• หน้าแรก
  • 8 ที่เที่ยวเด็ดยโสธร กับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในประเทศไทย

8 ที่เที่ยวเด็ดยโสธร กับ 7 สิ่งมหัศจรรย์ที่สุดในประเทศไทย

หากคิดจะเที่ยวจังหวัดใดสักจังหวัดหนึ่งในภาคอีสาน หลายคนอาจจะคิดถึงแต่เมืองท่องเที่ยวยอดฮิต อย่างเช่น  เลย อุบล  อุดร  หนองคาย ชื่อของ ยโสธร อาจห่างไกลจากสารระบบท่องเที่ยวยิ่งนัก ทั้งที่จริงแล้วเมืองเล็กแสนสงบ ที่ยังคงมีวัฒนธรรมการใช้ชีวิตแบบดั้งเดิมแห่งอีสานใต้จังหวัดนี้  มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจเป็นอย่างมาก  อยากเที่ยววัดวาอารามที่สวยงามก็มีให้ชม อยากไปถ่ายภาพแบบชิคก็มีให้ถ่าย อยากไปชมอะไรที่เป็นที่สุดแบบมหัศจรรย์ซึ่งได้รับการขนานนามว่าเป็นที่สุดในประเทศไทยมีให้ชมถึง 7 สิ่ง  มากมายขนาดนี้แล้วจะไม่ให้ไปเยือนเมืองบั้งไฟได้อย่างไรกัน

7  สิ่งมหัศจรรย์จังหวัดยโสธร ที่สุดในประเทศไทย

1 ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง  เสาหลักเมือง 3 หลัก ที่เดียวในประเทศไทย

ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยโสธร ตั้งอยู่ย่านเมืองเก่าบ้านสิงห์ท่า ซึ่งเป็นย่านการค้าที่สำคัญในอดีตของเมืองยโสธร มีความโดดเด่นในเรื่องของสถาปัตยกรรม โดยผสมผสานศิลปะของ 3 วัฒนธรรม คือ จีน ไทย ลาว  นอกจาก ความพิเศษของสถาปัตยกรรมแล้ว สิ่งที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งคือ ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง ยโสธร มีเสาหลักเมืองถึง 3 เสา  ที่เดียวในประเทศไทย เสาต้นใหญ่ตรงกลางคือเสาหลักเมือง ส่วนเสาที่อยู่ซ้ายขวา คือ ที่สิงสถิตย์ของผี พระละงุมและผีพระละงำ ผู้ปกปักษ์รักษาหลักเมืองแห่งนี้   ด้านหน้าของศาลหลักเมือง มีปืนนางป้อง ซึ่งเป็นปืนที่ได้รับพระราชทานจากรัชกาลที่ 4 สำหรับไว้รักษาเมืองตั้งอยู่

ข้อมูลเพิ่มเติม คลิ๊ก  ศาลเจ้าพ่อหลักเมือง 

2  พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก  อาคารรูปทรงคางคกที่ใหญที่สุดในประเทศไทย

พิพิธภัณฑ์พญาคันคาก หรือ พิพิธภัณฑ์คางคก แลนด์มาร์คที่โดดเด่นแปลกตาของจังหวัดยโสธร ตั้งอยู่ริมอ่างเก็บน้ำลำทวน อำเภอเมือง บริเวณสวนสาธารณะพญาแถน เป็นพิพิธภัณฑ์ที่สอดแทรกตำนานเรื่องเล่าพื้นเมืองของชาวอีสาน เกี่ยวกับตำนาน พญาคางคกและประเพณีบุญบั้งไฟอันโด่งดัง    ตัวอาคารถูกออกแบบให้เป็นรูปคางคกขนาดยักษ์โดยมีนิทรรศการภายในบอกเรื่องเกี่ยวกับที่มาของบั้งไฟ โดยจัดฉายเป็นภาพยนตร์ 4 มิติ และนิทรรศการเกี่ยวกับคางคกชนิดต่าง ๆ ที่พบได้ในเมืองไทยที่มีอยู่กว่า 20 ชนิด และมีการรวบรวมของดีทางด้านเกษตรกรรม ของเมืองยโสธรไว้ภายในพิพิธภัณฑ์ รวมถึงเกล็ดเล็กเกล็ดน้อยของจังหวัดยโสธร

