ป่าบงเปียง ชมนาข้าวขั้นบันได พักโฮมสเตย์สุดฟิน
พาไปฮีลใจอยู่กับธรรมชาติ พักโฮมสเตย์ ที่ ป่าบงเปียง ยิ่งเข้าสู่ฤดูฝน ป่าบงเปียงจะฮอตเป็นพิเศษ เพราะเป็นสถานที่ชมวิวนาข้าวขั้นบันได ไฮไลท์ คือ ช่วงเย็นจะได้ชมพระอาทิตย์และแสงสวยสีทองยามเย็น ส่องกระทบทิวเขาและนาข้าว เป็นภาพที่อบอุ่นสวยงาม ยามเช้ายังได้มีโอกาศชมสายหมอกที่ลอยคลอเคลียภูเขาสูงได้จากบ้านพัก มาถึงป่าบงเปียงต้องมาพักโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่ให้บริการหลายแห่ง ตั้งเรียงรายอยู่ริมนาข้าว นั่งนอนมองวิวนาเขียวสดชื่นได้จากหน้าบ้าน หรือจะเดินเล่นถ่ายรูปตามร่องนาข้าว หามุมสวยก็เพลินไปอีกแบบ
ป่าบงเปียง ตั้งอยู่ที่ไหน
ป่าปงเปียง ตั้งอยู่ในอำเภอแม่แจ่ม จังหวัดเชียงใหม่ เส้นทางเดียวกับดอยอินทนนท์ เลี้ยวในเส้นทางเดียวกับ แม่แจ่ม ซึ่งจะเป็นทางเลี้ยวก่อนขึ้ยนไปยังจุดชมวิวสูงสุดดอยอินทนนท์ ให้ปักหมุดมาที่ “หน่วยพิทักษ์น้ำตกแม่ปาน (แม่แจ่ม)” ก่อน จะเป็นซอยเล็กๆให้เลี้ยวเข้า มีป้ายบอกไปป่าบงเปียงเล็กๆอยู่ข้างหน้า ก็เลี้ยวเข้าไปเลย ถนนราดยางและช่วงสุดท้ายเป็นคอนกรีตตลอดสาย รถทุกชนิดไปได้ ทางแคบนิดหน่อย แต่ไม่ชันขับรถไม่ยาก
ช่วงเวลาท่องเที่ยว
การท่องเที่ยวป่าบงเปียง อยากชมบรรยากาศช่วงการดำนา คือ ในช่วงเดือนก.ค.-กลางส.ค. ซึ่งต้นข้าวยังเป็นต้นกล้าเล็กไม่เต็มพื้นที่ทำให้สามารถมองเห็นพื้นน้ำของท้องนาในช่วงเวลานี้เหล่าบรรดาช่างภาพบอกกันว่ายามเย็นแสงสีทองของพระอาทิตย์จะสะท้อนกับพื้นน้ำก็จะได้ความงดงามไปอีกแบบ แต่ถ้าอยากเห็นข้าวเขียวขจีเต็มท้องทุ่งช่วงเดือนก.ย. – ต้นต.ค. สวยที่สุด หากอยากได้สีทองของรวงข้าวให้มาในช่วงปลายเดือนต.ค.-กลางพ ย
รู้ก่อนเที่ยวป่าบงเปียง
ที่พักป่าบงเปียง เกือบทุกที่เป็นแบบกระท่อมเรียบง่าย ไม่มีแอร์ พัดลม แต่อากาศเย็นสบาย บ้านพักทุกที่ยังไม่มีไฟฟ้า มีแต่ไฟฟ้าส่องสว่างจากโซลาเซลล์ในยามค่ำของที่พัก ไม่มีจุดชาร์ตไฟ เพราะฉะนั้นชาร์ตแบตก่อน และเตรียมพาวเวอร์แบงค์มาให้พร้อม รวมทั้งไฟฉายส่วนตัวด้วย ส่วนสัญญาณโทรศัพท์ AIS สัญญาณดี แต่ค่ายอื่นไม่แน่ใจ
สำหรับการมาเที่ยวป่าบงเปียงครั้งนี้ เราพักที่ บ้านพักน้องน้ำพุ เป็นบ้านพักป่าบงเปียง ที่เพิ่งเปิดได้มาซักพัก ยังไม่มีคนรู้จักมาก แต่วิวปังมาก และบ้านพักค่อนข้างใหม่ เหตุผลแรกที่เราเลือกพักที่นี่ คือ บ้านพักเป็นแบบบ้านแผดคู่กันสองหลัง ตั้งอยู่ข้างบนสุด ติดถนน และมีที่จอดรถส่วนตัวอยู่ในพื้นที่บ้านดีตรงนี้ไม่ต้องจอดริมถนน เพราะค่อนข้างเสี่ยง และไม่ต้องเดินถือสัมภาระลงไปพักยังบ้านกลางนา ซึ่งไม่ค่อยสะดวกสำหรับเราเพราะของใช้ส่วนตัวเยอะ และตามที่บอกอยากเห็นวิวนาเป็นชั้นบันไดให้พักข้างบนไว้
