เกาะยอ…ขอไปชิลหน่อย 10 จุด กิน เที่ยว ถ่ายรูป So good
เกาะยอ เกาะกลางทะเลสาบสงขลา มีสะพานติณสูลานนท์พาดผ่าน เป็นเกาะที่เงียบสงบมีความป็นวิถีชีวิต มีโฮมสเตย์ของชาวบ้านให้ได้พักผ่อน มีกระชังปลาเรียงรายกลางทะเลสาบกลายเป็นภาพที่สวยงาม โดยเฉพาะในยามเย็นที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า มีความเป็นธรรมชาติ ความเงียบสงบ แต่ที่เพิ่มเติม คือ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร บรรยากาศฟีลกู๊ดริมทะเลสาบเกิดขึ้นมาหลายร้าน ทำให้เกาะยอมีมุมของความชิคที่น่าจะถูกใจใครหลายคนมากขึ้น
รู้จักเกาะยอ
เกาะยอ ตั้งอยู่ในตำบลเกาะยอ อำเภอเมืองสงขลา ห่างจากตัวเมืองโดยใช้เวลาเดินทางไม่ถึง 20 นาที เป็นเกาะที่ตั้งอยู่ในทะเลสาบสงขลาโดยมีสะพานติณสูลานนท์เชื่อมระหว่างถนนบนฝั่ง สะพานมี 2 ช่วง ช่วงที่ 1 เชื่อมระหว่างอำเภอเมืองสงขลาไปยังเกาะยอ ช่วงที่ 2 จากเกาะยอไปยังอำเภออื่นๆ เกาะยอมีภูมิทัศน์ที่สวยงามมีทั้งภูเขา ที่ราบ แหลม อ่าว ซึ่งเป็นลักษณะที่โดดเด่นกว่าตำบลอื่นๆ และมีสะพานติณสูลานนท์ เชื่อมระหว่างเกาะยอกับตำบลใกล้เคียงทำให้มีทิวทัศน์ที่สวยงาม
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นไหล่เขาและที่ราบตามเชิงเขา เหมาะแก่การเกษตรกรรม จึงมีการทำสวนผลไม้ แบบ สุมรุม หมายถึงผลไม้จะผลัดกันให้ผลผลิตตลอดปี เช่น ส้มโอ มะพร้าว ขนุน ผลไม้ที่มีชื่อเสียงที่สุดคือ จำปาดะ ซึ่งสามารถนำไปทอดเหมือนกล้วยแขก หรือจะกินเป็นผลไม้แบบขนุนก็ได้นอกจากนั้น เกาะยอมี “ผ้าทอเกาะยอ”ซึ่งเป็น ผ้าพื้นเมือง ที่มีชื่อเสียงและได้รับความนิยมจากผู้นิยมสวมใส่ผ้าไทย มีลายที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ลายราชวัตถ์ ดอกพิกุล ดอกพะยอม
เกาะยอ เป็นแหล่งเลี้ยงปลากะพงขาวในกระชังในทะเลสาบสงขลา ทำให้บนเกาะมีร้านอาหารชั้นดีมากมาย ตำบลเกาะยอเป็นตำบลหนึ่งที่มีชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยว ได้รับรางวัลหมู่บ้านท่องเที่ยว OTOP Village Champion ปี 2549 เกาะยอเป็นเกาะที่สามารถเที่ยวได้แบบเช้าเย็นกลับ หรือจะพักค้างคืนสัมผัสบรรยาศมีรีสอร์ท และโฮมสเตย์ของชาวบ้านให้เลือกพักหลายแห่ง และเป็นเกาะที่สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี จะมาเที่ยวช่วงไหนก็ได้หมด
การเดินทางมาเกาะยอ