 

 วัดมหาธาตุ 

วัดมหาธาตุ เป็นวัดคู่บ้านคู่เมืองยโสธรมาตั้งแต่แรกสร้างเมือง  ตั้งอยู่ภายในเขตเทศบาลเมือง มี โบราณสถานและโบราณวัตถุที่สำคัญในวัด คือ พระพุทธบุษยรัตน์ หรือพระแก้วหยดน้ำค้าง   พระธาตุอานนท์ และหอไตรโบราณกลางน้ำ  วัดมหาธาตุมี 2 สิ่งหนึ่งเดียวในประเทศไทยดังนี้

3 พระพุทธรูปประจำเมืองที่มีขนาดเล็กที่สุด

พระพุทธบุษยรัตน์ หรือพระแก้วหยดน้ำค้าง เป็นพระพุทธรูปปางสมาธิ ศิลปะสมัยเชียงแสน เป็นพระบูชาคู่บ้านคู่เมืองของยโสธร ที่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 3 โปรดเกล้า ฯ พระราชทานให้พระสุนทรราชวงศาเจ้าเมืองยโสธรคนแรก

4 พระอัฐธาตุพระอานนท์ หนึ่งเดียวในประเทศไทย  วัดมหาธาตุ 

พระธาตุอานนท์  ตั้งอยู่ใน วัดมหาธาตุ  พระธาตุเก่าแก่ที่สำคัญองค์หนึ่งในภาคอีสาน การก่อสร้างได้รับอิทธิพลศิลปะลาวที่นิยมสร้างขึ้นเมื่อปลายสมัยกรุง ศรีอยุธยาถึง ต้นรัตนโกสินทร์  เจดีย์มีลักษณะเป็นทรงสี่เหลี่ยม  ส่วนยอดคล้ายพระธาตุพนม  ภายในบรรจุอัฐิของพระอานนท์ ซึ่งมีที่เดียวในประเทศไทย  และเป็น 1 ใน 2 ที่ในโลก คือ อินเดีย กับประเทศไทย พระอานนท์ คือ พระอนุชาของพระพุทธเจ้า ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้มีสติปัญญาความจำเป็นเลิศ  คนส่วนใหญ่จึงนิยมมากราบไหว้พระธาตุอานนท์เพื่อขอพรในด้านความมีสติปัญญาและหายจากอาการเจ็บป่วยต่างๆ

พระพุทธรูปหยกขาว ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย วัดพระพุทธบาท

วัดพระพุทธบาท ยโสธร ตั้งอยู่ที่ บ้านหนอกยาง ต.หัวเมือง อ.มหาชัย จ.ยโสธร โบราณสถานสำคัญที่มีประวัติความเป็นมายาวนาน ตั้งอยู่บนเนินทรายริมฝั่งแม่น้ำชีทัศนียภาพสวยงามสงบร่มเย็น วัดพระพุทธบาทยโสธรแห่งนี้ประดิษฐานรอยพระพุทธบาท นับเป็น โบราณสถานอันล้ำค่าของจังหวัด  ภายในวัด โดดเด่นด้วยพระอุโบสถสีขาวหลังคาสีน้ำเงิน มีความงดงามตามแบบศิลปะประยุกต์ ทั้งการออกแบบรั้วและระเบียงที่มีลวดลายปูนปั้นที่ดูแปลกตา ภายในประดิษฐานพระประธานที่เจียระไน จากหยกขาวขนาดหน้าตัก กว้าง 2.31เมตร สูง 3.7 เมตร ซึ่งถือเป็นพระพุทธรูปหยกขาวใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

6 โบสถ์คริสบ้านซ่งแย้  โบสถ์ไม้ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย

โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้  ตั้งอยู่ที่  อำเภอไทยเจริญ จังหวัดยโสธร  เป็นโบสถ์ไม้ ของคริสต์ศาสนาที่มี ขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและมีอายุถึง 100 ปี  โบสถ์คริสต์บ้านซ่งแย้ มีชื่อเต็มๆ ว่า  “วัดอัครเทวดามีคาแอล”  ที่มีโบสถ์ไม้หลัง ใหญ่ตั้งอยู่อย่างโดดเด่นเป็นสง่า ซึ่งทั้งหมจากพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้าของคริสต์ชน ที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันสร้างโบสถ์ไม้ขนาดใหญ่ที่สุดนั้น ในปัจจุบันโบสถ์แห่งนี้สามารถบรรจุคนได้มากกว่า 500 คน โบสถ์แห่งนี้เป็นโบสถ์คริสต์นิกายโรมันคาทอลิคที่สงบ และงดงาม

 

ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก หนึ่งเดียวในโลก

ประเพณีแห่มาลัยข้าวตอก ของชาวอำเภอมหาชนะชัย เป็นประเพณีที่สืบสานกันมาอย่างยาวนาน เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาในวันมาฆะบุชาทุกปี  โดยพวงมาลัยที่สวยงามทำมาจากข้าวเปลือกที่นำมามาคั่วไฟอ่อนๆจนเนื้อด้านในแตกและบานออกกลายเป็นตอกข้าวเม็ดเล็กๆ  จากนั้นจึงนำมาร้อยเป็นมาลัยขนาดใหญ่ ซึ่งชาวบ้านแต่ละชุมชนจะนำมาร้อยเป็นมาลัยข้าวตอกให้สวยงาม  หากใครพลาดการชมความงามของมาลัยข้าวตอกในวันมาฆบูชา สามารถมาชมทั้งปีได้ที่  พิพิธภัณฑ์มาลัยข้าวตอก  วัดหอกอง  ส่วนมาลัยข้าวตอกที่ชนะเลิศในแต่ละปี จะถูกนำไปจัดแสดงไว้ที่ วัดพระพุทธบาท

 สถานที่ท่องเที่ยวอื่นในยโสธรที่ต้องไม่พลาด

 ย่านเก่าบ้านสิงห์ท่า

บ้านสิงห์ท่า  ตั้งอยู่ในอำเภอเมือง จังหวัดยโสธร เป็นย่านการค้าตั้งแต่สมัยโบราณและได้เจริญขึ้นเมื่อสมัยฝรั่งเศสเข้ามามี อิทธิพลมาก ในภูมิภาคนี้ในช่วงนั้นเองผู้ที่มีฐานะดี มีการนำเข้าช่างฝีมือจากเวียดนามจำนวนมากเข้ามาสร้างบ้านเรือน ทำให้บ้านเรือนมีรูปแบบ ศิลปกรรมแบบจีนผสมยุโรปที่งดงาม ปัจจุบันยังคงเหลือให้เห็นบนสองข้างทาง ถนนศรีสุนทร นครทุม อุทัยรามฤทธิ์ และวิทยะธำรง บางแห่งยังคงความสมบูรณ์อยู่มาก บอกถึงบรรยากาศของความเป็นอดีต ขณะที่อีกหลายแห่งถูกปล่อยให้รกร้าง ขาดคนอาศัย สร้างเสน่ห์ให้บ้านสิงห์ท่าสวยงามมาจนทุกวันนี้

พระธาตุก่องข้าวน้อย

ธาตุก่องข้าวน้อย หรือที่นิยมเรียกกันว่าพระธาตุก่องข้าวน้อย  เป็นเจดีย์เก่าแก่ศิลปะแบบขอมตั้งอยู่วัดทุ่งสะเดาบ้านสะเดา ตำบลตาดทองอำเภอเมืองจังหวัดยโสธร ธาตุก่องข้าวน้อยเป็นเจดีย์ก่ออิฐถือปูน รูปทรงแปลกไปจากเจดีย์โดยทั่วไป ประวัติของการสร้างธาตุแห่งนี้แตกต่างไปจากธาตุอื่น ๆ ที่มักเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา โดยเป็นนิทานพื้นบ้านโบราณที่เกี่ยวข้องกับชายคนหนึ่งที่หิวอาหารจนหน้ามืดทำร้ายมารดาเสียชีวิต จนสุดท้ายขอชวชและสร้างองค์ธาตุแห่งนี้เพื่อไถ่บาป  จนเป็นที่มาของ คำว่า กล่องข้าวน้อยฆ่าแม่