บ้านพักน้องน้ำพุมี 2 โซน แต่เราเลือกพักบ้านแฝด มี 2 หลัง คู่กัน พักได้หลังละ 2 คน คิดราคาคนละ 700 บาท รวมอาหารเช้า เย็น ถ้ามาคนเดียวคิด 1000 บาท เราพักบ้านหลังที่ 1 มุมซ้าย เพราะดูวิวแล้วค่อนข้างสวยกว่าหลังขวา คือ หลังที่ 2 ทั้งสองหลังมีบันได ขึ้นไปยัระเบียงดาดฟ้า เพื่อชมวิวในมุมสูงได้แบบกว้างมาก รวมทั้งชานระเบียงหน้าห้องนอนสำหรับนั่งเล่น มองเห็นวิวนาข้าวขั้นบันได้แบบเต็มๆ ไม่มีต้นไม้มาหรืออะไรมาบังสายตา
ภายในห้องนอน มีเตียงมุ้ง ห้องน้ำส่วนตัวอยู่ด้านข้าง ค่อนข้างสะอาด
มื้อเย็นมาเสิร์ฟประมาณ 5 โมง กับข้าวทั้งหมด 5 อย่าง มี ไข่เจียว น้ำพริกปลากระป๋อง ต้มจืดยอดฟักทอง มะระผัดไข่ บวบผัดไข่ อาหารรสชาติดี แต่น้ำพริกปลากระป๋องจะติดไปทางหวานไปนิด นั่งกินฟินๆ มองวิวทุ่งนา ระหว่างรอแสงเย็น
ช่วงเวลาที่รอคอยมาถึงแล้ว แสงยามเย็นเริ่มสาดส่อง กระทบภูเขาและนาข้าวให้กลายเป็นสีเขียวเหลืองจากแสงแดด
แสงสวยก็หามุมถ่ายรูปวนไป มุมเดิมแต่แสงสีเปลี่ยนตลอด
ขึ้นไปชมวิวบนดาดฟ้าบ้าง เพราะข้างบนจะเห็นวิวได้สูงและรอบทิศมากกว่า ข้างหน้า คือ วิวแบบนี้ มองเห็นกระท่อมชาวนาเช่นเดิม แค่แสงเปลี่ยนไป
วิวบ้านพักอื่นๆ มองจากบ้านน้องน้ำพุ
เมื่อแสงเริ่มสาดส่องจ้ายิ่งสวยมากขึ้น เป็นที่พักที่วิวดีจริงๆ ดีแบบไม่ต้องเดินไปเก็บภาพตรงจุดไหน แค่ชมวิวหน้าบ้านก็เต็มอิ่ม ยกให้เป็นบ้านพักที่วิวสวยที่สุดของป่าบงเปียง เพราะตั้งอยู่ในองศาที่พอดีเป๊ะกับพระอาทิตย์ ทิวเขาและทุ่งนา อย่างบ้านพักอื่นๆเท่าที่ดูมาจะมีต้นไม้หรือบ้านมาบังขัดตาแบบใกล้ไปสักนิด ส่วนบ้านพักน้ำพุ วิวกว้างแบบ 360 องศามองได้รอบทิศ
เป็นการถ่ายภาพในมุมเดิมที่กดชัดเตอร์รัวที่สุด สวยแบบไม่อยากละสายตา
ชมแสงเย็นแล้ว ตื่นมาตอนเช้ามาชมทะเลหมอกต่อ ทะเลหมอกถ้าอยากเห็นแบบใกล้ชิด ให้เดินลงไปข้างล่าง ในภาพ คือ กระท่อมชาวนา ที่เรามองจากข้างบนเห็นจากบ้านน้องน้ำพุ
สายหมอกลอยไปมา มีเยอะบ้างน้อยบ้างตามจังหวะ เพราะเป็นหมอกฝน ถ้าฝนตกเยอะ ก็มีโอกาสได้เห็นทะเลหมอกเยอะขึ้น
นั่งชมวิวหน้าที่พักต่อ พร้อมทานอาหารเช้าไปด้วย
ที่พักป่าบงเปียง