การเดินทางมาเกาะยอง่ายมากแค่เพียงขับรถข้ามสะพาน จะขับรถส่วนตัวมาเองหรือจะนั่งรถโดยสารมาจากตัวเมืองสงขลามาลงที่เกาะก็มีรถผ่านตลอด แต่ถ้าจะเที่ยวรอบเกาะแวะยังจุดต่างๆ ต้องมีรถส่วนตัว จะเช่ารถมอเตอร์ในตัวเมือง หรือเช่ารถเก๋งมาจากสนามบินหาดใหญ่หรือจากในตัวเมืองสงขลาขับมาเที่ยวเกาะยอก็ได้ ถนนรอบเกาะยอเป็นถนนคอนกรีตสะดวกสบายแต่ถนนบางช่วงจะแคบซักนิดนึง เรานั่งเครื่องบินไฟท์เช้าประมาณ 9 โมง ครึ่งมาถึงที่หาดใหญ่จากนั้นเช่ารถเก๋งจากสนามบินโดยใช้บริการของบริษัทให้เช่ารถในพื้นที่หาดใหญ่ บ. เซาเทิรน์คาร์เรนท์ บริการดี รถโอเค โทร 064 162 4645 เว็บไซต์ https://www.southerncarrent.com/โดยติดต่อเช่าไว้ล่วงหน้า จากสนามบินหาดใหญ่ขับมาถึงเกาะยอใช้เวลาประมาณ 45 นาที
10.30 น. จุดหมายแรก วัดแหลมพ้อ
จากตัวเมืองมาข้ามสะพานติณฯมาเล็กน้อย จะมองเห็นพระนอนองค์ใหญ่ เตรียมชิดซ้ายเลี้ยวเข้ามายังวัดได้ เพราะวัดตั้งอยู่ริมถนน วัดแหลมพ้อ เป็นวัดที่เก่าแก่และสำคัญวัดหนึ่ง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดสงขลา ประดิษฐาน พระนอนปางไสยาสน์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย พระบาทมีลวดลายภาพศิลปะ ทั้งนี้เนื่องด้วยที่ตั้งวัดอยู่ใกล้ถนนเชิงสะพานติณสูลานนท์ฝั่งเกาะยอ จึงทำให้เป็นสิ่งที่สะดุดตาของผู้ที่ขับรถผ่านไปมา
พระนอนแหลมพ้อ เป็นพระพุทธรูปปางปรินิพพานที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ประดิษฐานบนฐานที่ไม่สูงมากนักอยู่ใกล้เชิงสะพานติณสูลานนท์ฝั่งเกาะยอ องค์พระนอนวัดแหลมพ้อ เป็นชื่อเรียกของพระพุทธรูปลักษณะบรรทม (นอน) ตะแคงเบื้องขวา หลับพระเนตร พระเศียรหนุนพระเขนย (หมอน) พระหัตถ์ซ้ายทอดทาบไปตามพระวรกาย พระหัตถ์ขวาวางหงายอยู่ข้างพระเขนย พระบาทซ้ายทับซ้อนพระบาทขวา ส่วนของพระบาทจะมีลวดลายภาพศิลปะของภาพมงคล 108 ประการที่สวยงาม
พระอุโบสถของวัดแหลมพ้อตั้งอยู่บริเวณกลางลานวัดริมทะเลสาบสงขลา เป็นอุโบสถเก่าแก่ มีลวดลายหน้าบันของอุโบสถสวยงาม และเก่าแก่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ มีพระเจดีย์ตั้งอยู่ทิศเหนือของอุโบสถ เป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูนตั้งอยู่บนฐานสี่เหลี่ยม
นอกจากปูชนียสถานที่สำคัญ พระพุทธรูปปางปรินิพพานองค์ใหญ่ที่สวยงามแล้ว ยังมี ศาลาพระพรหม เจ้าแม่กวนอิม และพระพุทธรูปปางมารวิชัย ที่มีชื่อว่า สมเด็จเจ้าเกาะยอ พระพุทธรูปปูนปั้น พระพุทธรูปปางเปิดโลก ศาลาท้าวมหาพรหม ศาลาพระถังซัมจั๋ง ศาลาพระโพธิสัตว์กวนอิม
ด้านหลังวัดมีระเบียงชมวิว กว้างขวาง สำหรับชมวิวทะเลสาบสงขลา มองไปเห็นสะพานติณสูลานนท์ไม่ไกล
11.00 น. นั่งเล่นหน้าเล Bistro Cafe
