เกาะสีชัง One Day Trip เที่ยวครบจบในวันเดียว ประหยัดเวลา ประหยัดงบ
อยากสูดกลิ่นทะเลให้ชื่นปอด แต่เวลามีน้อยนิด เกาะสีชัง คือ คำตอบ สามารถเที่ยวได้ในวันเดียว ไม่ต้องจ่ายแพง เตรียมตัวให้พร้อม แล้วออกไป เที่ยวเกาะสีชัง 1 วัน ครบจบทุกไฮไลท์ ไม่ว่าจะชิลล์ริมทะเลที่หาดถ้ำพัง ชมสะพานอัษฎางค์สะพานไม้สีขาวคลาสสิค ชมวิวสวยหลักล้านที่ช่องเขาขาด ไหว้พระขอพรที่ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รอยพระพุทธบาท แถมยังเดินทางสะดวก งบประมาณไม่บานปลาย เตรียมกล้องให้พร้อม แล้วออกไปเก็บภาพความประทับใจกันเลย

เริ่มต้นเดินทาง ขึ้นเรือที่เกาะลอย
เกาะสีชัง เป็นเกาะกลางทะเล ต้องนั่งเรือข้ามไป เริ่มต้นปักหมุดมาที่ เกาะลอย ท่าเรือไปยังเกาะสีชัง สำหรับใครที่นำรถส่วนตัวมา สามารถมาจอดรถไว้ที่เกาะลอยได้เลยค่ะ มีที่จอดรถหลายจุดมาก จอดฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย ภายในพื้นที่เกาะลอยกว้างขวาง มีห้องน้ำ ร้านค้า ร้านอาหารหลายร้าน และมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้ไหว้หลายจุด เราจะไหว้ก่อนไปเที่ยวเกาะหรือหลังกลับจากเกาะก็ได้
รอบเรือไปเกาะสีชัง
รอบเรือไปเกาะสีชังมีออกทุกชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ 7 โมงเช้า จนถึง 18.00 น. ส่วนรอบเรือจากเกาะสีชังมาเกาะลอย เริ่มตั้งแต่ 6.30 น. -18.00 น. ค่าเรือโดยสารเที่ยวละ 60 บาท ไปกลับ 120 บาท มาซื้อตั๋วตรงจุดขึ้นเรือได้เลย ไม่ต้องจองล่วงหน้า ใช้เวลาเดินทาง 45 นาที โดยประมาณ
ถึงเกาะสีชัง เที่ยวต่อยังไง
มาถึงแล้วก็ต้องหารถเที่ยวรอบเกาะ มีให้เลือก 2 แบบ
- เช่ามอเตอร์ไซต์ราคาวันละ 200-250 บาท บนเกาะไม่มีรถเก๋งให้เช่า
- เหมารถสกายแลป (นั่งได้ 2 คน ) ราคาขึ้นอยู่กับจุดท่องเที่ยวที่แวะเริ่มต้น 300-700 บาท
เรานั่งเรือมาถึงเกาะสีชังประมาณ 10 โมง เลือกเหมารถสกายแลป เพราะขับมอเตอร์ไซต์ไม่เป็น และถึงขับเป็นก็คิดว่าถ้าเราขับรถไม่เข็งก็ไม่ควรเพราะเส้นทางขึ้นเขาเยอะ และอากาศร้อนด้วย สู้แดดไม่ไหว เหมาสกายแลปดีกว่า สะดวกและไม่ต้องตากแดด โดยคนขับจะมีใบแจ้งราคาให้เราดูก่อนว่าเราจะเลือกแบบไหนพร้อมราคา เราเลือกแบบเที่ยวจำนวน 6 จุด ราคา 500 บาท เวลาเที่ยวแล้วแต่เราเลยค่ะ เที่ยวเท่าที่ไหว เริ่มจาก ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ รอยพระพุทธบาท ช่องเขาขาด หาดถ้ำพัง ถ้ำทะลุ สะพานอัษฎางค์ ซึ่งจุดท่องเที่ยวหลักๆ ของ เกาะสีชังจะมีแค่ประมาณนี้ สามารถเที่ยวได้ครบใน 1 วัน แบบสบายๆไม่เร่งรีบ
