกลิ่นหอมเย็นของกุหลาบ
ส่วนเมนูสายเฮลตี้แนะนำ น้ำผลไม้สกัดเย็น ที่สกัดมาจากผลไม้สดออร์แกนิค ไม่มีส่วนผสมของน้ำเชื่อม ได้รสชาติของผลไม้แท้ ทั้ง Green Beauty ส่วนผสมมี แอปเปิ้ลเขียว เชลอรี่ คะน้า ใบมินท์ ช่วยบำรุงผิวใส ผมและเล็บ น้ำ Power me ส่วนผสมมี บีทรูท แอปเปิ้ลแดง แครอท ขิง ช่วยเรื่องดีท๊อกซ เพิ่มพลังลดความอ่อนล้า Forever Young ส่วนผสมมี แครอท แอปเปิ้ลแดง ทับทิม แตงกวา ช่วยชะลอความเสื่อมของเซลส์ผิวเพิ่มความอ่อนเยาว์ เป็นเครื่องดื่มที่ทานแล้วอร่อยแล้วยังสวยอีกด้วย
ในส่วนของเมนูขนมและเบเกอรี่ ยังคงเน้นในเรื่องความเฮลตี้ คือ เป็นสไตล์โฮมเมดแท้ไม่มีแป้งเป็นส่วนผสม และใช้ความหวานของน้ำผึ้งมาเป็นส่วนประกอบ เมนูแนะนำ Cocoa Almond Cheesecake เปลี่ยนจากแป้งสาลีมาใช้แป้งที่บดจากเมล็ดแอลมอนด์แทน ผสมกับผงโกโก้ 100 % ท๊อปด้วยอัลมอนด์กับน้ำผึ้ง Flourless Chocolate Cake เค้กช็อกโกแลตที่ปราศจากแป้งโดยใช้ส่วนผสมของช็อคโกเลต เนยแท้ และไข่ซึ่งทำให้เค้กคงตัว ราดด้วยแยมสตรอเบอรี่ ที่ช่วยตัดกับรสชาติความเข้มของช๊อคโกเล็ตได้แบบพอดี Cranberry cake เปลี่ยนจากชีสแน่นๆมาใช้โยเกิรตแทน ทำให้เนื้อเค้กนุ่มเบาเหมือนทานสังขยา เพิ่มความเปรี้ยวหวาน ด้วยผลไม้ ทั้งสตอเบอรี่ เบอรี่ กี่วี มะม่วง ราดด้วยน้ำผึ้ง เป็นการทานเค้กเบอเกอรี่ได้แบบไม่รู้สึกผิด เพราะดูจากส่วนผสมดีต่อสุขภาพมาก แถมรสชาติอร่อยอีกด้วย
ปิดท้ายอีกหนึ่งเมนูแนะนำ ขนมปังปิ้ง จิ้มด้วยแยมอโวคาโด้ (ตามฤดูกาล) หรือ แยมเสาวรสโฮมเมด ที่ใช้เนื้อเสาวรสสด ๆ ผสมน้ำผึ้งและเกลือ ความพิเศษ คือ ขนมปังที่มีถึง 3 รสชาติในจานเดียวกลายเป็นขนมปังสามเกลอ ทั้งขนมปังที่ใช้ผลไม้เป็นส่วนประกอบ ขนมปังที่ใช้แป้งสกัดจากข้าวโพดและเมล็ดทานตะวัน และขนมปังไฮไลท์ ที่มีส่วนผสมของข่า ตะไคร้ ดอกดาหลา ทานแล้วได้กลิ่นสมุนไพรนิดๆ ตัวแป้งที่ใช้ทำขนมปัง ไม่ใช่แป้งขัดขาว เป็นแบบโฮมเมดไม่ปรุงแต่งด้วยสารใดๆปั้นด้วยมือ และยิ่งปิ้งนานเท่าไหร่ยิ่งกรอบ ขนมปังกรอบนอกนุ่มใน จิ้มด้วยเนยสดผสมอโวคาโด้สดปรุงด้วยเกลือเล็กน้อย รสชาติอร่อย ทานเพลินมาก