เที่ยงแล้วได้เวลาหาอะไรทาน จากวัดแหลมพ้อผ่านถนนสายเล็กๆ บนเกาะเพื่อไปยังร้านนั่งเล่น หน้าเล ซึ่งตั้งอยู่ไม่ไกลจากวัด เป็นคาเฟ่และร้านอาหารในบ้านไม้คลาสสิคเก่าแก่ ที่นำมาตกแต่งเป็นร้านกาแฟ ถ่ายรูปสวย บรรยากาศดี ภายในร้านตกแต่งสไตล์วินเทจ ตั้งอยู่ตรงข้ามกับทะเลสาบสงขลา สามารถมองเห็นวิวได้จากตัวร้าน เป็นคาเฟ่ที่ได้บรรยากาศแบบอบอุ่นกันเองเหมือนนั่งเล่นอยู่ภายในบ้านส่วนตัว ร้านเป็นบ้านไม้สองชั้น ด้านหน้าเป็นสนามหญ้าพร้อมที่นั่งกลางแจ้ง ร้านจะไม่ติดริมทะเลสาบแต่ตั้งอยู่ฝั่ตรงข้ามกันที่สามารถมองเห็นวิวได้ไม่ไกล ร้านไม่มีที่จอดรถสามารถจอดรถได้ตามเลียบฝั่งถนน
ภายในร้านเป็นแบบโอเพ่นร์ทั้งหมด ด้านหน้าเป็นเคาน์เตอร์สั่งอาหาร และตู้แช่เบอเกอรี่ ที่มีให้เลือกมากมาย ที่นั่งภายในร้านเน้นเป็นเก้าอี้ไม้ โซฟา ตกแต่งแบบวินเทจ มีป้ายชั้นเรียน อนุบาล ปฐม ติดไว้บริเวณเสาคานของบ้านดูน่ารักดี
ที่นี่บริการ กาแฟสด เครื่องดื่ม เค้ก อาหารว่าง มีกับข้าวและอาหารจานเดียว ผัดหมี่เบตง พิซซ่า สเต็ก สปาเกตตี้ สุกี้ ยำ ของทอด ของทานเล่น โรตีแกงมัสมั่นไก่ ฮันนี่โทส บราวนี่ไอติม อาหารรสชาติค่อนข้างดี
นั่งเล่นหน้าเล Bistro Cafe เกาะยอ
เปิดให้บริการ วันอังคาร – วันอาทิตย์ เวลา 10.00 น.- 20.00 น. และหยุดทุกวันจันทร์
สอบถามและสั่งอาหารล่วงหน้าได้ที่ 092 642 6599 084 193 9343
12.30 น. วัดท้ายยอ
วัดท้ายยอ อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวทางศาสนา และยังเป็นวัดเก่าแก่ของตำบลเกาะยอ เป็นวัดที่ก่อสร้างด้วยสถาปัตยกรรมล้ำค่า ควรค่าแก่การอนุรักษ์และหวงแหน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ” กุฏิแบบเรือนไทยปั้นหยา ” อายุกว่า ๒๐๐ ปี หลังคา ใช้กระเบื้องดินเผาเกาะยอและกระเบื้องลอนแบบเก่า มีจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ คือ เสาเรือนกุฏิจะไม่ฝังลงในดินแต่จะตั้งอยู่บนเสาปูน ซึ่งเป็นที่รองรับเสาอันเป็นลักษณะเฉพาะของบ้านชาวไทยในภาคใต้เท่านั้น บรรยากาศของวัดโดยรอบร่มรื่นเย็น เงียบสบมีลมทะเลพัดเข้ามาตลอด เพราะตั้งอยู่ชิดติดกับทะเลสาบสงขลา
กุฎิเรือนไทย เป็นกุฎิหมู่ 3หลัง สำหรับเจ้าอาวาส 1หลัง สำหรับพระภิกษุ2หลัง ลักษณะของกุฎิเป็นเรือนไทย ปักษ์ใต้ที่ถึงพร้อม ” มงคลสูตร ” และ ” มาตราสูตร ” ด้านหน้าหันออกสู่ทะเลสาบสงขลา มีลานกว้าง ส่วนด้านหลังเป็นเขาเรียกว่า เขาเพหาร อันหมายถึง ” วิหาร ” นั่นเอง ลักษณะเด่นของกุฏิเป็นเรือนหมู่ ๓ หลัง เรียกตามลักษณะมงคลสูตรว่า ” แบบพ่อแม่พาลูก สันนิษฐานว่าน่าจะสร้างขึ้นในช่วงรัชกาลที่ 3 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