จุดแรก ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่
นั่งสกายแลปมาถึงจุดแรก ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่มีสถาปัตยกรรมแบบจีน อยู่คู่กับเกาะสีชังมานาน และมีขึ้นชื่อในเรื่องของความศักดิ์สิทธิ์มาก ใครมาบนบานศาลกล่าวอะไร ก็มักจะสมหวัง สายมูต้องมา เจ้าพ่อเขาใหญ่ตั้งอยู่บนเนินเขาสูง มีการจัดทำบันได้ให้เดินขึ้นไป หรือหากใครไม่อยากเดินหลายขั้น ก็รอรางรับส่งนำขึ้นไปค่ะ ก็จะไปถึงข้างบนโดยที่ไม่ต้องเดินให้เหนื่อย
มาถึงแล้วจะเจอกับรูปปั้นเจ้าแม่กวนอินและองค์เทพจีนต่างๆ ทั้ง เจ้าแม่กวนอิม พระสังกัจจายน์ ไหว้ขอพรตรงจุดนี้ก่อน รู้สึกได้ถึงความขลังเลยค่ะ
จากนั้นเดินไปขอพร เจ้าพ่อเขาใหญ่ ที่ประดิษฐานอยู่ภายในถ้ำ องค์เจ้าพ่อเป็นนหินแกะสลักและปิดทองรอบองค์ภายนอก มองแล้วน่าเกรงขาม แอบขนลุก รู้สึกได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ โดยเฉพาะในช่วงตรุษจีนนักท่องเที่ยวจะเนืองแน่นมากๆ โดยเฉพาะชาวจีนทีนิยมมากันค่ะ
จุดต่อไป คือ เจ้าพ่อเห้งเจีย นิยมมาขอพรให้ประสบความสำเร็จ สามารถฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ การเงินคล่องแคล่วว่องไว เสริมดวงแก้ปีชง นึกขึ้นได้ว่าปีนี้เราก็ชงร่วม และยังไม่ได้ทำพิธีแก้ชงก็ได้แก้ที่นี่ไปเลย มีชุดให้แก้ชงราคาชุดละ 100 บาท ได้ทำพิธีแก้ปัดเป่าสิ่งไม่ได้แล้ว ก็รู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูก
ไหว้ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็ออกมายืนชมวิวบริเวณระเบียงข้างนอก วิวสวยมากมองเห็นบ้านเรือนชุมชน รวใทั้งวิวทะเลได้แบบกว้างไกล
จุดที่ 2 มณฑปรอยพระพุทธบาท
นั่งรถไปกันต่อ ที่อีกหนึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของเกาะสีชัง มณฑปรอยพระพุทธบาท ตั้งบนจุดสูงสุดของเกาะสีชัง ภายในมณฑปสีขาวมีรอยพระพุทธบาทขนาดเล็ก พระพุทธบาทและมหาเจดีย์ รวมถึงพระพุทธรูปให้กราบไหว้ จากจุดนี้จะมองเห็นวิวของบ้านเรือนบนเกาะสีชังรวมถึงสะพานปลาที่ทอด ภายในมรดกสีขาวมีรอย
จุดที่ 3 จุดชมวิวช่องเขาขาด
จุดชมวิวช่องเขาขาด สามารถมองเห็นวิวของแหลมมหาวชิราวุธ ที่ทอดยาวไปกลางทะเล อดีตเคยเป็นที่ตั้งพลับพลาที่ประทับชมทิวทัศน์ของรัชกาลที่ 5 ที่นี่สามารถมองเห็นได้ทั้งเกาะ หน้าผา และทะเล มีสะพานและเส้นทางเดินไปจนถึงปลายสุดของแหลม รวมถึงมีศาลานั่งเล่นและระเบียงชมวิวให้ชมด้วย เราไม่ได้เดินลงไปค่ะเพราะแดดค่อนข้างร้อน ที่นี่ยังเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามของเกาะสีชัง
จุดที่ 4 หาดถ้ำพัง
จุดต่อไป หาดถ้ำพัง ชายหาดเพียงแห่งเดียวของเกาะสีชัง ไม่ได้มาที่นี่นานเปลี่ยนแปลงไปเยอะ แต่น้ำทะเลยังใสและหาดทรายยังขาวเช่นเดิม บริเวณชายหาด มีเก้าอี้นั่งชายหาดให้นั่งเล่นด้วยสีสันสดใสทันสมัยเชียวส่วนใครที่เป็นสายกิจกรรมที่นี่ยังมีเรือคายัคให้บริการเช่าด้วยราคา 200 บาท พร้อมสอนให้ด้วยค่ะ
จุดที่ 5 ถ้ำทะลุ
ถ้ำทะลุ เป็นช่องหินเล็กๆที่โผล่ขึ้นริมทะเล มีทางบันไดให้เดินลงไปข้างล่างเพื่อถ่ายรูป มีช่องหินตรงกลาง มองไปก็จะเห็นเป็นรูปล่างช่ำทะลุแต่เราไม่ได้เดินลงไปค่ะ เพราะมีนักท่องเที่ยวต่อคิวค่อนข้างเยอะ ต้องรอคิวถ่ายภาพ เรามีเวลาค่อนข้างจำกัด
จุดที่ 6 พระจุฑาธุชราชฐาน
พระจุฑาธุชราชฐาน พระราชวังบนเกาะแห่งเดียวในประเทศไทย สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 เป็นจุดท่องเที่ยวบนเกาะสีชังที่เราชอบมากที่สุดบรรยากาศเงียบสงบเพราะเป็นเขตพระราชทานเป็นเขตวังน้ำทะเลใสมากๆแต่ไม่อนุญาตให้เล่นน้ำค่ะแต่สามารถถ่ายรูปได้
ไฮไลท์ของที่นี่ คือ สะพานอัษฎางค์ สะพานสีขาวและมีศาลานั่งเล่นทอดยาวไปกลางทะเลมาที่นี่หลายครั้งแล้วแต่ไม่ได้มีโอกาสไปถ่ายรูปบนสะพานเลยเพราะปรับปรุงตลอดรอบนี้ถือว่าสำเร็จแล้วมีรูปคู่กับสะพานสักที
ภายใน พระจุฑาธุราชสถาน มีเรือน 3 หลัง ได้แก่ เรือนวัฒนา เรือนผ่องศรี และเรือนอภิรมย์ และยังมีพระเจดีย์อุโบสถวัดอัษฎางคนิมิ และมีเรือนไม้ริมทะเล อาคารไม้สีเขียว ปัจจุบันเป็นสำนักงาน ส่วนบริการนักท่องเที่ยว และจัดแสดงนิทรรศการสถานที่น่าสนใจในเกาะสีชัง ที่ถูกปรับปรุงเป็นร้านกาแฟ่ ขายเครื่องดื่ม อากาศร้อนร้อนก็มาสั่งน้ำดื่มและจิบกาแฟชมวิวทะเลได้
พระจุฑาธุราชสถานมีต้นลีลาวดีเยอะมาก ทำให้มีความร่มรื่น มีที่นั่งใต้ต้นไม้มองไปก็จะเห็นวิวทะเลสวยงามสวยงาม และน้ำทะเลก็ใสมากด้วย
เที่ยวเกาะสีชัง 1 วัน ใช้เวลาใช้เวลาเที่ยวประมาณ 4 ชั่วโมง ครบทั้งหกจุด จากนั้นพี่คนขับสกายแลปไปส่งขึ้นเรือรอบบ่าย 2 โมง ถือว่าเที่ยวได้ครบมาก คุ้มค่าในหนึ่งวันแถมค่าใช้จ่ายหลักร้อย มาถึงท่าเรือเกาะลอยประมาณบ่าย 3 ก็สามารถไหว้พระสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่อที่ท่าเรือเกาะลอยหรือจะไปเดินเล่นที่สะพานสีม่วงก็ได้ค่ะ
บทความเกี่ยวกับเกาะสีชัง