เดินผ่านโค้งประตูเข้าไปคือส่วนของร้านอาหาร Karn Local eatery by Blue Hawaii ที่ค่อนข้างกว้างตกแต่งแบบเอิร์ธโทน เพิ่มความอบอุ่น น่านั่ง ด้วยแสงไฟสีเหลืองบนเพดาน โซนนี้จะเป็นส่วนของที่นั่งทานอาหาร เหมาะสำหรับนั่งทานกันเป็นกลุ่มหลายคน และมีการแบ่งพื้นที่นั่งแบบส่วนตัวสำหรับหมู่คณะ หรืออยากนั่งเล่นทำงานแบบสงบอีก 1 ห้อง
อาหารคาว ทางร้านมีความโดดเด่นในเรื่องของอาหารไทยท้องถิ่นเมืองกาญจน์และเมนูพื้นถิ่นในภูมิภาคอื่น อาหารทุกจานคัดเลือกวัตถุดิบอย่างพิถีพิถัน เป็นของดีขึ้นชื่อของพื้นที่นั้น อย่างเช่น น้ำตาลจะไม่ใช้น้ำตาลทรายแต่ใช้น้ำตาลมะพร้าวจากอัมพวา กะปิใช้กะปิอย่างดีจากแม่กลอง ซึ่งเป็นแหล่งผลิตกะปิที่มีชื่อเสียงและคุณภาพ อาหารทุกเมนูเน้นความเป็นออร์แกนิค ไม่ใช้สารปรุงแต่งรสชาติ ไม่ใส่ผงชูรส แอบกระซิบว่า Blue Hawaii ได้รับการประเมินผ่านเกณฑ์ ร้านอาหารไทยมีมาตรฐานคุณภาพระดับสากล จากกระทรวงพาณิชย์มอบให้กับร้านอาหารไทย เพื่อการันตีว่า ร้านนี้มีรายการอาหารที่เป็นอัตลักษณ์ท้องถิ่น โดยได้รับตราสัญลักษณ์ Thai Select ประจำปี 2020 สำหรับเมนูแนะนำ มีทั้ง ข้าวโพดทอดท่าม่วง หน้าตาคล้ายไข่เจียวเป็นสูตรโบราณที่ถูกถ่ายทอดมาตั้งแต่รุ่นคุณย่า ใช้ข้าวโพดข้าวเหนียวและไข่ออร์แกนิคมาผสมกันทานแล้วได้ความหวานของข้าวโพดข้าวเหนียว ซึ่งมีลักษณะพิเศษของกาญจนบุรี ที่มีความสด ใหม่หวานจากเนื้อที่นำมาฝาน และโขลกจนน้ำนมข้าวโพดออกมาผสมกับเครื่องปรุง และกรรมวิธีการทอดที่ต้องใช้กะทะประคองแผ่นข้าวโพดให้ลอยขึ้นบนอากาศ และรอรับให้ลงมาบนกะทะ เพื่อให้ไม่เนื้อไม่เละและสุกเกรียมพอดี
หลนเต้าหู้ยี้ สูตรพื้นบ้าน ได้กลิ่นหอมของเต้าหู้ยี้โฮมเมดอย่างดีเครื่องสมุนไพรอย่างมะกรูด ตะไคร้ ที่ใส่ลงไป และได้รสชาติหวานของกะทิ มีความกลมกล่อม ทานกับผักเครื่องเคียงพื้นบ้านปลอดสารเคมี เป็นเมนูที่ติดใจในรสชาติจนต้องซื้อกลับบ้าน