นอกจากนั้นวัดท้ายยอ ยังมีโบราณสถานและโบราณวัตถุควรค่าแก่การศึกษาและเรียนรู้ อาทิ พระอุโบสถแบบโบราณ บ่อน้ำโบราณ หอระฆัง โรงเรือพระ สถูป และมีร่องรอยของท่าเรือโบราณ ซึ่งเคยเป็น ศูนย์กลางการคมนาคม ของชาวเกาะยอ
ด้านหลังของวัดท้ายยอเป็นที่ตั้งของ เขาเพหารหรือเขาวิหาร ซึ่งประดิษฐานเจดีย์ทรงลังกากหนึ่งโบราณสถานที่สำคัญของวัดแห่งนี้ ติดกับเจดีย์ มีพระศักดิ์สิทธิ์ คือ หลงพ่อดำ ให้ได้กราบไหว้ขอพร สำหรับการขึ้นไปยังเจดีย์ มีบันไดสำหรับขึ้นลงจำนวน150ขั้นสำหรับขึ้นไปยังเจดีย์ หรือจะนำรถส่นตัวขึ้นไปก็ได้ แต่ทางจะค่อนข้างขันเล็กน้อย ข้างบนเจดีย์มีศาลาชมวิวที่สามารถชมทัศนียภาพของเกาะยอในมุมสูง ด้านหน้าวัด มีศาลาริมน้ำสามารถชมวิวมีสะพานทอดยาว สามารถชมวิวทะเลสาบสงขลา และบ้านเรือนของชาวเกาะยอ
13.00 Cafe in คาเฟ่อิน
คาเฟ่สุดน่ารัก ตั้งอยู่ท้ายเกาะยอริมทะเลสาบสงขลา เป็นอีกหนึ่งร้านที่ห้ามพลาดเมื่อมาเยือนเกาะยอ ร้านนี้ตั้งอยู่ใกล้กับวัดท้ายยอ เป็นร้านกาแฟที่ถูกดัดแปลงจากพื้นที่เล็กๆ ด้านหลังบ้าน จัดวางโต๊ะที่นั่งเข้าไปแบบเรียบง่าย แต่มีความเก๋บวกกับบรรยากาศริมทะเล ทำให้การนั่งจิบเครื่องดื่มในร้านดูชิลล์ขึ้นมาทันที
บริเวณหน้าร้านเป็นบ้านชั้นเดียวมีรั้วล้อมรอบ ต้องสังเกตุดีๆ เพราะป้ายร้านค่อนข้างเล็ก บริเวณด้านในร้านมีที่จอดรถประมาณ 2 คัน เนื่องจากเป็นบ้านส่วนตัว แต่สามารถจอดรถบริเวณเลียบถนนใกล้ร้านได้ เมื่อเดินเข้ามาในร้านจะเจอเคาน์เตอร์สั่งเครื่องดื่ม ขนม เบอเกอรี่หลายหลายแบบ แช่อยู่ในตู้ สามารถเครื่องดื่มสั่งได้จากตรงนี้ มาถึงด้านหลังร้านจะเป็นเป็นอีกฟีลหนึ่ง ตกแต่งในโทนสีฟ้า บรรยากาศดีมาก ที่นั่งมีให้เลือกทั้งแบบอินดอร์มีหลังคา ซึ่งที่นั่งแบบเคาน์เตอร์บาร์ โต๊ะเก้าอี้ ภายในร้านตกแต่งร้านแบบเรียบง่ายแต่แฝงไปด้วยไอเดีย มีมุมน่ารักให้ถ่ายภาพเยอะ
ที่นั่งติดทะลสาบมีประมาณ 4-5 โต๊ะ พื้นร้านเป็นทรายชายหาดใต้ต้นมะพร้าว พร้อมผ้าใบสำหรับบังแดด ได้ความรู้สึกว่ากำลังนั่งเล่นอยู่ริมทะเลแบบเก๋ๆ มองไปเบื้องหน้าเห็นวิวทะเลสาบและภูเขา และบ้านเรือนของชาบ้านบนเกาะยอตลอดเวลามีลมพัดเข้ามาตลอด ได้ความรู้สึกว่าเย็นไม่ร้อนมาก แต่อาจมีเหนียวตัวนิดหน่อย
นั่งเล่นมองวิวทะเลของเกาะยอ แบบเพลินๆ ให้คะแนนในเรื่องของบรรยากาศและการบริการไปแบบเต็ม หากเบื่อบรรยากาศ ของร้านกาแฟติดแอร์ เปลี่ยนมาตากลม ชิลล์ ริมเล ก็เข้าท่าดีนะ ร้านเปิดตั้งแต่ 10:30 – 19:30 น. หยุดทุกวันอังคาร