ป่าปงเปียง มีที่พักในรูปแบบบ้านพักกระท่อมริมนาหลายแห่ง ซึ่งแต่ละที่มองเห็นวิวทุ่งนาในพิกัดที่ต่างกัน แนะนำหาอยากเห็นวิวของนาข้าวขั้นบันได้สวยๆ ให้พักข้างบนใกล้ถนนเพราะจะเห็นชัดเจนกว่าบ้านพักที่อยู่กลางนาข้างล่าง ยิ่งอยู่ข้างล่างมากเท่าไหร่จะเห็นนาข้าวเป็นขั้นบันไดน้อยลง แต่อาจมีโอกาสเห็นสายหมอกได้แบบใกล้ชิดในยามเช้าถ้าบังเอิญวันนั้นมีหมอก หากมาเที่ยวให้จองล่วงหน้าไม่ต่ำกว่า 1 เดือน ภาพป่าบงเปียงในมุมสูงในช่วงปลายเดือนสิงหาคม จะเห็นว่าปัจจุบันมีที่พักตั้งเรียงรายมากมายเต็มทุ่งนา เพราะที่นี่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง
ที่พักป่าบงเปียง ที่ตั้งอยู่ด้านบน ซึ่งในโซนนี้ มี มาฉิโพ บ้านพักวีรศักดิ์เดิม ม่อนนาโฮมสเตย์
มาฉิโพ ที่พักมี 2 โซน โซนแรก อยู่ติดริมถนน มีคาเฟ่ด้วย แวะมานั่งเล่นได้ องศาในการเห็นวิวจะประมาณนี้
ถัดไปอีกโซนบ้านดาดฟ้าสุดฮอต ซึ่งเป็นของมาฉิโพ วิวนาจะยังคงเห็นนาข้าวขั้นบันไดได้สวยอยู่ เพราะตั้งอยู่ข้างบน และมีดาดฟ้าชมวิว
ติดกับมาฉิโพ คือ วีรศักดิ์ โฮมสเตย์
บ้านวีรศักดิ์หลังใหม่ เป็นบ้านหลังใหญ่ มีระเบียงสำหรับนั่งชมวิว องศาในการเห็นวิวจะไม่ต่างกับบ้านน้องน้ำพุ
ม่อนนาโฮมสเตย์ มีคาเฟ่แต่วันที่ไปปิด
บ้านกระท่อมชาวนา เรียงลดหลั่นกัน 3 หลัง เป็นบ้านแบบกระท่อม ซึ่งหากพักตรงนี้ ตามที่บอกว่าองศาการเห็นวิวจะบ้านพัก จะไม่เห็นเป็นขั้นบันไดมากนัก แต่จะได้วิวของทุ่งนาที่อยู่รายล้อม และต้องเดินขนสัมภาระลงไปยังบ้านพัก
บ้านที่มีดาดฟ้าอยู่ไม่ไกล ชื่อ บ้านพักรีวิว องศาตั้งอยู่ริมเนินเขา ไม่เห็นเป็นวิวนาข้าว แต่จะเป็นวิวภูเขาแทน และตอนเช้าหมอกปะทะแบบเต็มๆ ตามที่บอกยิ่งอยู่ลงไปข้างล่างเท่าไหร่ จะยิ่งมองไม่เห็นวิวนาขั้นบันได แต่จะเป็นวิวภูเขาแทน
ยามเช้าบ้านพักรีวิวอยู่ใกล้หมอกมากๆ
บ้านพักที่เป็นกระท่อมขนาดใหญ่ มีทุ่งนาเป็นวงกลม ชื่อว่า กระท่อมลอเอะ อยู่ข้างล่างสุด
ระเบียงนา คอฟฟี่
พามาชมบ้านพักที่ฮอตอีกโซน บ้านระเบียงนา เพราะตั้งใจจะไปร้านกาแฟ พิกัดจะอยู่คนละฝั่งกับมาฉิโพและบ้านน้ำพุ ขับรถออกมานิดนึง
มีที่นั่งชมวิวเก๋ๆ นั่งชิลมากไม่อยากลุกเลย องศาในการมองเห็นนาข้าวชั้นบันไดจะอยู่อีกฝั่งของโซนป่าบงเปียงทั้งหมด ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน
บ้านพักของระเบียงนา มองเห็นวิวนาข้าวขั้นบันไดประมาณนี้
ถนนในป่าบงเปียง เป็นถนนคอนกรีต รถทุกชนิดเข้าไปได้หมดค่ะ
ป่าบงเปียง อีกหนึ่งความสุขสีเขียว ที่สายรักธรรมชาติภูเขา สายหมอก ต้องหาเวลามาชมวิวนาข้าวขั้นบันได้สุดอลังการที่คลอเคล้าแสงสวยในยามเย็น มาพักผ่อนที่นี่รับรองได้พักชาร์ตแบตกลับไปเต็มเปี่ยม
TAG:
หมวดหมู่