ต้มยำไก่ฉีกหัวปลีย่าง ปกติจะคุ้นเคยกับยำหัวปลีไก่ฉีกแบบแห้ง ครั้งนี้ลองทานแบบต้มยำบ้าง เคล็ดลับของทางร้าน คือ การคั่วเครื่องต้มยำให้หอม ใช้หัวปลีย่างที่สุกพอดี ไก่ฉีกเนื้อนุ่มทานกับน้ำต้มยำรสชาติกลมกล่อม ที่มาครบทั้งความเปรี้ยวของมะนาวสด หวาน เค็ม เผ็ดกำลังดี ต่อด้วย ขนมจีนซาวน้ำสูตรโบราณ ที่หาทานได้ไม่ง่ายนัก และถึงหาทานได้ก็หาร้านที่ทำเมนูนี้ได้ถูกปากค่อนข้างยาก แต่มาพบกับความอร่อยของเมนูนี้ได้ที่ Blue Hawaii ขนมจีนเส้นนุ่ม ราดด้วยน้ำกะทิสดแบบออแกนนิค รสชาติหวานมัน ทานคู่กับเครื่องเคียง กุ้งแห้งป่น กุ้งสด พริกกระเทียม เพิ่มความเปรี้ยวด้วยสัปปะรด รสชาติอร่อยลงตัวมาก
แกงคั่วหมูย่างใบชะพลู แกงคั่วแบบไทยแท้ ทางร้านใช้เครื่องแกงทำเอง ได้ความหอมของหมูย่างและใบชะพลูสด รสชาติเข้มข้น เผ็ดกำลังดี ยำส้มโอปลากระพงทอด พิถีพิถันตั้งแต่การเลือกส้มโอต้องมีรสเปรี้ยวอมหวาน น้ำยำใส่หอมแดงออร์แกนิค จากศรีสะเกษ หอมสมุนไพรอย่างตะไคร้สด ใบสะระแหน่ หอมเจียว เนื้อปลากระพงสดแล่เอาก้างออก ทอดจนเหลืองกรอบ ตักทานกับส้มโอและเครื่องสมุนไพร รสชาติเข้ากันดีมาก
มาถึงเมนูที่คุ้นเคย หมูสามชั้นคั่วพริกเกลือ ต้องห้ามพลาดเช่นกัน เนื้อหมูนุ่ม ไร้สารเสริมและสารเร่งเนื้อแดงที่สั่งจากผู้ผลิตที่ได้รับการรับรองคุณภาพ ได้รสชาติความเค็มของดอกเกลือจากทะเลเกลือสมุทรสงคราม ที่นำเกลือบริสุทธิ์สะอาด มีความเค็มกลมกล่อม ผสมกับพริกสดที่ไม่ใส่มากจนเกินไป คนที่ทานเผ็ดไม่ได้สามารถทานได้แบบสบายๆ เมนูอาหารคาวทั้งหมดราคาอยู่หลักร้อยต้นๆ เท่านั้น ซึ่งไม่แพงเมื่อเทียบกับคุณภาพของวัตถุดิบที่เลือกใช้
อิ่มท้องทั้งเมนูคาว หวาน และเครื่องดื่มในสไตล์รักสุขภาพ รสชาติโดนใจไปเบบเต็มๆ แถมบรรยากาศยังสบายเป็นกันเอง Blue Hawaii Coffee & Local Eatery ร้านอาหารและร้านกาแฟ ที่จะทำให้คุณรู้สึกว่า ผ่อนคลายทั้งบรรยากาศและมีความสุขไปกับอาหารรสชาติอร่อยที่คัดสรรวัตถุดิบคุณภาพมาเป็นอย่างดี
Blue Hawaii Coffee & Local Eatery
พิกัด ถนนแสงชูโต ตำบลบ้านใต้ เทศบาลเมืองกาญจนบุรี
เปิดให้บริการ ตั้งแต่เวลา 09:00 น. – 19.00 น. (หยุดทุกวันจันทร์)
โทร 065 961 5639