13.30 น. คาเฟ่ชิล
ใกล้กับร้าน Cafe in คือ ร้าน คาเฟ่ชิล ซึ่งบรรยากาศตั้งอยู่ติดทะเลสาบสงขลาเช่นกัน ร้านคาเฟ่ในเกาะยอ ต้องยอมรับว่ามีร้านหลาย แต่ละร้านจะอยู่ติดริมทะเลสาบทั้งหมด ร้านนี้ขายทั้งเครื่องดื่มและมนูอาหารคาวหลายชนิด มีลูกค้าแวะเวียนกันมาตลอด ร้านมีทั้งแบบที่นั่งภายในร้าน และเป็นแบบกระท่อมริมเล ได้บรรยากาศแบบชาวบ้าน
14.00 น. จิบแฟแลเล
ขับรถย้อนกลับมายังเส้นทางเดิม เพื่อแวะไปชมบรรยากาศของร้านกาแฟบรรรยากาศดี อีกร้านหนึ่งของเกาะยอ “จิบแฟ แลเล” ร้านนี้ตั้งอยู่ไม่ไกลจากร้าน นั่งเล่นหน้าเล ที่เราแวะเป็นร้านแรก อยู่ภายในริมเลรีสอรท์ตรงมาจนสุดทางของรีสอร์ทจะเจอร้านกาแฟ ลักษณะเป็นบ้านไม้หลังคาจั่วแบบเก๋ๆ มีที่นั่งทั้งโซนภายในร้านแบบมีหลังคา และระเบียงกว้างมองวิวทะเลสาบสงขลา และ พานติณอยู่ไม่ไกล แต่ที่นั่งในโซนนี้น่าจะเหมาะกับการมานั่งเล่นในยามเย็นช มพระอาทิตย์ตก จิบเครื่องดื่มผ่อนคลาย ร้านเปิด 10.00-20.00 หยุดวันพุธ ติดกับ จิบกาแฟแลเล มีร้านคาเฟชื่อดังอีกร้าน คือ 14 café แต่เนื่องจากวันที่เดินทางไปร้านปิด เลยไม่ได้แวะ
14.30 น. สถาบันทักษินคดีศึกษา
ตะลอนทัวร์ร้านกาแฟ วิวดี บนเกาะไปแบบเต็มอิ่มแล้ว ขับรถออกมายังถนนเส้นหลักของเกาะยอ ผ่านศูนย์ขายของที่ระลึก เพื่อแวะไปยัง สถาบันทักษินคคีศึกษา บนเนินเขาบนเกาะยอ จังหวัดสงขลา ใกล้เชิงสะพานติณสูลานนท์ช่วงที่ 2 เพื่อศึกษาเกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมของภาคใต้ มีพื้นที่ทั้งหมด 23 ไร่ อีกหนึ่งจุดเด่น คือ เป็นจุดชมทิวทัศน์ ที่สามารถมองเห็นทัศนียภาพที่สวยงามของทะเลสาบสงขลาในมุมสูงที่มีสะพานเปรมตินสูลานนท์ทอดยาวผ่านทะเลสาบ และภาพของบ้านเรือนและกระชังปลากระพงที่ชาวบ้านเลี้ยงไว้ ซึ่งเป็นวิถีชีวิตชาวประมงเกาะยอ
สำหรับการเดินทางเมื่อผ่านวัดแหลมพ้อข้ามสะพานติณสูลานนท์ช่วงที่ 1 ก่อนถึงสะพานช่วงที่ 2 จะมีทางแยกเข้าไปภายในสถาบันทักษินคดีศึกษา มาถึงทางเข้าเสียค่าชมตามอัตรา จากนั้นขับรถไปตามเส้นทางผ่าน มาถึงอาคารอาศรมศิลปกรรมทักษิน ที่ข้างบนมีอาคารขนาดหลังเล็กมีความแปลกตา เป็นอาคารอิฐปูนสีแดงก่อป็นรูปวงกลมคล้ายเตาโบราณ ตั้งเรียงรายกัน ซึ่งอาคารดังกล่าว คือ บ้านพักซึ่งเปิดให้บริการสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการมาพักราคาคืนละประมาณ 800 บาท เท่านั้น ส่วนด้านหน้าที่พักวิวดีมาก มีลานระเบียงกว้าง มองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบสงขลาและสะพานติณสูลานนท์ช่วงที่ 2 ในมุมสูงได้อย่างสวยงามกว้างไกล
จากอาคารอาศรมศิลปกรรมทักษินขับรถต่อเข้ามาอีกนิดจะพบกับรูปปั้นมโนราห์หลายตัว ตั้งอยู่ในจุดที่สามารถเดินลงไปชมวิวทะเลสาบสงขลาได้เช่นกัน ตรงจุดนี้ยังมีหอชมวิวสถาบันทักษินคดีศึกษา พิพิธภัณฑ์คติชนวิทยา ร้านกาแฟ และอาคารต่างๆ อีกหลายอย่างซึ่งแสดงวิถีชีวิตชาวใต้
15.30 น. กลับที่พักศรีเกาะยอ รีสอร์ท
พักหลังจากขับรถเที่ยวท้าแดด ท้าลมมาตลอดทั้งวัน ก็ได้เวลาพักผ่อน มาเที่ยวเกาะยอตามที่บอก คือ จะมาแบบเช้าไปเย็นกลับแล้วไปค้างคืนในเมืองสงขลาก็ได้ แต่เราอยากค้างบนเกาะยอ เพราะอยากสัมผัสได้แบบเต็มที่ จึงเลือกค้างบนเกาะ 1 คืน ที่พักบนเกาะยอมีหลายแบบทั้งแบบโฮมสเตย์ของชาวบ้านที่อยู่กลางทะเลสาบสงขลามองเห็นวิวได้แบบเต็มตาแต่ส่วนใหญ่ที่พักโฮมสเตย์ต้องมากันเป็นหมู่คณะจึงจะพักได้ เพราะเป็นบ้านหลังใหญ่แบบหลังเดียว และแบ่งซอยห้องให้นอนรวมกัน โฮมสเตย์จะเป็นแบบห้องพัดลมเกือบทั้งหมด หรือหากใครติดการพักในห้องแอร์ และมากันจำนวนสองสามคนก็เลือกพักที่รีสอร์ทได้ มีหลายแห่ง ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรีสอร์ทเล็กๆ ราคาจะอยู่ที่หลักร้อยกลางๆถึงปลาย ส่วนเราเลือกพักที่ ศรีเกาะยอ รีสอร์ท ซึ่งอยู่ริมถนนฝั่งตรงกันข้ามวัดแหลมพ้อและสถานที่ท่องเที่ยว ร้านอาหารต่าง ๆ ซึ่งอาจจะไม่ค่อยสะดวกสำหรับการเดินทางเพราะต้องกลับรถใต้สะพานมาอีกครั้งหนึ่ง แต่เพราะชอบบรรยากาศที่สงบเป็นส่วนตัติดทะเลสาบสงขลา สภาพที่พักค่อนข้างใหม่ เลยเลือกพัก บ้านพักอยู่ริมทะเลสาบสงขลา เป็นห้องแถวติดกันแบบปูนเปลือยมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ แต่มีบ้านเพียงหลังเดียว วิวดีที่สุด คือ บ้านหลังที่ 10 ตั้งอยู่แนบชิดทะเลสาบเลย ลมพัดเย็นมากแต่ถ้านั่งรับลมนานๆ อาจเหนียวตัวได้ เราเลือกพักหลังนี้ในราคาคืนละ 800 บาทเท่านั้น
ภายในห้องพักเป็นกระจกเห็นวิวทะเลสาบรอบด้านเก๋กู๊ดมาก
บรรยากาศของพื้นที่ส่วนกลางรอบที่พัก มีมุมต่างๆ ให้นั่งเล่นพักผ่อน ทั้งเก้าอี้ แปลญวน และเรือคายัค มีสะพานไม้ทอดยาวไปยังริมทะเลสาบ ช่วงเช้าพระอาทิตย์ขึ้นตรงหน้าบ้านสวยมาก
17.30 น. มหัศจรรย์เกาะยอ
ได้เวลาอาหารเย็นจากที่พักกลับรถไปยังอีกฝั่ง เพื่อไปยัง มหัศจรรย์เกาะยอ ร้านอาหารชื่อดังที่ตั้งอยู่บนเกาะยอ ร้านอาหารทะเลสด รสอร่อยจากทะเลเกาะยอความโดดเด่นของร้านคือ บรรยากาศที่นั่งติดริมทะเลสสาบสงขลา ตกแต่งร้านสวย ทันสมัย มองเห็นวิวทะเลสาบสงขลาแบบกว้างไกล รวมทั้งบ้านเรือนและวิถีชีวิตของชาวประมงบนเกาะยอ โดยเฉพาะในยามเย็นนั้นบรรยากาศดีมาก สามารถชมวิวแสงสีทองของพระอาทิตย์ตกได้อย่างสวยงามจากร้านเลยทีเดียว
การเดินทางข้ามสะพานเปรมตินสูลานนท์ ผ่านสถาบันทักษิณคดีศึกษา จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนด้านในเกาะ ร้านอยู่ด้านขวา มีป้ายชัดเจน ร้านจะตั้งอยู่ในย่านชุมชนที่พักโฮมสเตย์ของเกาะยอหลายแห่ง โดยที่นั่งภายในร้านแบบโอเพ่นแอร์สามารถชมวิวและรับทะเลได้แบบเต็มที่ เมื่อเข้ามาภายในร้านจะพบกับโซนแรก ที่ตั้งอยู่ติดชายฝั่ง ซึ่งเป็นที่นั่งแบบโต๊ะเก้าอี้
มาถึงโซนยอดฮิต ที่นั่งกลางทะเลสาบ ตกแต่งได้แบบเก๋ไก๋ เน้นเป็นที่นั่งแบบนั่งติดกับพื้น ทั้งแบบเก้าอี้ และเบาะโซฟา แถมมีเแปลชิงช้าให้นั่งเล่นมองวิวเพลินๆ ลมพัดเย็นสบาย โซนนี้เหมาะสำหรับมานั่งในยามเย็นหรือค่ำคืน เพราะแดดจะไม่ร้อนมาก เพื่อช,บรรยากาศของพระแสงสีทองในยามเย็น
นั่งทานอาหารก็จะได้ชื่นชมกับบรรยากาศของภาพทะเลสาบสงขลา เห็นอยู่เป็นบ้านหลักเล็กๆ กลางทะเลสาบสงขลา ภาษาใต้ เรียกว่า หนำยอ หรือ ขนำ เป็นกระชังเลี้ยงปลากระพงของชาวบ้านเกาะยอ ปลากระพงของที่นี่ขึ้นชื่อเรื่องความสด เนื้อนิ่ม อร่อยที่สุดในประเทศไทย
ที่พักแบบโฮมสเตย์บนเกาะยอ ของชาวบ้านบนเกาะ ส่วนใหญ่ก็จะตั้งอยู่บริเวณนี้ทั้งหมด สามารถมองเห็นได้จากร้านอาหาร นั่งทานอาหารไปบางครั้งก็จะได้ยินเสียงร้องคาราโอเกะเข้ามาตลอด
สำหรับอาหาร ทางร้านเน้นเป็นอาหารใต้ท้องถิ่นและอาหารทะเล ซึ่งมีเมนูแนะนำมากมาย พลาดไม่ได้แนะนำต้องสั่ง คือ แกงคั่วไข่ปลาริวกิว รสชาติอร่อยเข้มข้นหอมครื่องแกงใต้แถมให้ไข่เยอะมาก และขนาดของไข่ปลาก็ใหญ่มาก เมนูต่อมาต้องสั่ง คือ ปลาหมึกไข่ผัดหวาน ที่รสชาติกลมกล่มหวานกำลังดี ทานจนเพลินไปเลย เมนูอีกจานสั่งมาลองชิม คือ กั้งทอดกระเทียม ซึ่งทางร้านจะเอาไปชุบแป้งทอดก่อน ซึ่งปกติเคยทานแต่แบบไม่ชุบแป้ง เมนูนี้เลยอาจไม่คุ้นลิ้นเท่าไหร่ ส่วนเมนูเด็ดอื่นๆของทางร้าน อย่างเช่น ปลากระพงนึ่งมะนาว กุ้งทอดราดซอสมะขาม ยำไข่แมงดา ซึ่งเป็นอาหารขึ้นชื่อ มาถึงเกาะยอ อยากทานอาหารทะเล ต้องไม่พลาด เพราะนอกจากบรรยากาศของร้านที่ดีมากแล้ว รสชาติอาหารยังถือว่าอร่อยสอบผ่านอีกด้วย
ร้านมหัศจรรย์เกาะยอ
ตั้งอยู่บนเกาะยอ อ.เมือง จ. สงขลา เลยจากสถานบันทักษิณศึกษา จากนั้นเลี้ยวซ้ายเข้าถนนด้านในเกาะ ร้านอยู่ด้านขวา มีป้ายชัดเจน
เปิดให้บริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10:00 – 22:00 น.
โทร 095 440 3111
18.30 น. สัมผัสแสงสีทอง บรรยากาศยามพระอาทิตย์ตก
อิ่มท้องแล้วต้องไปเดินย่อย ความงดงามงามของเกาะยอ ที่ไม่ควรพลาด คือ ชมและเก็บภาพบรรยากาศยามเย็นในช่วงเวลาพระอาทิตย์กำลังลาลับขอบฟ้า ที่มีวิวของกระชังปลากระพงตั้งเรียงรายอยู่กลางน่านน้ำทะเลสาบสงขลา จากร้านมหัศจรรย์เกาะยอเราเดินเลียบถนนเก็บบรรยากาศไปเรื่อยๆ ได้เห็นทั้งวิถีชีวิตของชาวประมงบนเกาะที่กำลังออกหาปลา บ้านเรือนของชาวบ้านได้ยินเสียงทำกับข้าว ได้เห็นภาพของที่พักโฮมสเตย์ที่บางหลังก็คึกคื้นไปด้วยนักท่องเที่ยว และบางหลังก็ดูเงียบสงบน่ามาพักผ่อน ทุกอย่่างกลายเป็นองค์ประกอบที่ทำให้บรรรยากาศในเย็นกลายเป็นภาพที่มีเสน่ห์มาก สำหรับเรานี่คือ ภาพไฮไลท์ที่ตั้งใจมาชมก็ว่าได้
ที่พักแบบโฮมสเตย์ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในทะเลสาบสงขลา หากใครพักแบบโฮมสเตย์ ก็จะมีความดีงามตรงนี้ คือ เห็นภาพแบบนี่ได้จากหน้าที่พัก
กระชังเลี้ยงปลากระพงของชาวบ้าน
เป็นครั้งแรกในรอบหลายเดือนที่เราเลือกจะเก็บภาพเหล่านี้ โดยไม่รีบกลับไปพักผ่อนนอนสบายอยู่ที่บ้านพัก เป็นช่วงเวลาไม่นานเพียงแค่ 1ชั่วโมง ที่เรารู้สึกสุขใจกับสิ่งที่ได้พบเห็น ในใจคิดว่า นี่คงไม่ใช่ครั้งแรกสำหรับเกาะยอ ต้องมาซ้ำอีกแน่นอน เกาะยอ ถึงแม้ชื่อจะให้ความรู้สึกว่า ต้องเป็นเกาะที่มีทะเล มีชายหาด ตามแบบฉบับของเกาะทั่วไป แต่ไม่ใช่เลย เกาะยอ มีมากกว่านั้น ทั้งวิวริมทะเลสาบที่มีภูเขาขขนาบไว้ คาเฟ่บรรยากาศดีให้ได้นั่งเล่นถ่ายภาพสวยๆ ร้านอาหารสดอร่อย มีวัดสวย พระอาทิตย์ตกงาม เรียกว่าครบไปในทุกสิ่ง เหตุผลเหล่าเพียงเท่านี้ น่าจะเพียงพอสำหรับการเดินทางพักผ่อนแบบสงบที่ เกาะยอ